'ปูติน' เตือนโลกกำลังเผชิญทศวรรษอันตรายที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2

วานนี้ (27 ต.ค. 65) ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวสุนทรพจน์ในเวทีการประชุมประจำปีของคณะวิจัย วาลได ดิสคัสชั่น คลับ  ในกรุงมอสโก

โดยเขาโจมตีชาติตะวันตก และพยายามสร้างความชอบธรรมในการยกทัพบุกโจมตียูเครนอีกครั้งด้วยการกล่าวหาว่ารัสเซียกำลังใช้นิวเคลียร์  และว่าโลกกำลังเผชิญกับทศวรรษที่อันตรายที่สุด นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2    

ปูติน กล่าวว่า ชาติตะวันตกว่าใช้เรื่องนิวเคลียร์มาแบล็กเมล เพื่อบีบให้ชาติพันธมิตรตีตัวออกห่างจากรัสเซีย โดยผู้นำรัสเซียย้ำว่า “เราไม่เคยมีคำพูดเชิงรุกใดๆ ถึงความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะใช้อาวุธนิวเคลียร์เลย เราเพียงตอบโต้เป็นนัย ต่อการแสดงความเห็นของผู้นำชาติตะวันตกเท่านั้น”

ผู้นำรัสเซียยกตัวอย่างกรณีของ ลิซ ทรัสส์ อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ที่กล่าวระหว่างหาเสียง เมื่อเดือนสิงหาคมว่า เธอพร้อมจะกดปุ่มยิงนิวเคลียร์ หากสถานการณ์บังคับให้เธอทำ โดยปูตินกล่าวว่า เขาประหลาดใจมากที่พันธมิตรของอังกฤษ กลับไม่คัดค้านใดๆ เลย

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ปูตินเคยพูดย้ำหลายครั้งว่า รัสเซียจะใช้ทุกวิถีทางที่ทำได้เพื่อปกป้องตัวเอง ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า เป็นการขู่ใช้นิวเคลียร์อย่างชัดเจน  รวมไปถึงที่รัสเซียเพิ่งจะเปิดการซ้อมยิงนิวเคลียร์ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดสงครามยูเครนขึ้น เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ด้วย

ปูตินกล่าวอีกว่า ชาติตะวันตกกำลังเล่นเกมสกปรกและนองเลือด ด้วยการปฏิเสธอธิปไตยและเอกลักษณ์ของประเทศอื่นๆ เขาบอกด้วยว่า การครอบงำกิจการโลกของชาติตะวันตกสิ้นสุดลงแล้ว โดยตะวันตกไม่ใช่ผู้ควบคุมอีกแล้ว แต่พวกเขายังพยายามอย่างเอาเป็นเอาตาย ที่จะทำมันต่อไป ระเบียบโลกในอนาคตกำลังก่อตัวขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกเรา พร้อมกล่าวหาสหรัฐฯ และชาติตะวันตกว่ากำลังพยายามทำลายรัสเซีย

ผู้นำรัสเซียยังกล่าวหาสหรัฐด้วยว่า กำลังใช้ ค่าเงินดอลลาร์ เป็นอาวุธโจมตีอยู่ในขณะนี้