เลือกตั้งและการเมือง

แยกอโศกวุ่น! ม็อบราษฎรเดินเท้าไปศูนย์สิริกิติ์ พ่นสเปรย์-สาดสี ยื่นข้อเรียกร้อง 'ผู้นำเอเปค' ตร.ตรึงกำลังเข้ม

โดย nattachat_c

18 พ.ย. 2565

38 views

กลุ่มมวลชนจัดกิจกรรม 'What happening in Thailand ' เดินเท้าไปยื่นหนังสือถึงมือเหล่าผู้นำเขตเศรษฐกิจ APEC 2022 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตำรวจตรึงกำลัง-ขึงลวดหนามสกัดม็อบชูป้าย ผู้ชุมนุมพ่นสีสเปรย์-สาดสี-ฉีกหนังสือเรียกร้องแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ก่อนยุติการชุมนุม


วานนี้ (17 พ.ย. 65) เวลา 12.30 น. กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง กลุ่มราษฎร 63 พร้อมเครือข่ายแนวร่วม 13 เครือข่าย นำโดยนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข จัดกิจกรรม 'What happening in Thailand?' รวมตัวกันที่บริเวณทางเท้าใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอโศก จะเดินขบวนไปศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อยื่นจดหมาย นำเสนอรูปแบบการบริหารประเทศของรัฐบาลไทยถึงผู้นำโลก ที่กำลังประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก 2022 (APEC 2022)


โดยกลุ่มผู้ชุมนุม ได้นำป้ายข้อความขับไล่นายกรัฐมนตรี และข้อความเชิงสัญลักษณ์ ไปชูบริเวณริมถนนสุขุมวิท ช่วงใกล้แยกอโศก แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตให้ทำกิจกรรมบริเวณพื้นที่ดังกล่าว และได้กันออกจากพื้นที่ จึงได้เกิดเหตุปะทะระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน บริเวณทางขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีอโศก มีการยื้อแย่งป้ายกัน ชุลมุนประมาณ 15 นาที ก่อนแยกออกจากกัน


จนทำให้กลุ่มผู้ชุมนุม มาใช้พื้นที่บริเวณหน้าทางขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีสุขุมวิทแทน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาห้าม ไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมชูป้ายที่บริเวณดังกล่าว และพยายามเจรจา จนทำให้เกิดการเผชิญหน้ากัน และเกิดความวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย


ระหว่างนั้น แกนนำได้ปราศรัยถึงความต้องการของการทำกิจกรรม พร้อมทั้งเน้นย้ำข้อเรียกร้องของกลุ่ม

  • ขับไล่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
  • ยกเลิก ม.112
  • หยุดฟอกเขียว
  • เรียกร้องให้ปล่อยนักโทษทางการเมือง


ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะพยายามยึดป้ายผ้าและผลักดันออกไป ผู้ชุมนุมมีการเจรจากับตำรวจเพื่อจะเคลื่อนขบวน


ขณะที่ตำรวจได้ปรับกำลัง โดยนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาเสริมบริเวณตลอดแนวริมทางเท้าช่วงสถานีรถไฟฟ้าฯ ไม่ให้ผู้ชุมนุมลงไปใช้พื้นที่บนพื้นผิวการจราจรในการทำกิจกรรม โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้กลับมาทำกิจกรรมบริเวณริมทางเท้าใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสแทน ก่อนที่จะมีการหารือในเส้นทางการเคลื่อนขบวนทำกิจกรรม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณแยกอโศกมนตรี มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดควบคุมฝูงชน ตำรวจ ตชด. วางกำลังรักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบ นำหลวดหนามหีบเพลงมาติดตั้งขวางบริเวณสุขุมวิท ตัดเข้าถนนพระราม 4 รวมทั้งรั้วแผงเหล็กและแบริเออร์ จัดกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนมายืนประจำการตามจุดต่างๆ บริเวณแยก หัวมุมถนน และรอบสถานีรถไฟฟ้าอโศก รวมถึงนำรถควบคุมผู้ต้องมาจอดเตรียมไว้ อีกทั้งมีการปิดทางขึ้นรถไฟฟ้าบริเวณ ตึก Exchange Tower และตึก Interchange รวมถึง สกายวอร์คด้านบน


