ชีวิตยิ่งกว่าละคร ‘อาหญิง’ เปิดคลิปแฉแฟนสาวหลานขู่อาเขย เดินหน้าเตรียมฟ้องชู้

สาว LGBTQ ร้อง แฟนสาวเป็นชู้กับอาเขย นาน 5 ปี ข่มขู่ขอเงินกว่า 7 ล้านบาท แลกกับการเก็บความลับ จนอาเขยทนไม่ไหว ยอมสารภาพความผิดนั้น ล่าสุดอาหญิง ออกมาพูดว่า ชีวิตยิ่งกว่าละคร เธอมีคลิปที่ฝ่ายหญิงข่มขู่ด้วย

จากกรณีผู้หญิง LGBTQ หญิงรักหญิง หรือ เลสเบี้ยน ได้คบหากับแฟนสาวมาประมาณ 6 ปี จนกระทั่งมาทราบภายหลังว่า แฟนสาวได้แอบเล่นชู้กับอาเขยมานานถึง 5 ปี และข่มขู่ขอเงิน แลกกับการเก็บความลับไม่เอาเรื่องดังกล่าวไปบอกอาผู้หญิง ต่อมาเมื่อปีที่แล้วอาเขยทนไม่ไหว ตัดสินใจสารภาพให้กับตัวเองและอาผู้หญิงฟัง สุดท้ายอาเขยเสียเงินไปกว่า 7 ล้านบาท จึงอยากปรึกษาและขอความช่วยเหลือ เพื่อดำเนินคดีกับผู้หญิงคนดังกล่าว เพราะอาสาวและอาเขยจดทะเบียนสมรสมีลูกด้วยกัน

นางสาวส้ม (นามสมมติ) ผู้ร้องเรียน กล่าวว่า ตัวเองรู้จักกับนางสาวเอ (นามสมมติ) ตั้งแต่ปี 53-54 จากเว็บบอร์ดกลุ่มเลสเบี้ยน โดย น.ส.เอ บอกว่า ตัวเองทำงานอยู่ประเทศเยอรมัน ซึ่งสมัยนั้นติดต่อพูดคุยกันผ่าน MSN จนกระทั่ง น.ส.เอ กลับมาไทยจึงนัดเจอกันที่ จ.ลพบุรี และตัดสินใจคบหากัน โดย น.ส.เอ ก็ย้ายเข้ามากินอยู่ในบ้าน น.ส.ส้ม ซึ่งบ้าน น.ส.ส้ม อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ มีอาสาวและอาเขยอยู่ด้วย

น.ส.ส้ม กับ น.ส.เอ ก็คบหาและอยู่กินกันนาน 5-6 ปี กระทั่งปี 2562 เริ่มมีความผิดปกติ ตอนไปเที่ยวทางภาคอีสาน ซึ่งอาเขยและอาสาวก็ไปด้วยกัน แต่สังเกตว่า อาเขยกับเอดูสนิทสนมกันเกินปกติ ขนาดถ่ายรูปกันสามคน น.ส.เอ ถึงกับเกาะแขนแนบชิดอาเขย

พอกลับมาจากเที่ยวอีสาน น.ส.เอ ก็มาบอกเลิก น.ส.ส้ม ซึ่ง น.ส.ส้ม ก็แปลกใจเพราะไม่มีเรื่องทะเลาะอะไรกันมาก่อนและพยายามตามง้อ แต่ไม่สำเร็จ ระหว่างนั้นส้มไปเห็นในโทรศัพท์ น.ส. เอ ว่า มีการโทรหาอาเขยอยู่หลายครั้ง ซึ่งอ้างว่าอาเขยติดต่อมาซื้ออาหารเสริม ตัวเองจึงไม่เอะใจเพราะมองว่าป็นเรื่องปกติ

จนเรื่องราวผ่านมา 5 ปีกว่า สุดท้ายอาเขยมาสารภาพกับอาสาวและส้มว่า ที่ผ่านมา 5 ปีกว่า ตัวเองมีสัมพันธ์สนิทสนมฉันชู้สาวกับ น.ส.เอ แฟนของส้ม หลานสาว และสาเหตุที่ต้องมาสารภาพ เพราะที่ผ่านมาหมดเงินไปกับผู้หญิงคนนี้เกือบ 7 ล้านบาท แต่ยังไม่พอ มาขอเงินอีก 2 ล้านเพื่อจะไปซื้อที่ดิน แต่อาเขยไม่อยากให้แล้ว จึงปฏิเสธไป ทางฝ่ายนางสาวเอจึงข่มขู่ว่า จะนำเรื่องสัมพันธ์ลับทั้งหมดไปบอกกับอาสาวและหลาน ทำให้อาเขยรู้สึกเครียดเป็นกังวล จึงตัดสินใจสารภาพเรื่องราวทั้งหมดด้วยตัวเอง พร้อมกับเอาคลิปเสียงที่ น.ส.เอ โทรศัพท์มาข่มขู่และถ่ายรูปมาให้ดูว่าตอนนี้อยู่หน้าบ้าน จะเข้าไปบอกอาสาว ถ้าไม่อยากให้เรื่องแดง โอนเงินให้หน่อย เปิดให้ครอบครัวฟัง

จุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ลับทั้งหมด อาเขย กล่าวว่า นางสาวเอเข้ามาหาอาเขยที่บ้าน วันนั้นอาเขยอยู่คนเดียว ไม่มีใครอยู่ด้วย และ น.ส.เอ มาขอเงินทำนม ทำศัลยกรรมต่างๆ ฝ่ายหญิงเสนอว่า จะแลกกับการให้ความสุขกับอาเขย อยู่ดูแลคุณอาไปจนแก่เฒ่า

