สังคม

'หญิงไก่' ให้ปากคำ ตร.กองปราบฯ ฝากถึง 'เสี่ยสุรชัย' ขอให้มาทำเรื่องหย่า จะยกหนี้สิน 100 ล้านให้ด้วย

โดย panisa_p

8 ก.พ. 2566

286 views

“หญิงไก่”ให้ปากคำ ตร.กองปราบฯ หลังร้องขอความเป็นธรรม ผบ.ตร. ฝากข่าวถึงสามี ขอให้มาทำเรื่องหย่า จะยกหนี้สิน 100 ล้านบาทให้ด้วย



วันที่ 8 ก.พ. 66 ที่ศูนย์รับแจ้งความ บช.ก. หลังเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. กว่า 2 ช.ม. หญิงไก่ ศรัญญา พร้อมทนายโป้ง ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เมื่อเช้าตนพร้อมทนายไปรอนายสุรชัย ที่ศาลแขวงพระนครเหนือ พบว่ามีกลุ่มบุคคลจำนวนกว่า 15 คนมาในลักษณะกักตัวมากกว่ามาช่วยดูแลความปลอดภัย จนไม่มีโอกาสพบเจอและพูดคุยกับนายสุรชัย สามีที่ถูกต้องตามกฎหมายเลย


ส่วนที่มากองปราบฯ วันนี้ เพราะตนได้ยื่นเรื่องร้องกอบปราาบ ดำเนินคดีกับบุคคลที่เคยทำเรื่องร้องเรียนตน การที่คู่กรณีมาให้ข่าวสื่อฯ ว่าตนเอาเงินนายสุรชัยมา 30-50 ล้านบาทนั้น ไม่เป็นความจริง แต่ความเป็นจริงตนกลับเป็นฝ่ายหมดเงินไปมากกว่า


เราไม่ได้เอาเงินเขามาเลย  แต่การที่นายสุรชัย มาขอตนแต่งงาน แล้วเขียนเช็คจำนวน 100 ล้านบาทก็ยังไม่ได้ไปขึ้นเงินเลย แถมในส่วนของตนกลับหมดลงไปอีก นายสุรชัยบอกไว้ก่อนถูกพาตัวไปว่า จะจัดการเรื่องนี้ให้ รอขอขายทรัพย์สินก่อน ตอนนี้มีหนี้สินเยอะประมาณ 300 ล้านบาท


สำหรับทรัพย์สินอื่น เช่น ที่ดินที่มาออกข่าวว่ามีการโอนไปให้ลูกตนนั้น ตนมีหลักฐานว่าเป็นการใช้หนี้กับตน ซึ่งตามจริงแล้วหนี้สินที่นายสุรชัยติดค้างตนอยู่ร่วม 100 ล้านบาท


สำหรับการจดทะเบียนสมรสกับนายสุรชัย ที่คู่กรณีมองว่าเป็นการหลอกลวงพ่อไปจดทะเบียนหย่ากับสามีเก่า แล้วจดทะเบียนสมรสกับนายสุรชัยวันเดียวกันนั้น ตนไม่ได้ประสงค์ที่จะจดทะเบียนสมรสกับนายสุรชัยมาก่อนเลย แต่เป็นเพราะนายสุรชัยเองประสงค์ที่จะจดทะเบียนสมรสกับตน


เพราะเห็นว่าคู่กรณีมารังแกตน จะบุกมาราวีตนมากกว่า บอกว่าจะเอาบิ๊กแป๊ะ บิ๊กเผือก มาลุยตนบ้าง ตนไม่รู้จักบิ๊กสองคนนี้เป็นใคร แต่ยืนยันได้ว่าการจดทะเบียนสมรสเป็นความประสงค์ของนายสุรชัย เพื่อป้องกันไม่ให้ตนถูกคู่กรณีรังแก


หลังจากมีคนมาพานายสุรชัยออกไปจากบ้านย่านวังหินแล้วก็ไม่มีโอกาสเจอหรือได้พูดคุยกันเลย ตนมองว่าเป็นกฎแห่งกรรมที่นายสุรชัยถูกกักตัวมากกว่า ถึงขนาดต้องมีคนมาควบคุมคราวละ 15 คนมาขึ้นศาลแบบเช้าวันนี้


กรณีที่นายสุรชัย ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อ ผบ.ตร.ไปเมื่อ 15 ก.ย. 65 เนื่องจากเห็นว่าคู่กรณีได้มาแจ้งความร้องทุกข์กองปราบฯ ให้ตรวจสอบตนเมื่อ 8 ก.ย. 65 เป็นการทำไม่ถูกต้อง นายสุรชัยได้เคยมาทำหนังสือร้องกองปราบเอาไว้ ตอนที่นายสุรชัยกับตน ยังพักอยู่ที่คอนโดฯ ย่านวังหินก่อนถูกฝ่ายคู่กรณีมาพาตัวไป


นายสุรชัย บอกตนว่าคอนโดที่วังหิน โฉนดเป็นชื่อของนายสุรชัยเอง ตนเป็นคู่สมรสก็เชื่อ ได้เข้าไปอยู่ ซื้อข้าวของตกแต่ง ลงทุนไปเยอะ พอหลังจากนั้นก็มาอุ้มเอาตัวนายสุรชัยไป ก่อนจะให้คนเอาปืนมาข่มขู่ขับไล่เราออกจากตึกย่านวังหินนั้น


ตนเองก็รู้สึกท้อที่สังคมมองตนไปในทางไม่ดี แต่เชื่อมั่นว่าถ้าเราทำดี ความดีความจริงไม่ไปไหน คิดดีทำดี เดี๋ยวทุกอย่างก็จะปรากฏออกมาเอง ถ้านายสุรชัยเห็นหรือทราบข่าวที่ตนมารอพบทั้งที่ศาลแขวงพระนครเหนือตอนเช้าแล้วไม่ได้เจอ และมาที่กองปราบนี้ ก็อยากจะฝากไปบอกว่าตนขอหย่ากับเขา จะไม่เอาอะไรทั้งสิ้น หนี้สินที่มีอยู่ 100 ล้านบาทก็ไม่เอาด้วย


ทนายโป้ง กล่าวว่า ในส่วนที่คู่กรณีครอบครัวเก่าของนายสุรชัย ที่เคยมาร้องกองปราบตรวจสอบหญิงไก่นั้น แนวทางการสอบสวนของพนักงานสอบสวนกองปราบฯ เป็นที่ยุติไปแล้วว่าไม่มีมูล ผ่านมา 4-5 เดือนแล้ว แต่ไม่มีหมายเรียกหญิงไก่มาให้การเลย


ส่วนที่หญิงไก่มาวันนี้ เพราะตัวหญิงไก่เองได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อ ผบ.ตร. ซึ่งได้มีหนังสือลงมาที่กองปราบฯ ให้หญิงไก่มายืนยันตามที่ร้องขอความเป็นธรรมในวันนี้ ซึ่งตอนช่วงที่นายสุรชัยยังอยู่กับหญิงไก่ ก็เคยมาร้อง ผบก.ป.และ ผบช.ก.ขอความเป็นธรรมให้หญิงไก่ ไม่ได้เป็นตามที่ครอบครัวนายสุรชัยมาร้องแต่อย่างใด

คุณอาจสนใจ

Related News