12.09 น. มีคนแต่งตัวชุดไดโนเสาร์มาร่วมเดินขบวน ติดสติ๊กเกอร์ข้อความว่า ‘ไล่ประยุทธ์’ โดยนางสาวธนพร วิจันทร์ หรือไหม เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน สวมใส่ชุดไดโนเสาร์ พูดผ่านไมโครโฟนว่า “เรามาสะท้อนปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน การประชุมเอเปคในครั้งนี้ ไม่ได้ฟังเสียงของประชาชน ไม่มีตัวแทนภาคประชาชน ไม่มีตัวแทนของแรงงานและพี่น้องเกษตรกร หากวันนี้ประเทศไทยเป็นประเทศประชาธิปไตย จะต้องฟังเสียงของประชาชน”  


12.12 น. มีการติดป้ายบริเวณเสาอาคารเชื่อมต่อ รฟม.- สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีอโศก โดยติดแผ่นป้ายข้อความว่า ‘Prayut get out’ และสติ๊กเกอร์ข้อความว่า ‘stop violation of human rights’


12.17 น. นางสาวธนพร เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน ประกาศผ่านไมโครโฟนว่า มีชุดนักโทษประมาณ 10 ชุด สำหรับอาสาสมัครที่อยากมาใส่ และร่วมเดินขบวนไปยังศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จากนั้นตัวแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสอบถามถึงเส้นทางการเดินขบวน


12.28 น. นายธัชพงศ์ แกดำ (บอย) หนึ่งในแกนนำผู้ชุมนุม สวมชุดไดโนเสาร์และได้ประกาศถามความพร้อมของประชาชนที่จะร่วมเดินขบวนและกล่าวว่า “การประชุมเอเปคในครั้งนี้ประชาชนไม่มีส่วนร่วม และไม่ได้รับประโยชน์ มีเพียงรัฐบาลและกลุ่มทุนผูกขาดเท่านั้น” จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอความร่วมมือ ให้สื่อมวลชนและประชาชนที่มาร่วมเดินขบวน ขึ้นไปบนทางเท้าเพื่อไม่ให้การจราจรติดขัด


13.06 น. นายธัชพงศ์ ประกาศผ่านไมค์โครโฟนว่า “เราได้มีการเจรจา ก่อนหน้านี้มีการยื่นหนังสือไปยังสถานทูตสหรัฐอเมริกา สถานทูตนิวซีแลนด์ สถานทูตออสเตรเลีย สถานทูตแคนาดา ตัวแทนทูตแต่ละประเทศมารับหนังสือเป็นที่เรียบร้อย ได้มีการติดต่อไปยังตัวแทนเอเปค ว่า เราจะยื่นหนังสือในวันนี้ เขาก็ตอบรับมาและส่งตัวแทนเป็นที่เรียบร้อย และพร้อมที่จะให้เราส่งตัวแทนเข้าไปไม่เกิน 5 คน” พร้อมระบุว่า มีปัญหาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลอยู่ ณ ตรงนี้ ไม่ยอมให้เราส่งตัวแทนเข้าไป เพราะฉะนั้น ตัวแทนเอเปคไม่มีได้ปัญหา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลอยู่ ณ ตอนนี้ บอกว่าเป็นคำสั่ง


13.12 น. นางสาวธนพร เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน ประกาศว่า ให้กลุ่มผู้ชุมนุมชูป้ายขึ้น เนื่องจากไม่สามารถเข้าไปยังศูนย์สิริกิติ์ได้ จึงอยากส่งข้อความผ่านสื่อมวลชนเนื่องจากตำรวจปิดกั้นไม่ให้ไป เราพยายามเจรจาต่อรองเพื่อจะส่งตัวแทนเข้าไป วันนี้ถ้าเรายังอยู่แบบนี้สถานการณ์มันก็ไม่จบ แต่เราอยากจบมันด้วยการยื่นหนังสือ ที่สำคัญพวกเราจะเป็นตัวแทนเข้าไปยื่นหนังสือถึงมือผู้นำแต่ละประเทศในการประชุมเอเปค ไม่เช่นนั้นปัญหาของประเทศไทยก็จะถูกซุกอยู่เหมือนเดิม ไม่มีการแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งมีความร้ายแรงมาก


ต่อมา ตัวแทนมวลชนได้เข้าเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อส่งตัวแทนเข้ายื่นหนังสือต่อผู้แทนการประชุมเอเปค หลังจากที่มีการติดต่อขอยื่นหนังสือถึงเหล่าผู้นำประเทศ โดยมีนายสมพาศ นิลพันธ์ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และนายสาธิต สุทธิเสริม ผู้อำนวยการส่วนประสานมวลชนและองค์กรประชาชน มาเป็นตัวแทนในการเจรจา แต่ว่ากลุ่มมวลชนไม่ยอม ยังยืนยันที่จะเดินเท้าเข้าไปหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อส่งตัวแทนยื่นหนังสือต่อไป


