บช.ปส.แจงเงื่อนไข กม.ครอบครองยาบ้า 5 เม็ด หลังสังคมมองเปิดช่องผู้ขายรายย่อย

จากการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศเดือนละมากกว่า 10 ล้านเม็ดขึ้นไป แม้จะมีการปราบปรามจับกุมได้หลายเครือข่าย ก็พบว่าผู้สั่งการอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศไทยจึงมีผู้เสพยามากกว่า 150,000 คน ที่เคยเข้าสู่ระบบการบำบัด แต่ก็ยังเกิดเหตุคลุ้มคลั่งรายวัน

โดยกฎหมายใหม่กำหนดให้มียาครอบครองได้ 5 เม็ด ยังมีความเข้าใจคาดเคลื่อนว่าจะไม่ถูกดำเนินดคีแต่กฎหมายฉบับนี้จะบังคับใช้สำหรับผู้เสพหน้าใหม่ที่ไม่เคยมีประวัติยาเสพติดมาก่อนเท่านั้น จะไม่ถูกดำเนินคดีหากตรวจพบยา 5 เม็ด



การนำเข้ายาเสพติดจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้านในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีปริมาณมากกว่า 20 ล้านเม็ด ไอซ์กว่า 1000 กิโลกรัม โดยตำรวจปราบปรามยาเสพติด จับทีมลำเลียงรับจ้างตายแทนไปรับยาเสพติด จากภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านจ.นครพนม จนถึง จ.สกลนคร คนร้ายพยายามขับรถแหกด่านหนี กระทั่งจับได้ที่ อ.เต่างอย พบยารวม 4 ล้านเม็ด ขณะที่อีกกลุ่มก็รับยามาถึง กว่า 5 ล้านเม็ด จับได้ที่ บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น



ส่วนทีมลำเลียงรับจ้างตายแทนทางชายแดนภาคเหนือ เพิ่งพ้นโทษออกมารับงานถูกจับได้ที่จ.กำแพงเพชร 3 คน จะนำไปส่งจ.สงขลา อีกเครือข่ายจับได้ 4 คน ขับมาจากจ.เชียงราย ยึดทรัพย์ได้กว่า 3 ล้านบาท



ปริมาณนำเข้ายาเสพติดมายังไทยเฉลี่ยกว่า นับกว่า 10-20 ล้านเม็ดในทุกเดือน ทีมรับงานลำเลียง หรือรับจ้างตายแทน ก็ยอมรับว่ารับงานทุกเดือน เปลี่ยนคนใหม่ไปเรื่อย



บ่งชี้ถึงยาเข้ามาในประเทศไทยสูง การระบาดสูงตามไปด้วย ผู้เสพหน้าใหม่ก็จะเพิ่มตาม จึงมีข่าวคนคุ้มคลั่งอันตรายอยู่ทุกชุมชน



พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ชี้แจงถึง กม.ฉบับใหม่ที่ให้พกยา 5 เม็ด ซึ่งถูกตั้งคำถามของสังคมว่าอาจเป็นช่องทางให้ผู้ค้ารายย่อยขายครั้งละ 5 เม็ดได้จริงหรือไม่ โดยจากผลบังคับใช้กฎกระทรวงสาธารณสุข



เมื่อวันที่ 9 ก.พ.เรื่อง กำหนดปริมาณยาบ้าไม่เกิน 5 เม็ดเข้ารับบำบัด ไม่ดำเนินคดีอาญา โดยการบำบัดฟื้นฟู กระทรวงสาธารณสุข และมหาดไทยเป็นผู้ดำเนินการ โดยการพกยาบ้า 5เม็ด ถ้าหากมีพฤติกรรมจำหน่ายไม่ว่าจะมีกี่เม็ดถือว่าผิดกฎหมาย



และการออกกฎกระทรวงฉบับใหม่ ความจริงไม่อยากให้มีไว้ครอบครองแม้แต่เม็ดเดียว แต่ฉบับก่อนระเบียบระบุไว้ถึง 15 เม็ดให้ถือเป็นผู้เสพ



แต่เมื่อมติเห็นว่าลดลงเหลือ 5 เม็ดถือเป็นผู้เสพ แต่มีเงื่อนไขว่า ต้องเป็นผู้เสพที่ไม่เคยมีประวัติมาก่อน ถ้าเคยมีประวัติเสพมาแล้ว หรือเคยไปบำบัดมาแล้วไม่เลิก พบยา 5 เม็ดก็ถูกดำเนินคดีจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท



เป็นที่ทราบดีว่าสถิติคดียาเสพติดมาเป็นอันดับ1ของนักโทษมากที่สุดจนล้นเรือนจำ ผู้เสพที่มียา 5เม็ด จึงมีช่องทางให้บำบัด แต่ถ้าบำบัดแล้วไม่ผ่านหรือหนี ก็ถูกดำเนินคดี สรุปว่าต้องเป็นความผิดครั้งแรกเท่านั้นที่จะได้รับโอกาสไม่ถูกดำเนินคดีได้