อาเขยใจอ่อน ยอมให้เงินไปทำศัลยกรรมและส่งเสียเลี้ยงดูอีกเดือนละ 15,000 บาท ซึ่ง น.ส.ส้ม ผู้ร้อง ลองเข้าไปส่องเฟซบุ๊กฝ่ายหญิงย้อนหลัง ถึงบางอ้อ เพราะเห็นว่า ที่ผ่านมา น.ส.เอ มีการสร้างบ้านใหม่ ซื้อรถยนต์ป้ายแดง และใช้ชีวิตกินหรูอยู่แพง จึงทำให้เชื่อได้ว่าน่าจะเป็นการเอาเงินจากอาเขยไปซื้อของพวกนี้

นอกจากนี้ หลังอาเขยสารภาพ ก็มีคนส่งรูปมาให้ดูว่า อาเขยกับ น.ส.เอ แอบแต่งงานลับๆ ที่วัดแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครนายก แขกไปร่วมงานไม่ถึง 10 คน เป็นการทำพิธีผูกข้อไม้ข้อมือกันเล็กๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ ช่วงที่คบกับ น.ส.ส้ม น.ส.เอ เคยพูดว่า อยากหลอกผู้ชายแก่ๆ แล้วเอาเงินมาใช้จ่าย ก็ไม่คิดว่า จะเป็นอาเขยของตัวเอง

ตอนนี้อาสาวรู้สึกเครียดมาก จากที่เคยเป็นคนร่าเริงกลายเป็นคนอมทุกข์ ซึ่งปัจจุบันก็ยังอยู่กับอาเขยและกำลังปรึกษากับทนายเพื่อดำเนินคดีกับนางสาวเอ เพราะอาเขยและอาสาวมีทะเบียนสมรสและมีลูกด้วยกัน

ขณะที่อาผู้หญิง กล่าวว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นความจริง ตัวเองแต่งงานจดทะเบียนสมรสอยู่กินกับสามีตั้งแต่ปี 2531 ทำมาหากินเก็บเงินมาด้วยกันทั้งชีวิต ตัวเองก็แทบจะไม่เชื่อว่า มันเกิดเรื่องแบบนี้กับตัว

อาผู้หญิง กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ยิ่งกว่าละคร ไม่คิดว่าหลานสาวจะพาคนไม่ดีเข้าบ้าน ซึ่งที่ผ่านมาตัวเองและอาเขยเลี้ยงดูเด็กคนนี้เหมือนลูกหลาน ไปกิน ไปเที่ยวไหนพาไปด้วยกันตลอด ที่ผ่านมา 5 ปีช่วงที่แอบเล่นชู้กัน ตัวเองไม่เคยผิดสังเกตสามีเลยว่า จะไปมีหญิงอื่น เต็มที่ก็แค่ชอบไปเที่ยวพักผ่อนบ่อยขึ้น อ้างว่าไปกับเพื่อน

วันที่อาเขยมาสารภาพให้ฟัง ยอมรับว่าโกรธมาก จนอยากจะทุบตีผัวให้ตาย ซึ่งตอนแรกยังไม่ยอมบอกว่า ผู้หญิงคนดังกล่าวเป็นใคร แต่คิดว่าคงไม่ซื้อกินหรือติดเด็กที่ไหน จนไล่บี้ถาม จึงยอมรับว่า สาวชู้จริงๆ แล้วคือคนใกล้ตัว เป็นแฟนของหลานสาวนั่นเอง ซึ่งตัวเองทั้งรัก ทั้งเอ็นดูเด็กคนนี้ ไม่คิดว่าจะทำกันได้ลง แบบนี้ไม่ต่างจากมิจฉาชีพ สูบเงินไปกว่า 7 ล้านบาท ยืนยันว่าเดินหน้าฟ้องร้องให้ถึงที่สุด

ล่าสุดทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ได้ติดต่ออาเขยไป อาเขย กล่าวว่า ตอนนี้เขากับภรรยา (อาผู้หญิง) อยู่กันตามปกติ แต่ยอมรับว่า บรรยากาศภายในบ้านไม่เหมือนเดิม และคนรู้จักบางส่วนก็ทราบเรื่องบ้าง ตัวเองแทบไม่กล้าออกไปไหน รู้สึกอับอาย แต่อยากฝากเรื่องนี้ให้เป็นอุทาหรณ์ สำหรับผู้ชายหลายคนโดยเฉพาะผู้ชายสูงวัยว่า อย่าหลงเชื่อคำพูดของสาวๆ ที่เข้ามาหา เข้ามาทำดีและพูดวาดฝันให้ความหวังว่าจะดูแลยามแก่เฒ่า มันไม่จริง สุดท้ายเสียเงินไปหลายล้านบาท และที่ตัดสินใจสารภาพเรื่องทั้งหมดกับเมียและหลานสาว เพราะว่าถูกฝ่ายหญิงข่มขู่กดดันสารพัดเพื่อจะขอเงินอีก

ขณะที่ทีมข่าว พยายามติดต่อ น.ส.เอ สาวชู้ แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งทางเรายินดีให้ความเป็นธรรมและอยากฟังคำชี้แจงจากฝ่ายหญิงด้วย

https://youtu.be/HuivRGsptWE