สังคม

สะเทือนวงการ! พ่อค้าไก่หมุนปลอมเป็นทนายความ ถูกส่งตัวเข้าคุก แม่ร่ำไห้ไม่มีคนเลี้ยงดู

โดย chutikan_o

5 ต.ค. 2565

378 views

พ่อค้าไก่หมุนปลอมเป็นทนายความ หลังสวมชุดครุยทนายขึ้นว่าความในศาล หลอกผู้เสียหายให้โอนเงินให้ จนมาถูกจับโป๊ะได้ เพราะมีการปลอมแปลงเอกสารคำพิพากษา และตอนนี้ถูกดำเนินคดีส่งเข้าเรือนจำแล้ว

จากกรณีที่กลุ่มเพจเฟซบุ๊ก ทนายอาสา ปรึกษาในกลุ่มฟรี โดยทนายอาชีพ ซึ่งในกลุ่มมีสมาชิกอยู่ 5 หมื่นคน โดยโพสต์ระบุว่า กระบวนการยุติธรรมปั่นป่วน เมื่อพ่อค้าไก่ ปลอมบัตรทนายใส่ครุยขึ้นว่าความในศาล ทำมานานหลายปี ติดตามในกลุ่มทนายอาสา

การเปิดเผยเรื่องราวนี้ มีการเปิดแชตที่นายพรเทพ พ่อค้าไก่หมุน และปลอมเป็นทนายความ คุยกับผู้เสียหายหญิงคนหนึ่ง โดยผู้เสียหายมีการทวงถามถึงหมายเลขคดี เพราะทางผู้เสียหายติดต่อไปที่ศาลแล้วทางเจ้าหน้าที่ขอหมายเลขคดี ซึ่งนายพรเทพบอกว่าให้รอวันศุกร์เพราะจะกลับไปจังหวัดกำแพงเพชร โดยผู้เสียหายได้บอกกับนายพรเทพว่าตอนที่ติดต่อเจ้าหน้าที่แจ้งว่าหมายเลขคดีนั้น เป็นหมายเลขของคดียาเสพติด

ต่อมาผู้เสียหายได้มีการทวงถามหมายเลขคดีอีกครั้งและมีการพูดถึงการขอคืนเงินในการทำคดี คาดว่ามีการโต้เถียงกับนายพรเทพ โดยนายพรเทพได้บอกว่า "ก่อนศาลตัดสินพี่จ่าย 40,000 บาทยังไงก็จบ" และ "ฟ้องมาก็ฟ้องกลับ" จากนั้นผู้ต้องหาถูกจับในข้อหาปลอมคำพิพากษาศาลกำแพงเพชร พร้อมรับสารภาพว่า เพิ่งปลอมเป็นทนาย และก่อเหตุขึ้นว่าความในศาลเพียงครั้งเดียว

ทนายประพจน์ วงษ์เกื้อ ผู้เปิดโปงเรื่องนี้ กล่าวว่า ผู้เสียหาย ชื่อ ณัฐกานต์ หรือคุณอ๋อมแอ๋ม ต้องการจะฟ้องร้องในคดีหมิ่นประมาท จึงได้ว่าจ้างนายพรเทพให้ช่วยว่าความให้ แต่ต่อมาผู้เสียหาย รู้สึกเรื่องราวมีความผิดปกติและเข้ามาปรึกษากับตน ว่าได้จ้างทนายหนึ่งคน ซึ่งงานไม่มีความคืบหน้าเลย ถูกเลื่อนตลอด อ้างว่าศาลเลื่อน เพราะสถานการณ์โควิด จึงขอให้ผู้เสียหาบอกชื่อทนายคนดังกล่าวไปตรวจสอบ โดยทราบว่า ชื่อ นายพรเทพ คะเชนทร์ภักดิ์

เมื่อมีการดูทางโปรไฟล์เฟซบุ๊ก ก็ยังไม่เห็นความผิดปกติ เพราะมีภาพใส่ชุดครุยทนายไปศาล จึงขอหมายเลขคดี จากผู้เสียหาย เพื่อช่วยตรวจสอบว่าขั้นตอนไปถึงไหน เมื่อมาดูพบว่า เลขคดีเป็นคดียาเสพติดของอัยการและคู่ความคนอื่น ไม่ใช่คดีของผู้เสียหาย จึงให้ย้อนกลับไปถามนายพรเทพ และตอนนี้ นายพรเทพ ก็เริ่มมีการบ่ายเบี่ยง

จากนั้นได้ขอดูสำนวนฟ้อง ซึ่งจากการอ่านสำนวนฟ้องเขียนเหมือนไม่รู้เรื่อง ทำให้เริ่มเอะใจ เอาหมายเลขตั๋วทนายไปตรวจ พบว่าหมายเลขของทนายผู้หญิง ไม่ใช่นายพรเทพ ซึ่งนายพรเทพนำของมูลของตนเองมาตัดแปะบนข้อมูลคนอื่นทั้งหมด

