อาชญากรรม

คลั่งไม่เลิก! ‘ไอ้ต้อย’ อาละวาดทำร้ายผู้ต้องขัง ตร.จับแยกขังเดี่ยว ครอบครัวเด็กวอนประหารชีวิต

โดย JitrarutP

7 ก.ย. 2565

116 views

ครอบครัวเด็ก ม.6 วอนโทษประหารไอ้ต้อย คลั่งยายิง 3 ศพ ชี้คนตายเป็นอนาคตของชาติ เป็นนักกีฬาฝีมือดี ด้านไอ้ต้อยยังคลั่ง ถูกจับยังทำร้ายผู้ต้องขังด้วยกันจนต้องแยกขังเดี่ยว


จากกรณีที่เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 6 ก.ย. 65 นายธีรศักดิ์ หรือ ต้อย อายุ 42 ปี ขับรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูสีดำ พุ่งชนมอเตอร์ไซค์ของเด็ก ม.6 ที่ขี่ซ้อน 3 กันมา จนทั้ง 3 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 2 คน กระเด็นตกลงไปข้างทาง จากนั้นลงจากรถไล่ยิงเด็กที่นอนบาดเจ็บทั้ง 3 คน เหตุเกิดบนถนนสายเขาพนม-ทุ่งใหญ่ อ.เขาพนม จ.กระบี่


เหตุการณ์นี้ทำให้นายนนทภัทร หรือ คิมหันต์ อายุ 18 ปี นางสาวภัณธิรา หรือ แพร อายุ 18 ปี และนางสาวณัชนิชา หรือ น้ำฝน อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนประจำอำเภอเขาพนม เสียชีวิต ส่วนมอเตอร์ไซค์ที่ขี่มาก็ถูกไฟไหม้วอดทั้งคันเหลือแต่โครง


ต่อมาตำรวจนำกำลังพร้อมหน่วยสวาทกว่า 20 คน ไปล้อมจับนายต้อยที่บ้านซึ่งเป็นร้านเปลี่ยนยางและล้อแมกซ์รถยนต์ โดยพบรถบีเอ็มดับเบิ้ลยู สีดำ รุ่น 525 ไอ จอดอยู่ในโรงจอดรถ สภาพด้านหน้ารถพังเสียหาย ที่กระจกหน้าฝั่งคนขับ มีรอยแตกจากการกระแทก


จากนั้นคุมตัวนายต้อยไปสอบปากคำที่โรงพัก นายต้อยยังให้การวกวน ตอนแรกยอมรับว่า ก่อนเกิดเหตุเสพยาบ้ามา 2 เม็ด จากนั้นได้ขับรถออกจากบ้านของภรรยาที่ ต.เขาดิน เพื่อกลับบ้านที่ ต.เขาพนม ระหว่างนั้นรู้สึกเหมือนมีคนตามฆ่า พอเห็นมอเตอร์ไซค์วิ่งสวนมา จึงขับชนแล้วจอดรถ ถือปืนลูกซองลงไปยิงใส่กลุ่มคนตาย ซึ่งไม่ได้รู้จักกันมาก่อน จากนั้นก็เดินขึ้นรถขับกลับบ้าน โดยไม่ได้จุดไฟเผามอเตอร์ไซค์ แต่ไฟลุกติดเองขณะที่ชนกัน


พอถามไปถามมา ก็บอกว่า จำไม่ได้ว่าทำอะไรไป เพราะเมายาเสพติด เสพไป 10 เม็ด ตั้งแต่ก่อนคืนเกิดเหตุ จนไม่ได้หลับไม่ได้นอน เรื่องที่ยิงน้องจำไม่ค่อยได้ ตนเองเสียใจและอยากขอโทษ


เบื้องต้น ตำรวจแจ้ง 5 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืน พกพาอาวุธปืน ไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ยิงปืนในที่สาธารณะ และเสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) จากนั้นนำตัวเข้าห้องขัง รอบสอบสวนเพิ่ม


แต่ในช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา นายต้อยเกิดคลุ้มคลั่งอาละวาดในห้องขัง แล้วทำร้ายผู้ต้องขังคนอื่น ทั้งล็อกคอ ทั้งจับหัวฟาดกับพื้น จนตำรวจต้องเข้าไปช่วยห้าม และจับนายต้อยแยกไปขังเดี่ยวอีกห้อง

