อาชญากรรม

“ชูวิทย์” เปิดตัวพยานสำคัญ พร้อมแฉคลิปเล่นการพนันที่ตำรวจไม่นำเข้าสำนวน

โดย paranee_s

5 ม.ค. 2566

163 views

วันนี้ (05 ธ.ค. 66) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นำภาพกล้องวงจรปิดภายในสถานบันเทิงจินหลิงผับ ที่พบว่ามีการเปิดให้บริการยาเสพติด และอาคารลีลา ที่อยู่ใกล้เคียงกัน เปิดลักลอบให้เล่นการพนันคล้ายกาสิโน ซึ่งเป็นช่วงขณะที่ตำรวจนครบาลกำลังเข้าไปตรวจค้น และพบว่าผู้เล่นการพนันกำลังวิ่งหลบหนี พนักงานขนอุปกรณ์การเล่นพนันออกจากอาคารไปด้านหลัง


ส่วนภายในอาคาร ก็มีนักท่องเที่ยววิ่งหลบหนี และยังมีภาพวงจรปิดภายในห้องเก็บของ พบว่าพนักงานได้ใส่สิ่งของคล้ายยาเสพติดลงในตะกร้าเครื่องดื่มก่อนจะส่งไปให้ลูกค้าที่อยู่ภายในร้าน


นอกจากนั้นยังได้นำพยานที่เป็นผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างหลายแห่งที่ในจังหวัดภูเก็ต และชลบุรี ที่นายตู้ห่าว ว่าจ้างให้มาตกแต่ง และทำระบบโครงสร้างกว่า 10 คน ซึ่งทุกคนนายชูวิทย์ได้พาไปให้ปากคำกับอัยการแล้ว เนื่องจากนายตู้ห่าวค้างค่าจ้างกับผู้รับเหมาทุกรายตั้งแต่ 1 ล้าน 5 แสนบาท จนบางคนสูงถึง 36 ล้านบาท


หนึ่งในผู้รับเหมา บอกว่า หลังจากได้ร่วมทำงานกับนายตู้ห่าวมาตั้งแต่ปี 2559 นายตู้ห่าวได้ติดต่อว่าจ้าง และจ่ายเงินบางส่วนมาโดยตลอด แต่เมื่อก่อสร้างเสร็จแล้ว ยังมีค่าจ้างค้างอยู่จำนวนมากและไม่สามารถติดต่อได้ ผู้รับเหมาบางคนต้องนำรถยนต์ และบ้านไปจำนองจนเป็นหนี้สิน


เมื่อทราบข่าวว่านายตู้ห่าวถูกจับจากคดีทุนจีนสีเทา จึงติดต่อมาที่นายชูวิทย์ เพื่อไปให้ปากคำกับอัยการ และไม่ไว้ใจการทำงานของตำรวจ


นอกจากนั้นนายชูวิทย์ ได้นำพยานคนหนึ่ง ที่อ้างว่าเป็นคนใกล้ชิดกับนายตู้ห่าว และให้ข้อมูลว่าเห็นนายตู้ห่าวสั่งให้คนไปถอนเงินสดครั้งละ 20-30 ล้านบาทต่อวัน จากธนาคารแห่งหนึ่งย่านลาดกระบัง ซึ่งเป็นเงินจากประเทศจีนที่โอนเข้ามาในไทย และได้ไปให้ปากคำกับอัยการแล้ว โดยที่ไม่ผ่านตำรวจ เพราะไม่ไว้ใจการทำงานเช่นกัน


นายชูวิทย์ ยังกล่าวถึงการแถลงข่าวระหว่างผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และอัยการที่ทำคดีว่า มีการทำคดีร่วมกันจนสำนวนคดีมีความสมบูรณ์แล้ว แต่นายชูวิทย์ไม่เห็นด้วย เนื่องจากพบว่ามีพยานหลักฐานบางส่วนที่ไม่นำเข้าสู่สำนวน และเห็นว่าสำนวนคดียังช่วยเหลือนายตู้ห่าว


โดยเฉพาะตั้งแต่การเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุแบบเว้นวรรค ไม่เข้าตรวจต่อเนื่อง อ้างว่าไม่มีอำนาจเข้าตรวจสอบ มีการขยักหลักฐานไม่นำเข้าสำนวน บอกว่ามีหลักฐานเยอะแล้ว ส่วนรถยนต์หรูที่เป็นของกลางก็มีการปล่อยกลับไปให้ผู้ต้องหาอีกด้วย


