เจ้าของแบรนด์น้ำสมุนไพร ถูกหลอกโหลดแอปสรรพากรปลอม ดูดเงินหลักล้านเกลี้ยงบัญชี

วานนี้ (16 ม.ค. 66) นายภาคิณ และ นายฉัตรชัย สองพ่อลูกเจ้าของแบรนด์น้ำสมุนไพร 'ชายต้น' พร้อม นางสาวฉัตรฐิญา แฟนสาวของนายภาคิณ เดินทางเข้าแจ้งความยังพนักงานสอบสวน บก.ปอท. (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี) ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

นางสาวฉัตรฐิญา เล่าว่า เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2566 มีโทรศัพท์แปลกหน้า เบอร์ 0617730620 โทรเข้ามาช่วง 10:32 อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร ระบุกับตนว่า ให้ไปยกเลิกการลงทะเบียนแอปถุงเงิน ถ้าหากไม่ยกเลิก อาจจะถูกเรียกภาษีย้อนหลัง และถูกจ่ายค่าปรับได้

ซึ่งตนติดตั้งแอปถุงเงินไว้นานกว่า 2 ปี เพราะประกอบอาชีพค้าขาย ก็เลยหลงเชื่อ โดยมิจฉาชีพอ้างว่า ต้องไปยกเลิกผ่านแอปของสรรพากร ตอนแรกตนเข้าไปในเว็บจริงของกรมสรรพากร ปรากฎว่า ไม่มีข้อมูลการติดตั้งแอพของกรมสรรพากรในเว็บแต่อย่างใด

ซึ่งขณะนั้น ยังคงถือสายกับมิจฉาชีพไว้อยู่ ปรากฎว่ามิจฉาชีพได้แอดไลน์เบอร์ของตน และส่งลิงก์เว็บสรรพากรปลอมเข้ามาให้ ตนจึงกดลิงก์เว็บปลอมเข้าไป และกดโหลดแอปตามที่ป๊อบอัปเด้งขึ้นมา

ด้วยความที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ทำให้สามารถติดตั้งแอปได้ทันที จากนั้นพอเข้าแอปไป ก็ให้กรอกชื่อกับเบอร์ พอกรอกเสร็จ ปรากฎว่าโทรศัพท์ค้างทันที จากนั้นไม่นาน สัก 11 โมง ก็ถูกดูดเงินออกจากบัญชีถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกโดนไป 700,000 บาท ครั้งที่สองโดนไป 306,000 บาท พอตนโทรไปแจ้งเบอร์ดังกล่าวว่าถูกดูดเงิน ก็ปรากฎว่ามิจฉาชีพตัดสาย และลบไลน์ดังกล่าวทิ้งทันที

หลังเกิดเหตุ ตนจึงรีบไปแจ้งธนาคารเจ้าของบัญชีเพื่ออายัดบัญชีธนาคารของตน และไป สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เพื่อขอใบอายัดบัญชีธนาคารปลายทาง แต่ปรากฎว่าตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนไม่รับทำให้ อ้างว่าเป็นวันหยุดราชการ และติดภารกิจวันเด็ก เลยตัดสินใจมาร้อง ปอท. เพื่อดำเนินค ดีและหวังว่าจะเอาผิดผู้ถือบัญชีม้าทั้งสองรายที่ดูดเงินตนไป รวมทั้งหวังว่าจะได้เงินนี้กลับคืนมา

นางสาวฉัตรฐิญา ยังกล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนตั้งใจจะเก็บเงินก้อนนี้ร่วมกับแฟนหนุ่มเพื่อซื้อบ้านสร้างครอบครัว ที่ผ่านมาตนกับแฟนหาเงินก้อนนี้ด้วยน้ำพักน้ำแรง ไม่เคยคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้กับตน ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้กับใครอีก ทั้งที่เป็นคนไทยด้วยกัน ไม่น่าจะมาหลอกลวงกับผู้ทำมาหากินสุจริตด้วยกันเอง

ด้านนายฉัตรชัยกล่าวว่า กรณีเช่นนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น และขอตำหนิไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ที่ทำงานล่าช้าและไม่ทันการณ์ อ้างว่าเป็นวันหยุดราชการ ทั้งที่ตนลองไปสอบถาม สภ.อื่น ก็ปรากฎว่าสามารถทำเรื่องได้ แม้เป็นวันหยุดก็ตาม ในฐานะคนเป็นพ่อก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พร้อมทั้งฝากไปยังธนาคารว่าให้ปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัย online banking ให้มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่ถูกเจาะระบบง่ายๆ แบบนี้ รวมถึงฝากไปยังรัฐบาลว่า อยากให้มีนโยบายปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ และป้องกันพวกมิจฉาชีพออนไลน์ ในยุคที่ส่งเสริมสังคมดิจิทัลแบบนี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหยื่อซ้ำซากในสังคมอีก

จากนั้นผู้เสียหายทั้ง 3 คน ได้เดินทางเข้าแจ้งความยังพนักงานสอบสวน ปอท. โดยมี พ.ต.ท.ฉัตรชัย ถาวรทรัพย์ เป็นผู้รับเรื่อง เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน ปอท. ได้แนะนำให้ผู้เสียหายแจ้งความออนไลน์กับทางตำรวจ สอท. หรือตำรวจไซเบอร์ และจะดำเนินการประสานเพื่อเรียกมาสอบปากคำต่อไป

ทั้งนี้ ทีมข่าวช่อง 3 ได้รับประกาศกรมสรรพากร ลงวันที่ 16 กันยายน 2565 ใจความว่า

"แจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังมิจฉาชีพส่งลิงก์เว็บสรรพากรปลอม โดยยืนยันว่า ทางกรมไม่มีนโยบายทำธุรกรรมภาษีทางไลน์ทุกกรณี ซึ่งถ้าหากจะดำเนินการทางออนไลน์ ให้เข้าไปที่เว็บ www.rd.go.th หรือติดต่อที่สำนักงานสรรพากรในท้องที่เท่านั้น หรือติดต่อโทรไปยังสรรพากรได้ที่เบอร์ 1161 ส่วนแอปพลิเคชั่นที่กรมสรรพากรมีจริง ๆ คือแอป RD Smart Tax แอปเดียวเท่านั้น โดยสัญลักษณ์ของแอปเป็นอักษรภาษาอังกฤษ RD เท่านั้น ไม่ใช่ตราของกรมสรรพากรแต่อย่างใด"

-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/QDxVnaq9bQM