สังคม

ชาวระยองจี้สอบงบโครงการ ทุ่ม 2.3 ล้านสร้างปี่พระอภัยมณี

โดย taweelap_b

11 ก.พ. 2566

91 views

กรณีชาวระยอง วิพากษ์วิจารณ์การก่อสร้างวงเวียนปี่พระอภัยมณี บริเวณทางแยกหน้าโรงเรียนกวงฮั้ว ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง ที่ไม่สมดุลย์ เพราะมีการสร้างปี่ขนาดใหญ่จากไฟเบอร์ ฐานกว้าง 2.5 เมตร สูง 10 เมตร มีรูปปั้นพระอภัยมณี สูง 2 เมตร สร้างจากอะลูมิเนียม อยู่ด้านบนของปี่ มองแทบไม่เห็น


นอกจากนี้การสร้างวงเวียนดังกล่าว ยังทำให้การจราจรติดขัดเป็นแถวยาว โดยเฉพาะช่วงเช้าและช่วงเลิกเรียน ทั้งที่ก่อนหน้านี้การจราจรไม่ติดขัดมากขนาดนี้ นอกจากนี้ ประชาชนยังให้ความสนใจต่องบประมาณการก่อสร้างกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการในความรับผิดชอบของแขวงทางหลวงชนบท จ.ระยอง ชาวบ้านจึงวิงวอนแก้ไขด่วน เพราะเดือดร้อนมาก ๆ กับปัญหารถติด จนกลายเป็นประเด็นต่อว่ากันสนั่นโซเชียล ตามที่เสนอไปแล้ว


ล่าสุดวันที่ 11 ก.พ. 66 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ บริเวณวงเวียนปี่พระอภัยมณี พบว่าช่างยังคงทำงานตามปกติ โดยมีการนำปี่มาติดตั้งบนมือของพระอภัยมณีแล้ว เมื่อสอบถามช่างต่างก็ปิดปากเงียบ บอกว่าพูดไม่ได้


สำหรับการจราจรบริเวณวงเวียน รถยังคงต้องชะลอตัว แม้จะเป็นวันหยุดการจราจรก็ยังคงติดขัด เจ้าหน้าที่ของโรงเรียน เปิดเผยถึงวงเวียนปี่พระอภัยมณี ว่า ในตอนแรกมองดูนึกว่าขวดน้ำปลา แต่เมื่อมารู้ว่าเป็นปี่ และรูปปั้นพระอภัยมณี ก็ถึงกับอึ้ง เพราะไม่สมดุลย์กัน ปี่ใหญ่และสูงเกินไป ส่วนรูปหล่อพระอภัยก็เล็กเกินไป เป็นการออกแบบที่แปลก ทั้งนี้ หลังสร้างวงเวียน รถกลับติดเพิ่มขึ้นมากขึ้น ส่วนงบประมาณการก่อสร้างจากการบอกของช่าง ประมาณกว่า 2 ล้านบาท ถ้าเป็นความจริง ก็นับว่าแพงเกินไป


น.ส.ดาราภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี แม่ค้าขายส้มตำตรงข้ามวงเวียน กล่าวว่า หลังก่อสร้างรถติดหนักกว่าเดิม เพราะพื้นที่วงเวียนมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 เมตร จึงทำให้พื้นที่ถนนหายไปส่วนหนึ่ง จึงเป็นสาเหตุของรถติดเพิ่มขึ้น ทางที่ดีควรจะสร้างสัญญาณไฟจราจรจะแก้ปัญหาได้ดีกว่าวงเวียน ส่วนความเห็นของลูกค้าเกี่ยวกับวงเวียนดังกล่าว บ้างก็มองเหมือนสากเบือมากกว่าปี่ นับเป็นการออกแบบที่ประหลาดมาก ส่วนชาวระยองต่างก็ต้องการให้ทางแขวงทางหลวง จ.ระยอง ออกมาชี้แจง ทั้งเรื่องการออกแบบ การแก้ปัญหาการจราจรติดขัด รวมถึง ชี้แจงเกี่ยวกับงบประมาณการก่อสร้างที่สูงกว่าความเป็นจริง ส่วนเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงระยอง ยังไม่มีการออกมาชี้แจงเนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุด


อย่างไรก็ตาม แขวงทางหลวงชนบทระยอง มีหนังสือถึงผู้บริหาร ขอรายงานข้อมูลชี้แจงกรณี ที่กำลังเป็นกระแสในโลกโซเชียล ระบุว่าโครงการดังกล่าวเป็นโครงการตามแผนปฏิบัติราชการจังหวัด/กลุ่มจังหวัดประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ชื่อโครงการ แก้ไขปัญหาจุดเสี่ยงจุดอันตรายเพื่อป้องกันและลดอุบัติภัยทางถนนในจังหวัดระยอง สถานที่ดำเนินการ ถนนโครงข่ายทางหลวงชนบท สาย รย.5037 แยกทางหลวงชนบท รย.4006 บ้านเชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ใช้เส้นทางในการคมนาคม ระยะทางดำเนินการ 5.775 กม. งบประมาณ 39,989,000 ล้านบาท


สำหรับรายละเอียดกิจกรรม ปรับปรุงเสริมผิวลาดยางแอสฟัตส์ ระยะทาง 4.639 กม.งานขยายถนน คสล. ระยะทาง 0.813 กม., งานก่อสร้างวงเวียนปี่พระอภัยมณี จำนวน 1 แห่ง เริ่มสัญญา 26 พฤษภาคม 2565 สิ้นสุดสัญญา 20 มีนาคม 2566 ระยะเวลาดำเนินการ 298 วัน รวมขยายสัญญาฯ งบปรับปรุงผิวจราจร และระบบระบายน้ำ 37,613,950 บาท คิดเป็น 94.06% ของโครงการ งบประมาณก่อสร้างปฏิมากรรมปี่พระอภัยมณี 2,375,050 บาท คิดเป็น 5.94% ของโครงการ


ทั้งนี้ หลักการและเหตุผลที่ต้องสร้างวงเวียนปี่พระอภัยมณี เพื่อต้องการลดจุดขัดแย้งบริเวณทางแยก เพราะว่าบริเวณทาง 4 แยก มีปริมาณจุดขัดแย้ง 32 จุด แต่วงเวียนมีจุดขัดแย้งเพียง 8 จุด ซึ่งบริเวณจุดนี้แยกนี้เมื่อก่อนเคยติดตั้งสัญญาณไฟจราจรมาแล้ว แต่ประชาชนขอให้ยกเลิก เพราะทำให้รถติด กับใช้เวลานานกว่าจะผ่านทางแยกไปได้ หลังจากที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจร บริเวณทางแยกนี้จึงไม่มีการควบคุมการจราจร ทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนไม่เคารพกฎจราจรและมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น จึงมีโครงการก่อสร้างวงเวียนปี่พระอภัยมณี เพื่อชะลอความเร็วของผู้ใช้รถใช้ถนน,ลดอุบัติเหตุ และเพิ่มแลนด์มาร์กแห่งใหม่ให้จ.ระยอง อีก 1 แห่ง


นอกจากนี้ สัญลักษณ์รูปปี่และพระอภัยมณี เป็นดังสัญญาลักษณ์ของจังหวัดระยอง สร้างขี้นเพื่อเป็นการระลึกถึงกวีเอกของไทยนามว่า ท่านสุนทรโวหาร (ภู่) ครั้งเมื่อยังมีชีวิตอยู่ในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น ทั้งนี้ หากการก่อสร้างแล้วเสร็จ ทั้งการเสริมผิวทางลาดยาง การติดตั้งป้ายจราจร การตีเส้นจราจร การติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่าง รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง แขวงทางหลวงชนบทระยอง จะดำเนินการต่อดังนี้ จัดเจ้าหน้าที่ไปอำนวยการจราจร ช่องรถติด เช้าเย็น จัดเจ้าหน้าที่ ไปชี้แจง แจกโบชัวร์ แนะนำวิธีการใช้วงเวียน ผู้ใช้เส้นทาง รับฟังปัญหา และข้อแนะนำมาปรับปรุงแก้ไข ให้สมบูรณ์ต่อไป และรับรองว่าจะเกิดความปลอดภัยต่อประชาชนผู้ใช้เส้นทางอย่างแน่นอน

คุณอาจสนใจ

Related News