จากการสอบถามคุณอ๋อมแอ๋ม ได้โอนค่าจ้างไปทั้งหมด 42,000 บาท และมีผู้เสียหายอีกคนที่อยู่ภาคใต้ 100,000 บาท และผู้เสียหายที่โคราชอีก 100,000 บาท ซึ่ง ณ ตอนนี้มีผู้เสียหายประมาณ 5 คน และไม่ทราบว่าที่ผ่านมานายพรเทพหลอกผู้เสียหายอีกกี่ราย เพราะทำมาหลายปี

พฤติกรรมของนายพรเทพนั้น ได้สร้างโปรไฟล์ของตัวเองเหมือนทนายทุกอย่าง มีออฟฟิศ มีป้ายออฟฟิศ มีการไปเช็คอินที่ศาลให้ดูเหมือนไปทำงานจริงๆ และเฟซบุ๊กยังมีการแท็กไปหาทนายความคนหนึ่ง เลยไปสอบถามบุคคลดังกล่าว และเขาบอกไม่รู้ว่า นายพรเทพเป็นทนายปลอม แต่เคยเจอนายพรเทพ เคยฝึกงาน ที่สำนักงานเดียวกันกับเขาเมื่อ 10 ปี ก่อนเลยมีความรู้พื้นฐานเรื่องกฎหมาย ส่วนที่ผ่านมาไม่เคยถูกจับได้ นายพรเทพมักจะอ้างว่ารับงานมาแล้วทำไม่ทัน จึงมาจ้างคนอื่นทำต่อ

ที่ถูกจับครั้งนี้ เพราะนายพรเทพไปรับงานของหญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นพนักงานราชการ อบต.เขาทะลุ จ.ชุมพร ซึ่งนายพรเทพ ได้ปลอมคำพิพากษาไปส่งหญิงคนดังกล่าว ก่อนที่จะถูกนำไปตรวจสอบ และพบว่าเป็นคำพิพากษาปลอม จึงถูกแจ้งความดำเนินคดี ศาลได้ตีราคาประกันในราคา 50,000 บาท แต่ไม่มีเงินมาประกันตัว จึงถูกฝากขังเข้าเรือนจำไปแล้ว

ทนายประพจน์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้าที่จะถูกจับ นายพรเทพ ยังเคยขึ้นว่าความในคดีอาญายักยอกเงิน และศาลยกฟ้องชนะอัยการ ที่ศาลกำแพงเพชร โดยมีการพิพากษาเมื่อเดือนที่แล้ว ส่วนที่รู้ว่าอาชีพจริงของนายพรเทพคือพ่อค้าขายไก่หมุน เนื่องจากตนได้ตรวจสอบประวัติอาชญากรพบว่านายพรเทพเคยมีคดีทะเลาะวิวาท โดยนายพรเทพบอกกับตำรวจว่ามีอาชีพเป็นค้าขายไก่หมุน ที่ตลาดไทรงาม กำแพงเพชร

ขณะที่ผู้เสียหาย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้พบความผิดปกติ ทำให้ไปหารือกับทนายความอีกคน และตอนนี้ตอนสูญเงินไปเกือบ 4 หมื่นบาท พร้อมฝากนายพรเทพ อย่าทำแบบนี้กับใคร เพราะจะทำให้ คนอื่นเดือดร้อน

ขณะที่นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นพบว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการปลอมใบอนุญาตทนายความ แล้วไปทำหน้าที่เป็นทนายความดำเนินการในศาล ตนมอบอำนาจให้ นายชัยวัฒน์ บุญเกื้อ นายทะเบียนสภาทนายความฯ ไปดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับบุคคลที่ปลอมแปลงใบอนุญาตทนายความแล้ว เพราะ ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ทนายความ ที่ระบุว่าผู้ที่จะว่าความต่อศาลต้องเป็นทนายความที่มีใบอนุญาตเท่านั้น และความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร

ส่วนคดีความที่ผู้ก่อเหตุมีการว่าความและคดีสิ้นสุดไปแล้วนั้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่าจะให้มีผลผูกพันทางกฎหมายหรือไม่อย่างไร

นอกจากนี้ ทางศาลก็จะมีการดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว ฐานละเมิดอำนาจศาลอีกส่วนหนึ่ง กรณีที่ปลอมเป็นทนายความเข้าไปดำเนินการในศาล พร้อมยืนยัน สภาทนายความฯ มีความเข้มงวดในการออกใบอนุญาตทนายความอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของบุคคลอื่น

สำหรับเรื่องราวดังกล่าว เรียกได้ว่าเป็นที่ฮือฮาในโลกออนไลน์ต่างเรียกขานพ่อค้าไก่หมุนที่ปลอมเป็นทนายว่า แฟรงก์ อบาเนล เมืองไทย ซึ่งอิงจากนักต้มตุ๋นที่ปลอมตัวเองเป็นกัปตันขับเครื่องบิน ทนายความ แพทย์ ทั้งที่ไม่ได้มีความรู้ความสามารถและใช้กลโกลหลอกเช็คจนโด่งดัง ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง Catch me if you can ด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News