อาชญากรรม

ชูวิทย์เปรียบจเรตำรวจเหมือนละคร-ลิเก ไม่จริงจังเอาผิดตำรวจในคดีตู้ห่าว

โดย nattakarn_l

9 ม.ค. 2566

113 views

         วันนี้ (9 ม.ค.)  นายชูวิทย์ หอบพยานหลักฐานเป็นเอกสารและคลิปวีดีโอต่างๆ 1 กล่องพลาสติกใหญ่  มาเข้าพบคณะกรรมการจเรตำรวจแห่งชาติ  หลังได้รับหมายเรียกให้เข้ามาสอบปากคำและให้ข้อมูลในคดีการเรียกรับผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายในคดีผับจินหลิงและเครือข่ายของนายตู้ห่าว

         โดยนายชูวิทย์ประกาศชัดเจนว่า วันนี้ตั้งใจมาให้ข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบ  แต่มองว่าการเรียกเข้ามาครั้งนี้เหมือนเป็นละคร  ลิเก  หนังตะลุง การแสดง  เพราะเชื่อว่า จเรตำรวจแห่งชาติจะไม่เอาจริง  ทั้งที่จริงๆ แล้ว ควรมีคนกลางที่ไม่ใช่ตำรวจมาร่วมในการตรวจสอบด้วยเหมือนในต่างประเทศ   ซึ่งหากวันนี้เข้าไปให้ข้อมูลแล้วทางจเรตำรวจแห่งชาติไม่ได้มีท่าทีจะเอาจริงในการเอาผิดกับตำรวจชุดดังกล่าว  ก็จะเดินออกจากห้องทันที

           สำหรับหลักฐานที่นำมามอบให้จเรตำรวจแห่งชาติวันนี้  มีทั้งหลักฐานการตัดต่อภาพวงจรปิดของผับจินหลิงและผับลีลา  ซึ่งมีภาพการตั้งบ่อนการพนันในจุดดังกล่าว  หลักฐานการออกหมายจับช้า   การไม่ตั้งข้อหาฟอกเงินกับนายตู้ห่าวทั้งที่เวลาผ่านมานาน  การไม่ดำเนินคดีเรื่องบ่อนการพนันในผับจินหลิง  โดยนายชูวิทย์ บอกว่า พยานหลักฐานที่นำมาวันนี้เป็นเพียงบางส่วน  เพราะยังมีพยานหลักฐานอยู่อีกจำนวนมาก  แต่ต้องดูท่าทีของจเรตำรวจแห่งชาติว่าจะเอาจริงในเรื่องนี้หรือไม่ แต่เชื่อว่าจเรตำรวจมีข้อมูลทุกอย่างอยู่แล้ว

          นอกจากนี้นายชูวิทย์ยังยืนยันว่า สิ่งที่ทำทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง หรือต้องการกลั่นแกล้งทางการเมืองกับบุคคลใด และไม่ได้คิดจะไปสังกัดพรรคไหน ไม่ได้รับใบสั่งจากใคร

          สำหรับการเข้าให้ข้อมูลวันนี้ จะตั้งข้อสังเกตเรื่อง พันตำรวจโท คมไพร และรองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 ที่ดำรงตำแหน่งรักษาราชการแทนผู้กำกับการ สน. ยานนาวา ในขณะที่เกิดคดีว่า ใครเป็นคนดูแลตำรวจทั้งสองนายนี้มาตั้งแต่เป็นชั้นประทวน

        ทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่า หลังมีการจับผับจินหลิง  มีการสั่งย้ายนายตำรวจเพียงแค่นายเดียว  ทั้งที่คดีอื่นๆ ต้องสั่งย้ายทั้ง 5 เสือของ สน.ที่เกิดเหตุ เหมือนกับกรณีของผู้เสียชีวิตภายในผับ top one พื้นที่ สน.สุทธิสาร และกรณีผับเครือข่ายของนายตู้ห่าวที่พัทยา

           ส่วนกรณีที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตำรวจที่ทำสำนวนคดีนายหนึ่ง ที่เชื่อว่าเป็นคนส่งข้อมูลและพยานหลักฐานให้ตนเองนั้น  เรื่องนี้มองว่าตำรวจนายดังกล่าวไม่เกี่ยวข้อง  แต่ตนเองมีข้อมูลที่ได้จากแหล่งอื่นไม่ใช่เพียงตำรวจนายดังกล่าวเพียงคนเดียว  และเชื่อว่าการตั้งคณะกรรมการสอบสวนดังกล่าวจะไม่ทำให้ตำรวจนายอื่นๆ ที่ไม่เห็นด้วยกับการทำคดีของผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะไม่กล้าส่งข้อมูลอื่นๆมาให้อีก

         นายชูวิทย์ ยังกล่าวถึงเรื่องที่อัยการเข้ามาดูคดีนายตู้ห่าว ที่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการรับเป็นคดีนอกราชอาณาจักร  เพียงเข้ามาทำหน้าที่ที่ปรึกษา  แต่สำนวนคดีอยู่ที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ซึ่งอาจทำให้คดีเกิดความเสียหายได้ มองว่าเหมือนเป็นการเล่นละครอีกโรงหนึ่ง

         ก่อนจะเข้าห้องประชุม  นายชูวิทย์ยังประกาศว่า ในช่วงเย็นจะไปที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  ซึ่งจะมีการประกาศเปิดตัวพลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  เข้าสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ  เพื่อถามคำถามนายกรัฐมนตรี  เรื่องหลานที่ไปเกี่ยวข้องกับคดีของนายตู้ห่าวและพวก  พร้อมนำตะเกียงและเทียนไปให้  ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่ควรหงุดหงิดโมโห  แต่ควรตอบคำถามและอธิบายเรื่องให้กับตนเองและประชาชนทุกคนรับทราบ ครั้งนี้ไม่หนักใจหากจะเข้าไม่ถึงตัวนายกรัฐมนตรีก็จะหาที่นั่งรอเข้าพบและให้ข้อมูลต่างๆจนได้

คุณอาจสนใจ

Related News