เปิดข้อมูลผลงานตำรวจชุดสืบสวนคดี 'บริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป'

ตำรวจสืบสวนนครบาล ชุดที่ทำคดียาเสพติดเครือข่ายนายทุนมินลัต จนขยายผลไปถึงการเสนอออกหมายจับ ส.ว. ที่อย่างน้อย 5 คน ถูกย้ายไปคนละทิศละทาง บางคนไปอยู่ชายแดน บางคนไปอยู่ต่างจังหวัด บางคนลดลงไปอยู่ระดับ สน.และแม้จะได้เลื่อนชั้นขึ้น แต่ก็ถูกย้ายจากฝ่ายสืบสวนไป อยู่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งหากจะอ้างว่า ถูกย้ายไม่เกี่ยวกับหมายจับ ส.ว. ก็มีอีกเหตุผลหนึ่ง คือ ไม่มีผลงานหรือย่างไร วันนี้ คุณสุมนา แจวเจริญวงศ์ จึงพยายามไปรวบรวมข้อมูลจากข่าวที่เราทำเกี่ยวกับยาเสพติดพบว่า ตำรวจชุดนี้ มีผลงานใน 3 ปี จับยาบ้าได้เกือบ 100 ล้านเม็ด จับไอซ์ได้มากถึง 4 ตัน


ผลงานการเข้าจับกุมกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติด ของตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล มีมาอย่างต่อเนื่อง หลายปีติดต่อกัน เป็นการปฏิบัติงานภายใต้ข้อจำกัดหลายอย่าง ทั้งเสี่ยงอันตราย จึงมีข่าวตำรวจที่เข้าจับกุมผู้ค้ายาถูกคนร้ายต่อสู้เสียชีวิตมาหลายครั้ง ก่อนเข้าจับกุมจึงต้องมีการวางแผน และการสืบสวนกลุ่มผู้ค้า แต่เมื่อลงมือปฏิบัติ ก็ยากแก่การคาดเดาว่าคนร้ายค้ายาจะยอมจำนนโดยง่ายหรือไม่ เพราะบางครั้งเมื่อคนร้ายจวนตัว ก็พยายามหลบหนีแบบไม่คิดชีวิต


การจับกุมของ ตำรวจชุดกองกำกับการ 2 สืบสวนนครบาล ซึ่งทำตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาโดยตลอด ว่าเมื่อจับเครือข่ายรายย่อยได้ ต้องขยายผลไปถึงเครือข่ายรายใหญ่ และให้ถึงระดับผู้สั่งการ และสิ่งสำคัญที่ทำให้เครือข่ายยาเสพติด เติบโต ต้องตัดวงจรการฟอกเงินจากยาเสพติด เพราะเมื่อระบบการจ่ายเงินค่ายาเสพติดไปยังฝั่งผู้ผลิตยังทำได้ การระบาดของยาเสพติด ภายในประเทศจึงยิ่้งจับยิ่งมาก


เมื่อจับรายย่อยและรายใหญ่ ตำรวจชุดนี้จึงพยายามแกะรอยถึงวิธีการฟอกเงิน ว่ามีการจ่ายค่ายาไปยังประเทศเพื่อนบ้านด้วยวิธีการใด จนพบว่า มีการจ่ายผ่านระบบตลาดมืดที่รับแลกเงิน และใช้บัญชีม้าที่กลุ่มผู้ค้ายาซื้อไว้หลายร้อยบัญชี ให้โอนผ่านไปยังบริษัท ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดน จนกระทั่งพบว่า มีบริษัททั้งลมปราณ


และบริษัทอัลลัวร์กรุ๊ป ที่มีเครือข่ายยาเสพติดโอนเข้าบัญชีจำนวนมาก จนนำไปสู่การจับผู้ต้องหาที่เป็นกรรมการผู้ถือหุ้นในบริษัททั้งสอง โดยการจับกุมนายทุนมินลัต และกลุ่มผู้บริหารจำนวน 4 คน เป็นไปด้วยความปกติ กระทั่งการออกหมายจับสมาชิกวุฒิสภา จนเกิดเหตุการณ์ถอนหมายจับขึ้น


ตามมาด้วยชะตากรรมของตำรวจชุดสืบสวนคดีนี้ ถูกโยกย้ายออกจากหน่วยไปคนละทิศละทาง แม้จะมีความชำนาญในการสืบสวนการฟอกเงินในคดียาเสพติด ซึ่งมีตำรวจไม่กี่คนจะสืบได้ ทำให้ตำรวจชุดสืบสวนที่ถูกโยกย้ายไปสภ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ไปร้องขอความเป็นธรรมกับนายกสมาคมตำรวจ


ขณะที่ผลงานการจับกุมคดียาเสพติด ของตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล ตั้งแต่ปี 2561 มี 10 คดี มีผลการจับกุมเครือข่ายใหญ่ได้ตั้งแต่ต้นปี จนถึงปลายปี ตั้งแต่ 10 ล้านเม็ดขึ้นไป 2 ครั้ง ไอซ์เกือบ 1200 กิโลกรัม

ปี 2562 ตั้งแต่เดือนมกราคม จับกุมรายใหญ่ได้ 8คดี ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มจับเครือข่ายรายย่อยนายพิทวัสได้

ปี 2563 จับกุมได้ 11 คดี ปี 2564 จับกุมได้15 คดี ร่วมทั้งจับเครือข่ายรายใหญ่ นายพิทวัส หรือคิงนนทบุรีได้

ปี 2565 จับได้ 9 คดี รวมทั้ง จับเครือข่ายฟอกเงินยาเสพติดได้ ทั้งนายวรวัฒน์ วังศพ่าห์และนายทุนมิตลัต


รวมในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จับยาบ้าได้กว่า 80 ล้านเม็ด ไอซ์ 4ตัน และยาเสพติดประเภทอื่นอีกหลายคดี ยึดทรัพย์ได้กว่า 1พันล้านบาท