เลือกตั้งและการเมือง

'ชูวิทย์' ส่งเอกสารให้ สส.-สว.พิจารณา จี้ 'เศรษฐา' ถอนตัวแคนดิเดตนายกฯ จ่อแฉ EP.3

โดย passamon_a

21 ส.ค. 2566

378 views

'ชูวิทย์' ส่งซองหลักฐานซื้อขายที่ดินของ 'เศรษฐา' บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ให้ สส.-สว. พิจารณาคุณสมบัติ ระบุเศรษฐาพยายามจงใจตั้งบริษัทนอมินี เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ให้โอกาสถอนตัวก่อนตกกระป๋อง ชี้ 'ทักษิณ' กลับไทยโยงดีลเพื่อไทยเสนอชื่อนายกฯ เชื่อเอาเก้าอี้นายกฯ เป็นตัวประกัน  


เมื่อวันที่ 20 ส.ค.66 ที่เดอะล็อบบี้ โรงแรมเดอะเดวิส นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เปิดข้อมูลหลักฐานโต้แย้ง นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับเรื่องซื้อ-ขายที่ดิน แปลงหนึ่งในใจกลางทองหล่อ ภายใต้บริษัทแสนสิริ พร้อมยื่นคำขาดให้นายเศรษฐา ถอนตัวออกจากการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ภายในวันอังคารนี้


นายชูวิทย์ ยังบอกอีกว่า ควักเงินกว่า 20,000 บาท ส่งเอกสารหลักฐานทั้งหมดนี้ได้ส่งไปรษณีย์แบบ EMS ไปให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 500 คน และสมาชิกวุฒิสภา 250 คน ทั้งหมด 750 คน ในการตรวจสอบโดยหลักฐานทั้งหมดจะถึงมือทุกคนวันที่ 21 ส.ค. เพื่อให้ทุกคนที่มีสิทธิโหวตนายกรัฐมนตรีได้เห็นข้อมูลประกอบการพิจารณาว่า เศรษฐา ทวีสิน เหมาะสมที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือไม่


"ส่วนตัวไม่ได้สนใจว่าการส่งเอกสารทั้งหมดนี้ไป สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะอ่านหรือไม่ แต่เมื่อการโหวตนายกรัฐมนตรีเริ่มขึ้น และมีบุคคลที่โหวตให้นายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรีจริง นั่นหมายความว่าเมื่อเรื่องทั้งหมดถูกเปิดโปงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนที่โหวตก็จะมีส่วนผิดด้วย ซึ่งข้อมูลทั้งหมดที่พูดมามีเหตุผลเดียวเท่านั้นคือมองว่านายเศรษฐา ไม่เหมาะกับตำแหน่งนายกฯ"


นายชูวิทย์ ยังได้อธิบายว่า ที่ตนเองออกมาแฉ ก็ไม่ใช่เพราะความโกรธแค้นจากเรื่องที่ขายที่ดินไม่ได้ เพราะที่ดินตนเองก็ยังมีภาระติดพันและสัญญาก็ยังไม่หมด แต่นายเศรษฐา ต่างหากที่โกหกประชาชน การที่นายเศรษฐา ออกมาชี้แจงว่านาย ส. (สมศักดิ์) รปภ. ไม่ใช่นอมินีของบริษัทตัวเอง แต่เป็นคนของฝ่ายบริษัทผู้ขายที่ดินนั้นไม่เป็นความจริง


การแฉในครั้งนี้ตนเองตรวจสอบข้อมูลและพิสูจน์ข้อมูลต่าง ๆ จนพบว่ามีการย้ายเงินออกไปที่ต่างประเทศด้วย และกรณีที่นายเศรษฐา แก้ตัวกรณีนาย ส. (สมศักดิ์) ว่าไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง เป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น เพราะนาย ส. (สมศักดิ์) คือมีอำนาจในการลงนามเอกสารของบริษัท N. และนาย ส. (สมศักดิ์) ก็ไปขอ EIA (รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมซึ่งทุกคอนโดมิเนียมต้องขอ)


นายชูวิทย์ ยังได้แสดงเอกสารมาให้สื่อดูว่า มีนาย ส. (สมศักดิ์) เป็นกรรมการผู้จัดการ ของบริษัท อ. ซึ่งบริษัทนี้เป็นเจ้าของถนนทั้งหมดในโครงการของอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง หมายความว่านาย ส. (สมศักดิ์) เป็นนอมินีของนายเศรษฐาจริง และยังเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทนี้ อีก 1 หุ้น


โดยที่ดินดังกล่าวและถนนในโครงการของอสังหาริมทรัพย์ เดิมเป็นของเจ้าของท่านหนึ่ง ต่อมาขายให้กับบริษัท ม. ในราคา 800 ล้านบาท แต่บริษัท ม. ไปกู้เงินมาได้ทั้งหมด 2,000 ล้านบาท แต่ไม่เคยชำระหนี้เลย หลังจากนั้นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ไปทยอยซื้อที่ดินต่อ ในราคาตารางวาละ 350,000 บาท รวม 3,500 ล้านบาท จากราคา 800 ล้านบาท หมายความว่าทั้งหมดเป็นการวางแผนเพื่อนำเงินส่วนต่างเข้ากระเป๋าของตัวเอง


