สงบศึก! "แชมป์" ลั่นความรุนแรงไม่ใช่ทางออกที่ดี ด้าน "ไอวี่" ไม่ติดใจเอาความ เตรียมกลับประเทศทันที

นายณัฐพร หรือ แชมป์ กะเทยไทย ที่ถูกดำเนินคดีข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายกะเทยฟิลิปปินส์ เข้าไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี ก่อนที่เวลา 16.15 น. คู่กรณีจะเดินทางมาถึง พบว่าบริเวณลำคอมีร่องรอยบาดแผลในหลายจุด โดยมีสีหน้านิ่งเฉยและเดินเข้าไปในห้องประชุม เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนตาม พ.ร.บ.ไกล่เกลี่ย

ทั้งนี้มีคนกลางช่วยไกล่เกลี่ย ทั้งเจ้าหน้าที่สถานทูตฯ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล5 สมาคมไกล่เกลี่ย และสมาคมล่ามแห่งประเทศไทย

จากนั้นพล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5. เปิดเผยว่า การเจรจาไกล่เกลี่ยครั้งนี้จบลงไปด้วยดี ในส่วนของผู้ได้รับบาดเจ็บไม่ติดใจจะดำเนินคดี รวมถึงผู้ที่อาจเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์คืนวันที่ 4 มีนาคม ส่วนนายแชมป์ ช่วยเรื่องค่ารักษาพยาบาล 10,000 บาท ให้ผู้บาดเจ็บ เบื้องต้นความเห็นแพทย์ผู้เสียหายต้องรักษาตัว 14 วัน ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าและลำตัว



Mr. JAYMAR หรือ ไอวี่ ผู้เสียหายชาวฟิลิปปินส์ กล่าวว่า อยากจบปัญหาทุกอย่าง และอยากมีความสัมพันธ์เป็นเพื่อนกันจะดีกว่า ยืนยันว่าในคืนเกิดเหตุตนไม่ได้รู้สึกโกรธ แค่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนี้จะเดินทางกลับประเทศฟิลิปินส์ทันที และยังไม่มีแพลนจะเดินทางกลับมาเที่ยวที่ประเทศไทย

ด้านนายแชมป์ กล่าวว่า ขอบคุณผู้เสียหาย ที่ยอมไกล่เกลี่ยทำให้ตนไม่มีคดีความ เป็นการจบลงด้วยดี ทำให้ความสัมพันธ์ต่าง ๆ เป็นไปในทางที่ดีขึ้น ตนได้ชดใช้ค่าเยียวยาให้ผู้เสียหายเป็นจำนวน 10,000 บาท ผู้เสียหายไม่ได้เรียกร้อง แต่เป็นสิ่งที่ตนตั้งใจที่จะให้เอง เบื้องต้นได้ขอโทษผู้เสียหาย เพราะสิ่งที่ทำเป็นคือความรุนแรง ตอนนั้นทำลงไปด้วยอารมณ์ แต่พอมาคุยกันแล้วพบว่าความรุนแรงไม่ใช่ทางออกที่ดีเสมอไป ไม่ได้สนับสนุนให้เกิดการใช้ความรุนแรง ก่อนจะทิ้งท้ายว่า “ยินดีต้อนรับสู่ประเทศไทย”

อย่างไรก็ตามผู้ต้องหาชาวฟิลิปินส์ 2 คนที่นำตัวส่งฟ้องศาลนั้น ศาลพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ประกอบ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ปรับคนละ 10,000 บาท จำเลยทั้ง 2 ให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงปรับคนละ 5,000 บาท หากจำเลยทั้งสองไม่ชำระ ค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30 ด้านพล.ต.ต.วิทวัฒน์ ระบุว่า ตอนนี้ศาลได้ทำการปรับคนละ 5,000 บาท ก่อนที่จะส่งตัวให้กับทางตม. เพื่อที่จะผลักดันออกนอกประเทศ ผู้ต้องหาคนที่เหลือ  ตอนนี้พิสูจน์ทราบได้ 1 คน อยู่ระหว่างเตรียมหมายจับ และต้องมีการขยายผลเพื่อพิสูจน์ทราบตัวบุคคลเพิ่มเติมว่ามีใครมีส่วนของการกระทำความผิดบ้าง