‘นารา’ พบ ก.ยุติธรรมฯ ให้เป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย ผู้เสียหาย ‘กล่องสุ่ม’ จ่อชดใช้ ยันไม่คิดหนี

“นารา เครปกะเทย” รับ นำเงินจากการ “ขายกล่องสุ่ม” มาหมุน “ทนายเดชา” พาพบ ก.ยุติธรรมฯ ให้เป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย เจ้าตัวยันไม่คิดหนี เอาบ้านไปจำนองแล้ว เตรียมชดใช้ผู้เสียหายรวมมูลค่ากว่า 12 ล้าน

ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เจ้าของเพจทนายคลายทุกข์ เป็นตัวกลางพา นายอนิวัต ประทุมถิ่น หรือ นารา เครปกะเทย เข้าพบ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้เป็นตัวกลางในการช่วยไกล่เกลี่ยกับกลุ่มผู้เสียหายที่ซื้อกล่องสุ่มทองแล้วไม่ได้ทองตามเงื่อนไขที่ตกลง มีผู้เสียหาย 98 ราย รวมมูลค่ากว่า 12 ล้านบาท และกลุ่มผู้เสียหายเปิดบิลเป็นตัวแทนขายสินค้า ซึ่งคาดว่าผู้เสียไม่ต่ำกว่า 100 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณการณ์ที่หลักล้านบาทเช่นกัน

โดย นารา เปิดเผยว่า วันนี้ไม่ได้มาเพื่อต่อสู้คดี แต่มาแสดงเจตนาว่าจะไม่หนีและยืนยันจะใช้หนี้ให้กับผู้เสียหายทุกคน โดยยอมรับว่า การขายกล่องสุ่มของตนเองไม่ได้กำไรจากการขาย แต่เป็นการนำเงินของผู้เสียหายมาหมุน ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นการลงทุนไปซื้อของมาขาย โดยสามารถซื้อทองมาส่งให้ลูกค้าตามเงื่อนไขกล่องสุ่มได้ในช่วงแรก แต่สุดท้ายก็เริ่มไม่ไหว ทำให้กลุ่มผู้เสียหายออกมาแฉเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา


ตอนนี้ตนเองได้พยายามหาเงินมาคืนผู้เสียหายด้วยการขายรถ นาฬิกา และทรัพย์สินต่างๆ ไปแล้ว พร้อมนำบ้านเข้าจำนองธนาคาร รวมถึงจะนำบ้านของคุณแม่ที่สร้างก่อนจะขายกล่องสุ่มนำเข้าธนาคารเพื่อหาเงินมาใช้หนี้เช่นกัน นอกจากนี้ตนยังนำเงินทุนของตนเองบางส่วนมาเปิดร้านเครป ซึ่งเป็นอาชีพดั้งเดิมของตนเองและมีอุปกรณ์อยู่แล้ว โดยยืนยันว่า จากกรณีที่มีเฟซบุ๊คเพจหนึ่งกล่าวอ้างว่า ตนระดมทุนมาเปิดร้านเครปนั้น ไม่เป็นความจริง


ส่วนเงินที่ได้จากการเปิดบิลลูกค้าล็อตล่าสุดก็ได้นำไปสั่งสินค้าและผลิตสินค้าตัวใหม่ออกมาขาย ซึ่งถ้าหากสินค้าทั้งหมดนี้ขายได้ดี ก็จะสามารถนำเงินมาใช้ผู้เสียหายได้เร็วที่สุดภายในพฤษภาคมนี้ แต่จะเป็นลักษณะการทยอยคืนให้แก่ผู้เสียหายตามตารางเวลา ไม่ได้คืนเงินทั้งก้อน วันนี้จึงมาวอนขอโอกาสจากลูกค้าและประชาชนทุกคนในการทำมาค้าขายเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ ยืนยันว่า ตนไม่เคยมีเจตนาหลอกลวงมาตั้งแต่ต้นและจะส่งสินค้าให้กับลูกค้าทุกคนอย่างแน่นอน ซึ่งตอนนี้ได้ทยอยคืนหนี้กล่องสุ่มให้แก่ผู้เสียหายแล้วจนเหลืออีกแค่ 10 กว่าราย ส่วนหนี้เปิดบิลยังไม่ได้สรุปจำนวนค่าเสียหาย แต่มีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่าร้อยราย


นอกจากนี้ นารายังปฏิเสธถึงกรณีที่เพจกล่าวอ้างว่าตนเองใช้บัญชีม้า ยืนยันว่าไม่มี เพราะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและไม่รู้จักบุคคลที่ถูกอ้างว่าเป็นเจ้าของบัญชีม้ามาก่อน ส่วนที่ทางเพจแชร์ว่าตนเองล้มละลายจากการนำเงินไปลงทุนคลิปโต ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยเพจดังกล่าวมีหลายคนที่ตัดต่อและบิดเบือนแต่งข้อความและนำข้อมูลเก่าๆ มาใส่ร้ายตนเอง ส่วนประเด็นเว็บพนันออนไลน์นั้นตน ยืนยันว่าไม่เคยเกี่ยวข้องและนำเงินจากกล่องสุ่มไปลงทุนแต่อย่างใด ในอดีตตนเคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์มาก่อน ซึ่งตนก็นำมาเป็นบทเรียนแล้วว่าไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์อีก



นารายังระบุอีกว่า ตนไม่กังวลหากผู้เสียหายจะใช้สิทธิ์แจ้งความดำเนินคดีทางอาญาก็ให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย แต่ยังขอร้องบรรดาผู้เสียหายว่า ขอโอกาสให้เวลาตนสักระยะในการหาเงินมาใช้หนี้

ด้าน ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต ระบุว่า ทางกระทรวงยุติธรรมจะรับเรื่องในการช่วยไกล่เกลี่ยให้กับผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายสามารถติดต่อกระทรวงยุติธรรมหรือลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย ภายใต้วงเงินไกล่เกลี่ยไม่เกิน 5 ล้านต่อราย หรือติดต่อศูนย์ไกล่เกลี่ยภาคเอกชนทั่วประเทศ ภายใต้วงเงินไกล่เกลี่ยไม่เกิน 500,000 บาทต่อราย ซึ่งหากสามารถไกล่เกลี่ยได้แล้ว ก็สามารถที่จะขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีได้เลย ซึ่งถ้าหากว่าฝั่งนาราเองผิดหมายบังคับคดี ก็สามารถดำเนินการขอยึดทรัพย์นาราได้ ตามกระบวนการทางกฎหมาย

ส่วนคดีอาญา ผู้เสียหายสามารถดำเนินการแจ้งความได้ตามสิทธิ ไม่เกี่ยวข้องกับการไกล่เกลี่ย ทั้งนี้ในส่วนของการเปิดกล่องสุ่มของนารา จะเข้าข่ายผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบ ข้อกฎหมายของพนักงานสอบสวนว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่