ซึ่งหลักฐานคืองบดุลของบัญชีบริษัท ม. ที่แสดงกำไร 2,000 ล้านบาท และไม่ส่งงบดุลมาเป็นระยะเวลานานจนทำให้กลายเป็นบริษัทร้าง นั่นหมายความว่านายเศรษฐา พยายามจงใจให้มีบริษัทนอมินี ขึ้นมาเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว


ดังนั้นการที่นายเศรษฐา บอกไม่รู้จักนายสมศักดิ์ และนายสมศักดิ์ เป็นคนของบริษัทเอกชน ผู้ขายที่ดินจึงไม่น่าเชื่อถือ และคนที่พูดจาไม่น่าเชื่อถือก็ไม่ควรที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่หากได้เป็นนายกรัฐมนตรี อาจกระทำการที่ร้ายแรงมากกว่าพิรุธการซื้อขายที่ดินที่เกิดขึ้น


ทั้งนี้ นายชูวิทย์ ยังระบุด้วยว่า หากนายเศรษฐา พ้นจากการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เป้าหมายแคนดิเดตคนถัดไปอาจจะเป็นคนในพรรคภูมิใจไทย และถ้าหากไม่สำเร็จก็จะมีลำดับถัดไป เป็นคนที่ยังเงียบอยู่จนถึงขณะนี้ การแถลงข่าววันนี้ถือเป็นน้ำจิ้ม และจะให้โอกาสนายเศรษฐา ถอนตัวจากการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในวันอังคารนี้


ส่วนที่นายเศรษฐา ไม่ห่วงและมั่นใจว่าได้รับการโหวตนายกฯ แน่นอนนั้น นายชูวิทย์ ระบุว่า ถ้าไม่ห่วงแล้วจะมาแถลงข่าวทำไม ก่อนจะบอกว่า นายเศรษฐาไม่ใช่นักการเมือง ไม่ใช่ สส. หากสังเกตดูว่ามีใครช่วยนายเศรษฐา เพราะปกติทางการเมือง มันก็จะมีลิ่วล้อออกมาตอบโต้ แต่นี่ไม่มีแสดงว่าโดดเดี่ยว ทั้งนี้มั่นใจว่าวันอังคาร ก็ตกอยู่แล้ว แต่ตนให้นายเศรษฐา ลงดี ๆ ถ้าให้ตนพูดต่อตายแน่


นายชูวิทย์ ยังระบุอีกว่า สถานะการเป็นแคนดิเดตของนายเศรษฐา จะเป็นสิ่งชี้ชะตาว่านายทักษิณ จะยังเดินทางกลับไทยในวันที่ 22 ส.ค. นี้อยู่หรือไม่ เพราะการที่นายทักษิณ มีกำหนดจะกลับในวันโหวตนายกรัฐมนตรี เป็นสิ่งที่ทำให้เห็นได้ว่าการเดินทางกลับของนายทักษิณ เชื่อมโยงกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแน่นอน ซึ่งปัจจุบันนายทักษิณ พักอยู่ที่โรงแรมย่านถนนออร์ชาร์ด ประเทศสิงคโปร์


"หากถามว่าทำไมนายทักษิณ จะต้องกลับไทยวันที่ 22 ส.ค.นี้ เพราะมันคือการแลกเปลี่ยนดีลลับ ไม่งั้นกลับช้าสักวันไม่ได้หรอ แสดงว่ามันเกี่ยวข้องกับการโหวตนายกฯ แน่นอน ดังนั้นการที่นายทักษิณ ผูกโยงกับเรื่องของการโหวตนายกรัฐมนตรี หมายความว่าต้องมีเรื่องของการแลกเปลี่ยน ส่วนตัวเชื่อว่านายทักษิณ ยังลังเลเปลี่ยนใจอยู่ทุกวินาที แม้ว่าจะมีการเตรียมความพร้อมด้วยการเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าไว้แล้ว"


โดยในวันนี้ (21 ส.ค.) เวลา 13.00 น. นายชูวิทย์ จะแถลงข่าว EP.3 "ตอกฝาโลง" พฤติกรรมนิติกรรมอำพราง ของว่าที่นายกฯ ตัวสูง ๆ นอมินีของใคร? ซื้อที่ราคาสมเหตุสมผลหรือไม่? เปิดตัวนายขงเบ้ง ผู้มีอุปการคุณของว่าที่นายกฯ ตัวสูง ๆ จะออกมาพูดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูล โดยจะเป็นตอนสุดท้ายในชื่อตอนว่าตอกฝาโลง โดยจะมีหลักฐานเด็ดเกี่ยวกับการนำเงินออกนอกประเทศ


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/-zGWWrdtwi0

คุณอาจสนใจ

Related News