นักเรียน-ผู้ปกครอง ฮือไล่ ผอ. บริหารไม่โปร่งใส อมเงินทุนการศึกษาเด็กยากจน

วันนี้ (8 ธ.ค.) ที่บริเวณหน้าเสาธงโรงเรียนกุตาไก้วิทยาคม ต.กุตาไก้ อ.ปลาปาก จ.นครพนม มีนักเรียนระดับชั้น ม.1-ม.6 กว่า 200 คน พร้อมด้วยผู้นำท้องถิ่น ชุมชน ผู้ปกครองนักเรียน และศิษย์เก่า นำโดย นายเจริญ หูมแพง อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้านนาเรียงหมู่ 3 ต.กุตาไก้ อ.ปลาปาก รวมตัวประท้วง ถือป้ายข้อความขับไล่ พร้อมไฮด์ปาค ขับไล่ นายวันศักดิ์ คำแหง ผู้อำนวยการโรงเรียนกุตาไก้วิทยาคม และ นายไพฑูรย์ ไชยชนะ ครูชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายการเงินออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง โดยระบุว่า มีปัญหาสืบเนื่องจาก บริหารงานไม่โปร่งใส เนื่องจากมีการหมกเม็ด ไม่ยอมทุนการศึกษาปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจน ที่กำหนดจ่ายให้นักเรียน เทอมละ 1,500 บาท ในระยะเวลา 1 ปี จะมี 2 เทอม รวมเป็นเงิน 3,000 บาท ต่อราย ในช่วงระยะเวลา 3 ปี นักเรียนไม่ได้รับทุนการศึกษาโดยไม่ทราบสาเหตุ

ทั้งนี้ทางผู้ปกครอง ได้เคยทักท้วง ทวงถาม แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยง ไม่ชี้แจงข้อเท็จจริง นอกจากนี้ ยังมีความไม่โปร่งใส ในการนำเงินผ้าป่าสามัคคี ที่ได้รับบริจาค ประมาณ 1.3 ล้านบาท ไปซื้อรถบัส เพื่อใช้ในกิจกรรมนักเรียน แต่ไม่สามารถใช้งานได้จริง นำไปจอดซ่อม เป็นเวลากว่า 1 ปี จึงเชื่อว่าเป็นพฤติกรรมที่ส่อไปในทางทุจริต จึงต้องการเรียกร้องให้ มีการย้ายผู้อำนวยการดังกล่าวออกจากพื้นที่ เพื่อหาบุคคลอื่นมาทำหน้าที่แทน

ภายหลัง นายภคิน ลดาดกจิรานนท์ รอง ผอ.สพม.นครพนม พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติกร ได้เดินทางมารับเรื่อง พร้อมระบุว่า จะนำไปเรื่องไปพิจารณา จรวจสอบตามขั้นตอน ส่วนผู้อำนวยการโรงเรียน คนดังกล่าว ทาง สพม.นครพนม ได้มีคำสั่งไปช่วยราชการที่ สพม.นครพนม ในเบื้องต้น ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2565 เป็นต้นไป

ด้าน นายเจริญ หูมแพง อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้านนาเรียงหมู่ 3 ต.กุตาไก้ อ.ปลาปาก จ.นครพนม ในฐานะตัวแทนผู้ปกครอง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลที่ผ่านมา ทราบว่า นักเรียนระดับชั้น ม.1-ม.3 ต้องได้รับเงินปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจน เทอมละ 1,500 บาท หนึ่งภาคเรียนมี 2 เทอม นักเรียนหนึ่งคนจะต้องได้รับเงินดังกล่าวรวม 3,000 บาทต่อปี แต่นักเรียนที่มีคุณสมบัติกับไม่ได้รับ รวมถึงลูกชายตน เท่ากับว่าลูกชายตนเรียน ม.1-ม.3 ควรได้เงินรวมทั้งสิ้น 12,000 บาท ปัจจุบันลูกชายเรียนอยู่ชั้น ม.5 ยังไม่ได้รับเงินที่พึงจะได้แม้แต่บาทเดียว ทั้งที่มีงบประมาณตกลงมาทุกปี โดยก่อนหน้านี้ผู้ปกครองจะได้รับเงินดังกล่าวทุกเทอม แต่พอมีผู้อำนวยการคนดังกล่าวมาบริหารงาน ไม่มีผู้ปกครองคนไหนได้รับเงินแม้แต่รายเดียว

โดยมีข้อมูลในช่วงปีการศึกษา 2561-2564 นักเรียนภาคเรียนที่ 1 มีจำนวน 776 ราย คิดเป็นเงินที่ทางโรงเรียนต้องจ่ายแก่ผู้ปกครอง จำนวน 1,164,000 บาท (หนึ่งล้านหนึ่งแสนหกหมื่นสี่พันบาทถ้วน) ส่วนภาคเรียนที่ 2 มีนักเรียน 849 ราย รวมเป็นเงิน 1,318,500 บาท (หนึ่งล้านสามแสนหนึ่งหมื่นแปดพันห้าร้อยบาทถ้วน) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,482,500 บาท ทางผู้ปกครองตลอดจนผู้นำท้องถิ่น ชุมชน จึงเกิดความสงสัยว่าเงินจำนวนนี้ไปอยู่ไหน สอบถามผู้อำนวยการกับถูกบ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำถาม จึงต้องออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม และต้องการ ให้ดำเนินการตรวจสอบ และขอให้ออกจากพื้นที่ เพราะส่งผลกระทบต่อการบริหารด้านการศึกษาของโรงเรียน พร้อมเสนอให้ สพม.นครพนม ตรวจสอบ ดำเนินการให้เร็วที่สุด