เกาะติด ‘พายุไต้ฝุ่นโนรู’ ทำหลายจังหวัดทุกภาคฝนตกหนัก อุตุฯ ชี้เข้าไทยเย็น 29 ก.ย.นี้

เกาะติดพายุไต้ฝุ่นโนรู เข้าไทยที่จังหวัดอุบลราชธานีและอำนาจเจริญ วันพฤหัสบดีที่ 29 ก.ย.นี้ ทำหลายจังหวัดทุกภาคฝนตกหนัก

ทางด้านสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้า เผยภาพ พายุไต้ฝุ่นโนรู จากดาวเทียมฮิมาวาริ 8 ของญี่ปุ่นวันนี้ จะเห็นว่าไต้ฝุ่นโนรูยังอยู่ที่ทะเลจีนใต้ตอนกลาง มุ่งหน้าเคลื่อนไปยังประเทศเวียดนาม จากภาพดาวเทียม ความเร็วลมของพายุไม่นิ่ง จะขึ้นๆ ลงๆ แต่จะเข้าไทยแน่นอน ทางจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ข้อมูลศูนย์อุตุนิยมวิทยาชำนาญพิเศษ ประจำภูมิภาค ที่โตเกียว ญี่ปุ่น ระบุ พายุโนรูจะเข้าไทย ตี 1 วันที่ 29 กันยายน ส่วนข้อมูลจากศูนย์พยากรณ์อากาศยุโรปกลาง ระบุว่า โนรูจะเข้าไทย ตี 4 ของเช้าวันที่ 29 กันยายน

ขณะที่ข้อมูลล่าสุด จากกรมอุตุนิยมวิทยา “พายุไต้ฝุ่นโนรู” จะเคลื่อนขึ้นฝั่งที่เมือง ดานัง ของเวียดนาม เช้าวันที่ 28 กันยายน และอ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อน เคลื่อนผ่าน สปป.ลาว และเข้าสู่ด้านตะวันออกของภาคอีสาน อุบลราชธานีและอำนาจเจริญ ช่วงเย็นของวันที่ 29 กันยายน และอ่อนกำลังเป็นพายุดีเปรสชั่นและหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ

ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ได้ไลฟ์สด ที่ศูนย์อำนวยการติดตามพายุไต้ฝุ่นโนรู กทม. ห่วงทิศทางลม พายุโนรู จากภาพจำลองกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า หากพายุเคลื่อนตัวผ่านไปแล้ว ส่วนหน้าของลมจะหมุนในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา ปะทะเทือกเขาตะนาวศรี พัดเอาความชื้นจากอันดามันกลับขึ้นมา ดังนั้น แม้พายุจะผ่านไปแล้ว หลังวันที่ 1 ตุลาคม ก็อาจมีฝนต่อเนื่องได้อีก

ขณะที่การประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ติดตามสถานการณ์ และเตรียมความพร้อมรับมือ กับพายุไต้ฝุ่นโนรู ที่จะส่งผลให้ไทยมีฝนตกหนัก และเกิดปัญหาอุทกภัยตามมา

โดยพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เตรียมลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ด้วยตัวเองในวันพรุ่งนี้ เพื่อติดตามสถานการณ์ หลังข้อมูล คาดการณ์ พายุไต้ฝุ่นโนรู จะอ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อน เคลื่อนผ่าน สปป.ลาว เข้าสู่ตอนบนของ จ.อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ ในช่วงเย็นวันที่ 29 ก.ย. นี้

ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งกำชับหน่วยงานของกระทรวงสแตนด์บาย กำลังพลให้ความช่วยเหลือประชาชนหากมีสถานการณ์ฉุกเฉิน โดย หากพบอุทยานใดสุ่มเสี่ยงอันตรายก็ให้สั่งปิดได้ทันที เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว

นอกจากนี้ทางกระทรวง พร้อมสนับสนุนภารกิจป้องกันของ กทม. อย่างเต็มที่ด้วย หาก ผู้ว่าฯ กทม. ต้องการเครื่องมือ อุปกรณ์ โดยขณะนี้ ได้มีคณะทำงานประสาน ระหว่าง กทม. กับ กระทรวงทรัพยฯ แล้ว

นอกจากนี้อิทธิพลจาก “พายุโนรู” ยังส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ต่างจังหวัด โดยเฉพาะทางภาคอีสาน เช่นที่ อุบลราชธานี แม่น้ำมูลไหลทะลัก เข้าท่วมพื้นที่เขตเศรษฐกิจ และถนนหลายสาย รวมถึงบ้านเรือนประชาชน ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพหนีน้ำ มาพักอาศัยอยู่ในเต้นท์ศูนย์พักพิงชั่วคราว บริเวณใต้สะพานเสรีประชาธิปไตย

นางดอกจันทร์ หัดทะมา อายุ 49 ปี เล่าว่า ตนและคนในครอบครัวเพิ่งอพยพหนีน้ำ มาพักในศูนย์พักพิงแห่งนี้ได้ 3 คืน วันนี้ระดับน้ำที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องเก็บข้าวของอพยพหนีน้ำเป็นรอบที่ 2 โดยเทศบาลฯ จัดให้ไปอยู่บนถนนหน้าบริษัทนครชัยแอร์

สำหรับแม่น้ำมูล ขณะนี้พบสูงขึ้นเฉลี่ยวันละ 10-14 เซนติเมตร หรือ 2 ชั่วโมงต่อ 1 เซนติเมตร และยังมีแนวโน้มจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ส่วนที่ ขอนแก่น บริเวณโรงเรียนการศึกษาคนตาบอด บ้านคำไฮ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง มีน้ำท่วมสูงตั้งแต่เมื่อวาน และเช้านี้พบปริมาณน้ำท่วมสูงประมาณ 15 ซม. เนื่องจากน้ำไม่มีที่ระบายออก ทำให้ขณะนี้น้ำในบึง เต็มจนล้นพิกัดออกมาท่วมถนน ทางเจ้าหน้าที่ต้องนำเรือท้องแบน และรถบรรทุก มาคอยบริการประชาชนที่ต้องการเดินทางเข้าออกหมู่บ้าน และขนของมีค่าออกไปไว้ในที่ปลอดภัย

ขณะที่ ชัยภูมิ มี 5 อำเภอ ที่น่าเป็นห่วง คืออำเภอเทพสถิต,บ้านเขว้า,จัตุรัส,คอนสาร,และอำเภอเมือง โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจอำเภอเมือง ขณะนี้ยังมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นายกเทศมนตรีฯ มีคำสั่งให้ปิดประตูน้ำทุกบานรอบเขตเทศบาลฯ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำจากด้านนอก ไหลย้อนกลับเข้าไปในท่อระบายน้ำเสีย พร้อมทั้งสั่งให้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เพิ่มเข้ามาเร่งสูบน้ำที่ขังอยู่ในท่อระบายน้ำ.