ลุ้นราคาดีเซล หลังหมดมาตรการ 30 ก.ย.นี้ กบน.พิจารณา อิงตลาดโลก-ใช้หนี้กองทุนน้ำมันฯ

นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยถึงแนวโน้มราคาน้ำมันดีเซล ว่า มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา ได้เห็นชอบมาตรการบริหารราคาน้ำมันดีเซลผ่านกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ตั้งแต่ตุลาคม-ธันวาคม 2565 โดยรัฐได้มอบให้คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) บริหารจัดการราคาขายปลีกดีเซล ผ่านกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในระดับที่เหมาะสม


ดังนั้นระดับราคาขายปลีกดีเซลที่ปัจจุบันอยู่ที่ไม่เกิน 35 บาทต่อลิตร จะมีการเปลี่ยนแปลงสูงกว่า 35 บาทต่อลิตรหรือไม่ ขึ้นอยู่กับราคาตลาดโลก ณ ขณะนั้นเป็นสำคัญ หลังจากก่อนหน้านี้ ครม.มีมติกำหนดแนวทางบริหารราคาดีเซล หากเกินเพดาน 35 บาทต่อลิตร ให้กองทุนน้ำมันฯอุดหนุนราคาดีเซลครึ่งหนึ่ง และประชาชนรับภาระครึ่งหนึ่ง และมาตรการนี้สิ้นสุดลงวันที่ 30 กันยายน 2565


"ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 กบน.จะเป็นผู้พิจารณาบริหารจัดการเป็นสำคัญ โดยคำนึงถึงราคาตลาดโลก เงินที่อุดหนุนดีเซลและฐานะกองทุนน้ำมันฯที่ปัจจุบันยังคงติดลบกว่า 1.2 แสนล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบกว่า 8 หมื่นล้านบาท บัญชีแอลพีจีติดลบกว่า 4 หมื่นล้านบาท" นายวิศักดิ์ กล่าว


ด้าน นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาตร์ สกนช. กล่าวว่า ราคาดีเซลตลาดโลกปรับตัวลดลง ส่งผลให้กองทุนฯเรียกเก็บเข้า 1.13 บาทต่อลิตรมีผลตั้งแต่ 17 กันยายนที่ผ่านมา จากเดิมอุดหนุน 1.29 บาทต่อลิตร กองทุนน้ำมันฯ จึงมีเงินเข้าประเภทน้ำมันประมาณวันละ 71.67 ล้านบาท ส่วนก๊าซแอลพีจีมีเงินไหลออกประมาณวันละ 27.82 ล้านบาท ทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับสุทธิประมาณวันละ 43.85 ล้านบาทต่อวัน อย่างไรก็ตามสัปดาห์นี้ กบน.ยังคงมีการพิจารณาทบทวนราคาขายปลีกดีเซลเช่นเดิม โดยจะกำหนดวันอีกครั้ง ส่วนจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไรอยู่ที่ตลาดโลกเป็นสำคัญ


"แม้ดีเซลจะพลิกกลับมาเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ แต่อย่าลืมว่าฐานะยังติดหนี้ หากดีเซลตลาดโลกลงต่อ ระยะแรกกบน.คงจะเน้นเก็บเข้ากองทุนฯเป็นหลักก่อน ยกเว้นกรณีลงแรง ๆ อาจจะลดราคาขายปลีกให้ประชาชนได้บ้าง แต่หากขึ้นสูงก็ต้องปรับตาม จึงตอบไม่ได้ถึงว่าที่สุดแล้วดีเซลจะเกิน 35 บาทต่อลิตรหรือไม่ อยู่ที่ราคาตลาดโลกเป็นสำคัญ" นายพรกชัย กล่าว


นายพรชัย กล่าวอีกว่า ปกติช่วงปลายปีราคาพลังงานจะสูง เพราะเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศฝั่งตะวันตกที่มีความต้องการพลังงานทำความร้อน จึงประมาณการว่าสิ้นปีกองทุนน้ำมันฯ อาจจะติดลบระดับ 1.5 แสนล้านบาท จึงเป็นที่มาของ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. …. และการกู้ยืมเงิน ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงวงเงินไม่เกิน 1.5 แสนล้านบาท


ความคืบหน้าในการกู้เงินล็อตแรก 2 หมื่นล้านบาท ต้องรอร่าง พ.ร.ก.ดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนพิจารณาของกฤษฎีกา คาดว่าจะเสร็จภายในสิ้นเดือนกันยายน เบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มกู้เงินได้ภายในเดือนพฤศจิกายน


สำหรับมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 9 กันยายน ที่กำหนดขยายระยะเวลาดำเนินการลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพออกไป 2 ปี จากเดิมครบกำหนดวันที่ 24 กันยายน 2565 เป็นวันที่ 24 กันยายน 2567 เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมเชื้อเพลิงเป็นน้ำมันพื้นฐานในอนาคต จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี รับทราบในสัปดาห์หน้าอีกครั้ง

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/w8eP4YvoYUs