อาชญากรรม

จบด้วยดี พันเอกเมากร่าง ข่มขู่นักเที่ยวในร้านอาหาร จ่ายค่าเยียวยา 15,000

โดย attayuth_b

27 ธ.ค. 2565

138 views

จากกรณีเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ โพสต์ข้อความในโลกออนไลน์ว่า  ท.ทหารเมากร่าง อ่ออ สังกัดกรมกองไหน ผบ.ถ้าจำได้ว่าเป็นกำลังพลในสังกัด ช่วยตรวจสอบวินัยและพฤติกรรมหน่อย..

จากเหตุการณ์เมื่อคืน แพทขอเล่าโดยละเอียด เรื่องเกิดขึ้นว่า ทหารนายนี้ อยู่ๆก็ตะโกนมาที่โต๊ะเราและเรียกให้รุ่นน้องในโต๊ะ ต้องเดินไปหา ซึ่งพวกเรานั่งกันอยู่ 10 คน และคนในร้านอีกทั้งหมดรวมเจ้าของร้าน เห็นเหตุการณ์กันหมด ครั้ง 2ครั้ง รุ่นน้องเราไม่เดินไปหานายทหารคนที่เรียก

2คนนี้ไม่ได้รู้จักกันไปมากกว่าแค่รู้จักชื่อเล่น เพราะทั้งคู่ต่างก็เป็นคนที่มาใช้บริการ เป็นลูกค้าร้านนี้เหมือนกันประจำ พอไม่เดินไป ทหารคนนี้ก็เริ่มพูดจาเสียงดังและด่าทอ ก้าวร้าวโต๊ะของพวกเรา ใช่ค่ะพวกเราไม่พอใจมาก จึงมีการพูดจากลับไปแบบไม่ยอม ทุกคนในร้านห้าม ทหารนายนี้เพียงคนเดียว แต่ก็ไม่มีใครเอาอยู่ ถ้าดูจากคลิปนะคะ โต๊ะเรา 10 คน ไม่มีใครลุกออกจากโต๊ะไปเลยซักคน เรานั่งกันอยู่ในที่ของเรา จนทุกคนก็พาทหารคนดั่งกล่าวออกไปจากร้าน

เมื่อทหารนายนี้ออกจากร้านไป ได้แสดงพฤติกรรมขมขู่พวกเรา ทุกคน : จะมีคลิปขู่ฆ่าพวกเรา  " ถ้ากูเห็นพวกมึงร้านนี้อีกครั้งนึง มึงตาย " " ไอ้xxx !!! มึงยังไม่มาขอขมากูใช่มั้ย มึงก็ออกจากร้านนี้ไม่ได้ "

และเรียกรุ่นน้องในโต๊ะให้ออกไป แต่ไม่มีใครออก นายทหารคนนี้เลยเดินเข้ามาที่โต๊ะ และกระชากคอเสื้อ กระชากโซ่แมสบาดคอน้อง แล้วกระชากคอเสื้อเพื่อนอีกคนทำให้สร้อยทองขาด สายตรวจที่โทรแจ้งเพิ่งเข้ามา นายทหารคนนี้เลยโทรศัพท์หาใครไม่รู้ชื่อป็อก ซึ่งอันนี้ทางเราไม่ทราบว่า แอบอ้างเป็นตำรวจหรือไม่ ให้เคลียตรงนี้  1. เคลียอะไรก่อน พวกเราเป็นผู้เสียหาย มีโดนทำร้ายร่างกายให้เสียทรัพย์  2. ทั้งยังโดนข่มขู่ฆ่า ทุกคน

พวกเราไม่ยอมเลยไปแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุดไว้ ที่ สถานี้ตำรวจภูธรรัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ที่สุดแล้วคุณเป็นทหารจะยศใหญ่มาจากไหนคุณก็ไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับพวกเราได้

ต่อมาพ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผู้กำกับการ สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งการให้กำลังสายตรวจลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณร้านอาหาร "แซ่บเจริญ" ใต้ด่วนงามวงศ์วานตำบลบางเขน อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี โดยมีผู้เสียหายคือน.ส.ธัชสุภา หรือน้องแพท วณิชยกุลวงศ์ อายุ 33 ปี และ นายเอกไท จิระตระกูล อายุ 33 ปี ซึ่งเป็น 2 ผู้เสียหายที่อยู่ในเหตุการณ์คืนเกิดเหตุ มาชี้จุด โดยเฉพาะนายเอกไทถูกนายทหารยศพันเอกนายนี้ล็อคคอจนแมสปิดปากและสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทขาดกระเด็น

