เศรษฐกิจ

เปิดผลการประชุม รมต. เอเปค เห็นพ้องตั้ง FTA - เปิดกว้างการค้า

โดย panwilai_c

17 พ.ย. 2565

71 views

การประชุมรัฐมนตรีเอเปคบรรลุฉันทามติร่างเป้าหมายกรุงเทพ ตามกรอบการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG ก่อนนำเสนอระดับผู้นำในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ ท่ามกลางความท้าทายในการหาถ้อยคำร่วมในแถลงการณ์ จากปัญหาสงครามยูเครน ทำให้มีการเรียกร้องการแสวงหาสันติภาพ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ที่ส่วนหนึ่งมีผลกระทบมาจากวิกฤตสงครามที่เกิดขึ้น



นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานร่วม ในการประชุมรัฐมนตรีเอเปคแบบเต็มคณะ ครั้งที่ 33 ซึ่งเป็นการประชุมร่วมระหว่างรัฐมนตรีด้านการต่างประเทศ กับรัฐมนตรีด้านการค้าของทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจ ถือเป็นการประชุมแบบพบหน้าในรอบ 4 ปีหลังสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจทั่วโลก ที่กำลังเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 การประชุมเอเปคครั้งนี้จึงท้าทายอย่างมาก ท่ามกลางความแตกต่างทางการเมืองและความมั่นคง ที่นำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจ รวมถึงปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ



ซึ่งนายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ ในฐานะเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปคของไทย เปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของไทย จึงรียกร้องให้ที่ประชุมช่วยกันเดินหน้าให้เกิดแถลงการณ์ร่วมของรัฐมนตรีเอเปค เพื่อให้มีการแสวงหาสันติภาพ นำไปสู่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยปราศจากความขัดแย้งเป็นตัวตั้ง และวิกฤตสงครามยูเครน กลายเป็นอุปสรรคหนึ่งต่อการหาถ้อยคำในร่างแถลงการณ์ร่วมของระดับรัฐมนตรีและผู้นำ แม้จะเห็นชอบร่างเป้าหมายกรุงเทพร่วมกันแล้วก็ตาม



ส่วนการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ที่ประชุมมีฉันทามติร่วมกันในการขับเคลื่อนเป้าหมายกรุงเทพ bangkok Goal BCG Economy เพื่อนำเสนอระดับผู้นำในวันที่ 19 พฤศจิกายน และที่ประชุมเห็นพ้องร่วมกันในการขับเคลื่อนความร่วมมือไปสู่เป้าหมายของการจัดตั้ง FTA-APEC ขึ้นในอนาคคต และสนับสนุนการค้าในระบบพหุภาคีโดยให้มีองค์การการค้าโลกหรือ WTO เป็นศูนย์กลางและเร่งหาข้อสรุปในประเด็นที่ค้างคาอยู่ใน WTO ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว



ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการอุดหนุนประมงและอื่นๆและเห็นชอบร่วมกันในการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันด้านบริการของกลุ่มสมาชิกเอเปค และเปิดโอกาสให้สตรี ไมโครเอสเอ็มอี กลุ่มเปราะบาง เข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจมากขึ้น รวมทั้งในการใช้ประโยชน์จากเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ Digital Economy และเห็นชอบการค้าตามแนวคิด OPEN CONNECT BALANCE ด้วย และไทยพร้อมส่งต่อการประชุมเอเปคในปีหน้าให้กับสหรัฐอเมริกา



สำหรับการประชุมเอเปคครั้งนี้มีการจับตาไปที่ปัญหาวิกฤตสงครามยูเครน โดยเฉพาะท่าทีของสหรัฐอเมริกาและรัสเซีย แม้ผู้นำประธานาธบดีโจ ไบเดน และวาลดิเมียร์ ปูติน จะไม่มาร่วมประชุมด้วยตนเอง แต่บรรยากาศในที่ประชุมก็ให้ความสำคัญเรื่องนี้ เห็นได้จากถ้อยแถลงของ นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่ระบุว่า ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย เป็นต้นเหตุให้ทั่วโลกเผชิญปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ส่งผลกระทบต่อพลังงาน และอาหารในประเทศกำลังพัฒนา



โดยเฉพาะที่เกิดกับประเทศยูเครน แม้จะเปิดเส้นทางให้ลำเลียงอาหารได้ แต่การโจมตีที่ไม่สิ้นสุดทำให้โลกยังต้องช่วยเหลือยูเครน รวมถึงอเมริกาก็จะยังยืนหนัดในการแก้ปัญหาที่ท้าทายนี้ ส่วนการประชุมเอเปคในครั้งนี้ สหรัฐฯพร้อมสนับสนุนเป้าหมายกรุงเทพ BCG Economy มุ่งเน้นการแก้ปัญหาสภาพอากาศและเศรษฐกิจ โดยสหรัฐ พร้อมจะเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมเอเปคในปี 2023



รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ที่มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นหลังการพบกันของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ในการประชุม G20 ที่อินโดนีเซีย ซึ่งนายบลิงเคน จะเดินทางไปเยือนจีนในต้นปีหน้า ตามที่นายไบเดน ได้มอบหมายด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News