ใต้น้ำป่าทะลัก หลังฝนตกหนัก ปิดเส้นทางจราจร ชาวบ้านเดือดร้อนหลายพื้นที่

เมื่อวานนี้  ( 25 ม.ค.) หลายพื้นที่ในภาคใต้ เกิดฝนตกหนักหลายวันติดต่อกัน ส่งผลให้น้ำท่วมขัง น้ำป่าไหลหลาก ปิดเส้นทางจราจร ชาวบ้านเดือดร้อนในหลายพื้นที่

จ.นราธิวาส ฝนตกลงมาติดต่อกันเป็นเวลา 4 วัน ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายบุรีเพิ่มสูงขึ้น ล่าสุดระดับน้ำได้เข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ อย่าง ต.มาโมง และ ต.สุคิริน โดยมีโรงเรียนนิคมพัฒนา 6 โรงเรียนนิคมพัฒนา 7 และโรงเรียนบ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 12 ได้รับผลกระทบจากน้ำที่ไหลเข้าท่วมภายในบริเวณโรงเรียน และมีดินสไลด์ในบางพื้นที่  

คาดว่าหากฝนไม่ตกหนักลงมาซ้ำอีกระลอกในช่วง 1-2 วันนี้ สถานการณ์น้ำท่วมขังพื้นที่ต่างๆ ก็จะค่อยๆ ไหลระบายลงสู่แม่น้ำสายหลัก โดยทางนายธีรศักดิ์ สังขโชจิ นายอำเภอสุคิริน ได้มีการจัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง รวมทั้งทหารและภาคประชาชน เตรียมความพร้อมเข้าอพยพชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบได้ทันท่วงที

จ.ตรัง น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดไหลหลากลงน้ำตกโตนใหญ่ และน้ำตกกะช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณเทือกเขาบรรทัด ในตำบลช่อง อ.นาโยงรวม 5 หมู่บ้านได้แก่ หมู่ที่ 1,3,4,6 และ 7 ประมาณ 50 หลังคาเรือน ต้องหนีตายกันจ้าละหวั่น โดยได้เร่งขนย้ายผู้ป่วยติดเตียงและสิ่งของเท่าที่จำเป็นออกจากบ้าน หลังในพื้นที่ยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งขณะเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก มีนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 2 จากโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดกะพังสุรินทร์) อ.เมืองตรัง เข้าค่ายพักแรมลูกเสือและเนตรนารีอยู่ที่น้ำตกกะช่องประมาณ 280 คน ต้องสั่งยุติและอพยพกลับบ้าน หวั่นเกิดความไม่ปลอดภัย ซึ่งคณะครูได้นำนักเรียนทุกคนเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว

ชาวบ้านส่วนใหญ่ เปิดเผยว่า น้ำท่วมครั้งนี้ไม่มีใครตั้งตัวได้ทัน เพราะน้ำมาเร็วกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้ในพื้นที่ก็ไม่มีฝนตกลงมา แต่ตกอยู่บนภูเขา ชาวบ้านจึงไม่คิดว่าจะเกิดน้ำป่าไหลหลากขึ้นมาได้ ทำให้ข้าวของเสียหายไปจำนวนมาก

จ.พัทลุง จากที่ฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอแถบภูเขาบรรทัด และตกหนักบนภูเขาบรรทัด คืออำเภอกงหรา และอำเภอศรนครินทร์ ทำให้เกิดน้ำสะสมบนภูเขาจำนวนมาก ทำให้เกิดน้ำป่าไหลทะลักลงจากภูเขาบรรทัดอย่างรุนแรง ลงมาตามน้ำตกต่างๆ และได้ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ทางเข้าหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว

มวลน้ำที่ไหลหลากลงมาอย่างรุนแรงนั้นทำให้คอสะพานเชื่อมระหว่างหมู่ที่ 2 กับหมู่ที่ 4 ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา ขาดเสียหายทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้ นอกจากนั้นน้ำป่าไหลหลากลงจากภูเขาบรนทัดจำนวนหลายจุด ได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่ตำบลคลองเฉลิม ตำบลชะรัด และตำบลคลองทรายขาว เกือบทุกหมู่บ้าน อำเภอกงหรา ถนนทางเข้าหมู่บ้านบางหมู่บ้านรถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถผ่านได้  

ส่วนในพื้นที่ ต.ชะรัด อ.กงหรา จ.พัทลุง ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำจาก ต.คลองทรายขาว และ ต.กงหรา ที่ติดกับเทือกเขาบรรทัด มวลน้ำที่ไหลหลากผ่าน 2 ตำบลดังกล่าว ได้ไหลลงมาหลากท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ของ ต.ชะรัด โดยระดับน้ำสูง 1 เมตร ถึง 1.40 ซม. โดยเฉพาะบ้านหูเล่ ต.ชะรัด ชาวบ้านหลายครอบครัวต้องเร่งอพยพสิ่งของไว้ที่สูงเป็นการด่วน

ส่วนที่ในพื้นที่ อ.ตะโหมด บริเวณวัดตะโหมดน้ำท่วมวัดและโรงเรียน รวมทั้งถนนทางเข้าหมู่บ้าน บางหมู่บ้านรถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถผ่านได้ เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือประชาชนในหมู่บ้านดังกล่าว ได้อพยพสิ่งของขึ้นที่สูงหรือนำออกมาจากบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมฉับพลัน

นอกจากนี้ในพื้นที่บ้านขาม หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 7 ต.ลำสินธุ์ อำเภอศรีนครินทร์ ระดับน้ำสูงเกือบ 1 เมตร ฟาร์มหมูของนายรัต คงเกลี้ยง ที่อยู่บริเวณป่าสวนยางหลังหมู่บ้าน ซึ่งมีหมูขุนพร้อมที่จะขายอยู่ภายในฟาร์มจำนวน 150 ตัว แต่ไม่สามารถขนย้ายได้ทันเนื่องจากน้ำป่าได้ไหลหลากมาอย่างรวดเร็ว ถูกน้ำท่วมหมูจมน้ำตายเป็นจำนวน 50 ตัว

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/3XBDn4P8nNM