น้องแพท เล่าเหตุการณ์ด้วยความตื่นเต้นว่าเมื่อคืนวันที่ 2 ธันวาคม 65 ที่ผ่านมาตนและเพื่อนๆประมาณ 10 คนได้มาเที่ยวที่ร้านอาหารดังกล่าว และได้พบกับนายทหารนายนี้มากับลูกน้อง 2 คน ระหว่างที่เดิมกินกันอยู่ในร้านจนกระทั่งร้านปิดเวลาเที่ยงคืน นายทหารรายนี้ได้สั่งให้เพื่อนของตนที่ชื่อ นนท์ มาหาแต่พวกตนเห็นว่าเขาเมามากแล้วจึงไม่ไปสักพักหนึ่งเขาจึงเดินมาที่โต๊ะของพวกตนพร้อมทั้งสั่งให้นายนนท์ วิดพื้น 20 ที แฟนของนายนนท์จึงร้องไปว่าทำแบบนี้ได้ยังไงมีสิทธิ์อะไรถึงมาทำแบบนี้ นายทหารคนดังกล่าวก็ยังสั่งว่ากูสั่งให้ทำอะไรมึงก็ต้องทำ เมื่อพวกตนไม่ทำเขาจึงเดินกลับไปที่โต๊ะสักพักหนึ่งเดินกลับเข้ามาใหม่แล้วพูดว่าพวกมึงไม่รู้จักกูเหรอพวกมึงอยาก ตายเหรอ

จากนั้นนายทหารรายนี้ ได้ตรงเข้าล็อคคอนายเอกไท จนทำให้แมสและสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทที่ห้อยอยู่ที่คอขาด กระเด็น โดยมีลูกน้อง 2 คนพยายามดึงมือลูกพี่ให้ออกจากร้าน ส่วนเจ้าของร้านเองพยายามพูดจาให้กลุ่มของตนไปขอโทษนายทหารรายนี้ แต่พวกตนไม่ได้เป็นฝ่ายผิดจึงไม่ยินยอมหลังก่อเหตุเขาได้ขับรถออกไปจากร้านพร้อมลูกน้อง โดยอ้างชื่อบอกว่าสนิทกับรองป๊อป ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าลองป๊อปหมายถึงใคร พวกตนเองว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยจึงได้พากันเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภรัตนาธิเบศร์ในคืนนั้นและยืนยันว่า จะดำเนินคดีถึงที่สุดไม่รับการขอโทษหรือรับกระเช้าอย่างแน่นอน ส่วนร้านที่เกิดเหตุตนมาเที่ยวประจำต่อจากนี้ไปก็คงไม่กล้ามาเที่ยวที่ร้านแห่งนี้แล้วเพราะกลัวว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยอีกทั้งยังทราบมาว่านายทหารรายนี้มีบ้านอยู่แถวแถวร้านด้วยยิ่งทำให้พวกตนไม่กล้ามาเที่ยวอย่างแน่นอน สำหรับนายทหารดังกล่าวทราบว่ามียศพันเอกจบเตรียมทหารรุ่น 32

ความคืบหน้าของคดีนี้ วันนี้ (27 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ชั้น 2 ห้อง ศปก. สภ.รัตนาธิเบศร์ พันเอกพิเศษวงศ์วริศ  (ขอสงวนนามสกุล) พร้อมผู้เสียหาย และตัวแทนเจ้าหน้าที่จากกระทรวงยุติธรรม ได้มีการนัดเจรจาพูดคุยกัน เพื่อสรุปปัญหาที่เกิดขึ้นโดยมี รองผู้กำกับหัวหน้าพนักงานสอบสวนสภ.รัตนาธิเบศร์ เป็นคนกลางในการเจรจาพูดคุยของทั้งสองฝ่าย ซึ่งทางผู้เสียหายเรียกค่าเสียหายจากคู่กรณี เป็นจำนวนเงิน 15,000 บาท โดยนายพันเอกพิเศษวงศ์วริศ ยินยอมชดใช้ตามที่เรียกร้อง  พนักงานสอบสวน จึงดำเนินการทำเรื่อง เอกสารหลักฐานพร้อมสอบปากคำทั้งฝ่ายต่อหน้าเจ้าหน้าที่จากกระทรวงยุติธรรม

ขณะที่น้องพัดหนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่าเงินที่ได้รับการเยียวยาในวันนี้ตนไม่ได้เรียกร้องหรือว่าต้องการมากมายอะไรเพียงแต่อยากให้เขาออกมารับผิดชอบในส่วนของพวกตน ที่เสียหายไปคดีนี้อยากฝากถึงคนที่เป็นใหญ่เป็นโตเวลาคุณจะเที่ยวสถานที่แห่งไหน ก็อยากให้ใช้สติสักนิดนึงเพราะเท่าที่ทราบ ตัวเขาเองหลังเกิดเรื่องก็ถูกทางผู้บังคับบัญชาลงโทษหลายอย่างทั้งทางวินัยตัดเงินเดือน วันนี้ได้มีการพูดคุยเจรจาตกลงกันตนทั้ง 6 คนก็ไม่ติดใจดำเนิน คดีแต่อย่างใดก็ขอให้ทุกอย่างจบลงด้วยดีไม่มีปัญหาต่อกันอีกต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News