อาชญากรรม

ขอมนุษยธรรมให้ลูกผมบ้าง! สามีครูพรเปิดใจ ลูกชายไม่เข้าเกณฑ์เยียวยา หลังสิ้นใจในท้องแม่ เหตุกราดยิงหนองบัวลำภู

โดย thichaphat_d

7 พ.ย. 2565

1.1K views

จากกรณี โศกนาฏกรรมกราดยิงศูนย์เด็กเล็กอุทัยสวรรค์ จ.หนองบัวลำภู ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก รวมถึง น.ส.สุภาพร (ครูพร) อายุ 26 ปี ครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ 8 เดือน และมีกำหนดคลอดวันที่ 23 พ.ย. เสียชีวิตพร้อมกับลูกในครรภ์ ภายหลังครอบครัวผ่าทารกในครรภ์ออก พร้อมตั้งชื่อว่า 'ซีวิค'


วานนี้ (6 พ.ย. 65) ความอดทนของนายเสกสรรค์  อายุ 28 ปี (สามีครูพร) สิ้นสุดลง โดยเจ้าตัวเผยความรู้สึกไม่เป็นธรรม ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว กรณีเงินเยียวยาผู้เสียชีวิต ซึ่งเกี่ยวข้องกับชีวิต 'น้องซีวิค' ระบุว่า


"ลูกผมนะ ถ้าพูดตามกฎหมายลูกผมไม่ได้รับการเยียวยาอยู่แล้ว เพราะลูกผมมาสิ้นใจตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ถ้ารัฐบาลมาถามหาเลขบัตรประชาชน ใบเกิดลูกผมไม่มี เพราะลูกผมสิ้นใจก่อน จะให้เขาเอาเลขบัตรประชาชนกับใบเกิดมาแต่ไหน ขนาดผมพาภรรยาไปผ่าคลอด ทั้งที่เขาเสียชีวิตไปแล้ว


นี่หรือคือสิ่งที่รัฐเอาแต่กฎหมายมาอ้างในการเยียวยาลูกชาย เหตุผลเพียงเพราะลูกผมสิ้นใจในท้อง ผมเคารพกฎหมายบ้านเมืองเสมอ แต่พวกคุณเข้าใจไหมว่า มนุษยธรรมมันควรมีทุกคน สิ่งที่ผมโพสต์วันนี้ และในส่วนของราชการละครับ คุณเอาแต่กฎหมายว่าลูกผมไม่มีนั่นนี่ สิ้นใจก่อน ไม่นับลูกผมในการเสียชีวิตครั้งนี้ ผู้ใหญ่ทุกภาคส่วนรู้ไหมว่าผมต้องเจ็บช้ำแค่ไหน


ผู้ใหญ่เอาแต่หลักเกณฑ์มาพูด อันนั้นอันนี้ไม่ได้ แต่ผู้ใหญ่เข้าใจไหมว่าผมสูญเสียทั้งเมียและลูก ผมรู้ว่าทุกคนก็สูญเสียไม่แพ้กัน ผมเป็นพ่อ ผมต้องทวงความยุติธรรมให้ลูกผม แล้วเอาแต่กฎหมายมาอ้าง สงสารลูกผมบ้างไหม มนุษยธรรมมีให้ลูกผมบ้างไหม


ผมว่าจะไม่โพสต์แล้ว ผมอดทนมานานแล้ว ถ้าคิดว่าผมเห็นแก่เงิน คุณก็เอาชีวิตลูกเมียผมคืนมา ต่อให้ผมมีหนี้มากแค่ไหน ผมก็มีความสุข ผมได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน นี่หรือคือสิ่งที่ผู้ใหญ่บ้านเมืองเห็น ชีวิตเด็กน้อย 8 เดือน มีค่าแค่นี้ ทั้งที่เขาจะต้องลืมตามาดูโลกแล้ว ผมอยากฝากถึงรัฐบาล พวกคุณก็มีลูกมีหลาน พวกคุณก็น่าจะเข้าใจเรื่องนี้ดี"


ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนายนายเสกสรรค์ กล่าวว่า “สิ่งที่ตนโพสต์นั้น เป็นการทำหน้าที่พ่อ ในการทวงสิทธิ์ให้น้องซีวิค ลูกชายของตน เพราะน้องซีวิคจะไม่ได้รับการเยียวยาจากภาครัฐ เนื่องจากทางกฎหมายระบุว่า “ไม่เป็นสภาพบุคคล และไม่มีเลขบัตรประชาชน เลยไม่นับน้องซีวิคเป็นผู้เสียชีวิต”


ซึ่งตนได้สอบถามไปยังผู้ใหญ่หลายท่าน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือท่านรองผู้ว่า ซึ่งตนได้เข้าไปขอร้องท่านรองผู้ว่าฯให้ช่วยเหลือ แต่ด้วยข้อกฎหมายทำให้น้องซีวิคไม่ได้รับการเยียวยาเหมือนกับผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บรายอื่นๆ โดยน้องซีวิคได้รับเงินเยียวยาจากหลวงตาและพี่ๆ ศิษย์เก่าของจุฬาฯ ซึ่งเป็นส่วนของเอกชน แต่ในส่วนของรัฐบาลที่มีส่วนเกี่ยวข้อง น้องไม่ได้ได้รับการเยียวยา


ซึ่งตนอยากให้มองเรื่องของมนุษยธรรม เพราะตนได้สูญเสียลูกและภรรยาไปแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ก็เกิดในสถานที่ราชการ ทุกคนที่เสียชีวิตมีความผิดอะไร ถึงต้องเจอกับเหตุการณ์นี้ ลูกของตนอยู่ในท้อง เขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย


ซึ่งตอนที่ผ่าเพื่อนำร่างน้องซีวิคออกมา ก็ได้เย็บแผลให้ลูก เพราะผู้ก่อเหตุได้ฟันบริเวณท้องภรรยาตน บาดแผลจากการโดนฟันนั้น ทะลุลึกถึงน้องซีวิค ทำให้เกิดรอยฟันตรงบริเวณหางคิ้ว


ตนอยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ตนรู้ว่ากฎหมายนั้นไม่สามารถไปแก้ไขได้ แต่ผมขอร้องให้มองความเป็นมนุษยธรรมของเด็กหนึ่งคน ที่กำลังจะลืมตาดูโลก ท่านพอจะมีความเมตตาไหม เห็นใจบ้างไหม อย่างน้อยให้น้องซีวิคเป็นกรณีตัวอย่าง ให้ได้เรียนรู้ถึงระบบราชการไทย เพราะลูกของตนก็มีอวัยวะครบ 32 ประการ ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่ได้คลอดออกมา เพราะต้องมาเสียชีวิตก่อน
-------------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/krChdn9kTZg


คุณอาจสนใจ

Related News