นอกจากนั้นยังไม่ตั้งข้อหาการรับผลประโยชน์ของนายตำรวจที่ทำคดี โดยไม่มีการสอบปากคำหญิงชาวจีนคนหนึ่งที่มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดในสน.ยานนาวา ว่านำถุงกระดาษที่ภายในมีเงินสด 6 แสนบาท ไปวางไว้บนโต๊ะในห้องรองผู้บังคับการ รักษาการผู้กำกับการ เพื่อขอนำรถยนต์หรูยี่ห้อปอร์เช่ ที่ถูกยึดจากจินหลิงผับออกไป


ขณะเดียวกัน ยังไม่มีการตรวจเลขตัวถังรถยนต์ที่ยึดได้ทั้ง 11 คัน และปล่อยตัวหลานของนายตู้ห่าวออกไปจนหลบหนีออกนอกประเทศ นอกจากนั้นยังให้นายตำรวจที่คุมสำนวนคดีนี้เป็นตำรวจคนเดียวกับที่ปล่อยตัวผู้ต้องหาไป


และหลักฐานที่สำคัญที่สุดคือกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ นายชูวิทย์ ได้นำแผนผังของพื้นที่เกิดเหตุ พบว่าแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ อาคารร้านล้างรถยนต์ อาคารจินหลิง และอาคารลีลา โดยเซิร์ฟเวอร์ที่บันทึกกล้องวงจรปิดแบ่งเป็น 4 ส่วน โดยส่วนที่เยอะที่สุดคือ อาคารลีลา มีกล้อง 68 ตัว จินหลิง และอาคารล้างรถ ที่ละ 20 ตัว


แต่พนักงานสอบสวนได้ส่งให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบมีเพียง 1 เซิร์ฟเวอร์คือที่จินหลิง แต่ก็ตรวจสอบไฟล์ได้เพียงวันที่ 21-26 ตุลาคม และไม่ตรวจสอบเซิร์ฟเวอร์ของอาคารลีลา ที่เปิดให้เล่นการพนัน ซึ่งเห็นว่าเป็นการให้ความช่วยเหลือกับนายตู้ห่าว ที่ไม่ตั้งข้อหาจัดให้เล่นการพนัน โดยนายชูวิทย์ ยังระบุว่า มีคลิปวิดีโอวงจรปิดอีกกว่า 1,500 คลิป ที่ยังไม่ได้เปิดเผย และเชื่อว่าตำรวจมีทั้งหมด แต่ไม่นำเข้าสู่สำนวนเอง


นอกจากนั้นยังพบว่าชะลอการตั้งข้อหาฟอกเงิน กับนายตู้ห่าว เพราะเงินในบัญชีเหลือไม่มากเนื่องจากถูกยักย้ายออกไปทั้งหมดแล้ว และออกหมายจับในวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่เกิดขึ้นหลังจากเข้าตรวจค้นเกือบ 1 เดือน


ส่วนการตรวจสอบรถยนต์หรูของนายตู้ห่าว ก็พบว่าเป็นรถเช่าจากบริษัทหนึ่งที่นายชูวิทย์ อ้างว่ามีหลานของนักการเมืองเป็นเจ้าของบริษัท และตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดนายตู้ห่าวขับรถยนต์หรูจำนวนมาก แต่ไม่มีเงินไปจ่ายให้กับผู้รับเหมาที่ติดค้างอยู่จำนวนมาก


ส่วนข้อมูลทั้งหมดที่นายชูวิทย์ได้มา เชื่อว่าตำรวจมีทั้งหมดแล้ว แต่ไม่นำเข้าสู่สำนวน โดยไม่ทราบว่าเหตุใดถึงไม่นำเข้า และข้อมูลที่ได้มาทั้งหมด เป็นข้อมูลของตำรวจและเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม จึงเป็นหลักฐานที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งหลังจากนี้จะติดตามคดีนี้จนถึงกระบวนการในชั้นศาลว่าผลตัดสินจะออกมาอย่างไร


ขณะเดียวกันนายชูวิทย์ ยังยืนยันว่าการนำข้อมูลของทุนจีนสีเทาออกมาเปิดเผยเหล่านี้ จะไม่เป็นการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ส่วนกรณีที่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้มาทาบทามให้เข้าร่วมในพรรคและจะให้มาร่วมเปิดโปงขบวนการนี้ต่อ นายชูวิทย์ยืนยันว่าจะขอทำหน้าที่การตรวจสอบของภาคประชาชน เพราะหากภาคประชาชนไม่เข้มแข็งก็จะทำให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้


และยืนยันว่าไม่ใจอ่อนที่จะเล่นการเมือง เพราะได้ประกาศไปตั้งแต่ปี 2560 แล้ว แต่จะผลักดันให้นำเรื่องนี้อภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงคะแนน ในสภาครั้งสุดท้ายให้ได้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ชูวิทย์ ,ตู้ห่าว ,ผับจินหลิง

คุณอาจสนใจ

Related News