สำรวจผลกระทบหลังไฟไหม้บ่อขยะสระแก้ว หลายพื้นที่ยังถูกปกคลุมด้วยควัน ปชช.วอนถอดบทเรียนป้องกัน

เหตุไฟไหม้บ่อขยะบนเนื้อที่กว่า 40 ไร่ ในเขตเทศบาลเมืองสระเเก้ว ซึ่งทำให้เกิดหมอกควันเเละฝุ่นละออง ลอยฟุ้ง-ปกคลุมพื้นที่รัศมีนับ 10 กิโลเมตร ล่าสุด เจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ได้เเล้ว เเต่ยังต้องเฝ้าระวังไฟที่ยังปะทุขึ้นมาเป็นระยะ ส่วนสาเหตุ คาดว่าไฟน่าจะลุกลามมาจากพื้นที่ข้างเคียง ขณะที่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถอดบทเรียนเเละหาเเนวทางป้องกัน เรียกร้องภาครัฐใช้มาตรการเด็ดขาดกับคนเผาอ้อยเเละพื้นที่เกษตร ซึ่งเป็นต้นเหตุหลักของมลพิษทางอากาศในจังหวัดสระเเก้ว



ภาพเหตุกาณ์ที่บันทึกไว้ หลังเกิดเหตุไฟไหม้บ่อขยะครั้งเเรก วันที่ 6 มีนาคม ไฟลุกลามขยายวงกว้าง เกิดเป็นกลุ่มควันหนาเเน่นลอยฟุ้งในอากาศ ทิศทางมุ่งเข้าตัวเมือง



เหตุการณ์นี้ ทำให้สภาพอากาศเขตเทศบาลเมืองสระเเก้ว ในรัศมีไม่น้อยกว่า 10 กิโลเมตร เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ปกคลุมไปด้วยหมอกควัน ส่งกลิ่นเเละทำให้ทัศนวิสัยการสัญจรบนท้องถนน มีสภาพอย่างที่เห็น จึงร่วมกับการใช้เครื่องฉีดพ่นละอองน้ำ ลดผลกระทบจากฝุ่นเเละควันไฟ ที่ยังปะทุขึ้นมาเป็นระยะ



บ่อขยะเเห่งนี้มีเนื้อที่ประมาณ 43 ไร่ ในพื้นที่ม.3 ต.หนองบอน อ.เมือง รายงานระบุว่ามีขยะสะสมประมาณ 5 หมื่นตัน อยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลเมืองสระเเก้ว



รองนายกเทศมนตรี ชี้เเจงกับข่าว 3 มิติ สันนิษฐานว่า ต้นเพลิงน่าจะลามมาจากพื้นที่ข้างเคียงทางด้านตะวันออก เเม้จะควบคุมไฟเเละกลุ่มควันได้เเล้ว เเต่ด้วยสภาพอากาศที่ยังมองเห็นหมอกควันลอยฟุ้ง หลายฝ่ายโดยเฉพาะภาคประชาชน ขอให้ภาครัฐถอดบทเรียนเเละหาเเนวทางป้องกัน หลังพบว่ารอบ ๆ บ่อขยะเป็นพื้นที่เกษตรเเละทุ่งหญ้า หากมีไฟลุกลาม อาจเสี่ยงที่จะเกิดเหตุซ้ำ



สระเเก้วเป็นอีกจังหวัดภาคตะวันออก ที่ประชาชนต้องเผชิญกับปัญหาหมอกควันเเละฝุ่นพิษทุกปี หลายพื้นที่พบการลักลอบเผาไร่อ้อยเเละพื้นที่เกษตร จึงเรียกร้องขอให้ภาครัฐ จริงจังเเละบังคับใช้กฏหมาย



กับผู้ที่ฝ่าฝืน เเละอยากให้เจรจากับโรงงาน กำหนดมาจรการควบคุม เเละการรับซื้อสินค้าที่มาจากการลักลอบเผา ลดภาระให้กับภาคสาธารณสุข หลังพบอัตราผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจมีเเนวโน้มเพิ่มขึ้น