13.30 น. พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผู้กำกับการ สน.ลุมพินี ขึ้นรถเครื่องขยายเสียง ประกาศแจ้งเตือนผู้ชุมนุม ไม่ได้ขออนุญาตจัดกิจกรรมล่วงหน้า 24 ชั่วโมง ถือว่าผิด พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ไม่การชุมนุมไม่ชอบด้วยกฏหมาย ขอให้ยุติการชุมนุม พร้อมระบุว่า มีพี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมาได้รับความเดือนร้อน ขอให้ผู้ชุมนุมขยับขึ้นบนฟุตบาท


13.40 น. หลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมราษฎร ใช้เวลาในการทำกิจกรรม “What happening in Thailand?” เพื่อต้องการเดินขบวนไปศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในการยื่นจดหมายถึงผู้นำในแต่ละประเทศ นานกว่า 3 ชั่วโมง และพยายามเจรจากับตำรวจ เพื่อขอส่งตัวแทนเข้าไปยื่นหนังสือ แต่ตำรวจไม่อนุญาตนั้น  


ทางแกนนำจึงได้อ่านแถลงการณ์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ที่มีข้อความเรียกร้องไปยังผู้นำจากประเทศต่างๆ เพื่อแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มาจากการรัฐประหาร ยังคงมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง จึงเรียกร้องให้ผู้นำเอเปคจากประเทศต่างๆ ได้พิจารณาถึงความร่วมมือกับผู้นำรัฐบาลไทย และรับฟังเสียงของประชาชน


จากนั้น ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ฉีกหนังสือที่ตั้งใจจะนำไปยื่นให้กับผู้นำเอเปค เนื่องจากว่าไม่เป็นไปตามจุดประสงค์ที่ตั้งใจเดินเท้าจะยื่นให้กับตัวแทน เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ และสาดสี ลงบนพื้นผิวการจราจรและสาดสีใส่เจ้าหน้าที่เป็นการการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วย ก่อนที่จะประกาศยุติการชุมนุม 13.40 น.


จากนั้น 13.50 น. ภายหลังประกาศยุติการชุมนุม ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด. ผลักดันผู้ชุมนุมจากบริเวณผิวการจราจรขึ้นไปบนทางเท้า ทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันเล็กน้อยระหว่างเจ้าหน้าที่กับมวลชน โดยกลุ่มผู้ชุมนุมตะโกนขับไล่เจ้าหน้าที่ นำสติ๊กเกอร์ข้อความ #ไล่ประประยุทธ์ ไปติดที่โล่ของเจ้าหน้าที่


นอกจากนี้กลุ่มผู้ชุมนุมยังได้พ่นสีสเปรย์ใส่โล่กำบังของเจ้าหน้าที่ เทสีลงพื้นถนน และสาดใส่ตำรวจ และสาดน้ำใส่เจ้าหน้าชุดควบคุมฝูงชน จนเจ้าหน้าที่ประกาศว่าการสาดสี ขว้างปาสิ่งของ เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ความสะอาด ทำให้ผู้ชุมนุมไม่พอใจและพยายามผลักดันตำรวจ เกิดการเผชิญหน้าวุ่นวายชุลมุน

---------------
นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวชุมนุมครั้งนี้ อยากให้ผู้ชุมนุมย้อนถามตัวเองด้วยว่า ทำไปเพื่อผลประโยชน์ของใครกันแน่


เพราะเห็นมีแค่คนบางส่วนเท่านั้น ที่พยายามปลุกระดมให้ประชาชนออกมาชุมนุม แต่ที่แน่ๆ คือการขัดขวางโอกาสและประโยชน์ที่ประเทศชาติ และประชาชนจะได้รับจากการประชุมครั้งนี้


อยากให้ผู้ชุมนุมทบทวนตัวเองอีกสักครั้งว่า การพยายามสร้างสถานการณ์เพื่อกดดันเจ้าหน้าที่นั้น ในใจลึกๆ หวังจะให้นำไปสู่ความรุนแรง จงใจให้เกิดการเผชิญหน้า สร้างเงื่อนไขให้เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องปราบปราม เพื่อที่จะนำภาพดังกล่าวไปขยายผลต่อใช่หรือไม่ ถ้าคำตอบคือใช่ ก็ไม่ควรเรียกตัวเองว่านักประชาธิปไตยให้ต้องอับอายชาวโลก แต่ควรละอายบ้างที่เอาประโยชน์ของประเทศ มาแลกกับความสะใจของคนเพียงไม่กี่คน
---------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/_EAIHsnBvfU

คุณอาจสนใจ

Related News