ขณะเดียวกันชุดสืบสวนจังหวัด ร่วมกับ ปปส.เข้าตรวจค้นบ้านหญิงที่ถูกซัดทอดว่าขายยาบ้าให้ แต่ไม่พบยาบ้า คาดว่า น่าจะนำไปหลบซ่อนไว้แล้ว แต่หญิงที่ถูกซัดทอด มีประวัติเพิ่งถูกจับคดียาบ้าเมื่อไม่กี่วันก่อน อยู่ระหว่างการประกันตัว จึงเชิญตัวมาสอบสวนอย่างละเอียดที่ สภ.เขาพนม


ส่วนบรรยากาศที่ สภ.เขาพนม เช้าวันนี้ ตำรวจเตรียมสอบปากคำนายต้อยเพิ่มเติมในช่วงเที่ยง และคงไม่นำตัวไปชี้จุดที่เกิดเหตุ หรือทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ต้องหา จากนั้นขออนุมัติศาลกระบี่ฝากขังในวันพรุ่งนี้ พร้อมคัดค้านการประกันตัว


ขณะที่สื่อออนไลน์ มีการเผยแพร่ภาพนิ่งที่บ้านของนายต้อย ระบุว่า ไอ้คุณต้อย เมายาเพี้ยน ใช้ปืน .38 และปืนลูกซองยิงประตูบ้านตัวเองพรุนทั้งบาน ซึ่งเป็นวีรกรรมที่นายต้อยทำไว้ ก่อนไปก่อเหตุยิงเด็ก 3 ศพ และยังเอาสีสเปร์ยพ่นไว้ที่ประตูหน้าบ้าน ว่า “ขาย มีปัญหาภายในครอบครัว” ทั้งที่จริง ๆ แล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่นายต้อยหลอน และคิดระแวงคนในครอบครัวไปเอง


ด้านผู้สูญเสีย บรรยากาศที่วัดห้วยเสียด อำเภอเขาพนม สถานที่บำเพ็ญกุศลศพนางสาวณัชนิชา เป็นไปอย่างโศกเศร้า มีญาติ ๆ และชาวบ้านจำนวนมาก ต่างพากันร่ำไห้ ทำใจไม่ได้กับความสูญเสียที่เกิดขึ้น โดยญาติ ๆ ได้นำถ้วย และเหรียญรางวัลจากการแข่งขันเปตองของน้องน้ำฝน มาตั้งไว้ที่งานศพด้วย


พ่อน้องน้ำฝน กล่าวว่า เรื่องคดีความ ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ตนมองว่าการกระทำดังกล่าวโหดร้ายมาก เกินความเป็นคนไปแล้ว ส่วนปัญหายาเสพติด ช่วงนี้ถือว่าระบาดหนักมาก อยากให้ภาครัฐปราบปรามอย่างจริงจัง เพราะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่ไม่เคยปราบปรามได้สำเร็จ


ด้านแม่น้องน้ำฝน กล่าวทั้งน้ำตาว่า เสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อน ลูกเป็นนักกีฬาเปตองของโรงเรียน เพิ่งไปแข่งชนะระดับภาคที่ภูเก็ตเมื่อเดือนสิงหาคม กำลังจะไปแข่งระดับประเทศที่เชียงใหม่ในเดือนพฤศจิกายน ลูกกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยแล้วด้วย แต่ต้องมาเสียชีวิต อยากให้ผู้ก่อเหตุได้รับโทษถึงขั้นประหารชีวิตไปเลย ส่วนตัวนั้นรู้จักกับผู้ก่อเหตุ เพราะเป็นคนในพื้นที่และรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ลูกสาวไม่ได้รู้จักกับผู้ก่อเหตุ


ด้านโดยชมรมเปตองของโรงเรียนได้โพสต์ไว้อาลัยให้น้อง ขอให้น้องไปเป็นนางฟ้านักเปตองบนสวรรค์นะลูก  เช่นเดียวกับ เพจเปตองปักษ์ใต้ ก็โพสต์อาลัยว่า รู้จักน้องน้ำฝนเพราะรุ่นพี่ที่อบรมโค้ชด้วยกันเป็นโค้ชของน้อง เคยคุยกับน้อง ยังถามว่าน้องว่า จบ ม.6 ตั้งใจไปเรียนต่อที่ไหน น้องตั้งเป้าว่า ถ้าไม่ ม.สงขลานครินทร์ ก็ ม.ทักษิณ เพราะฝีมือน้อง ถือเป็นนักเปตองหญิงเบอร์ต้นของจังหวัดกระบี่ ขอให้น้องไปสู่ภพภูมิที่ดี ไปเป็นนางฟ้านักเปตองอยู่บนสวรรค์ เราชาวเปตอง ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวน้องด้วยนะครับ


ส่วนบรรยากาศที่วัดถ้ำโกบ สถานที่จัดงานศพน้องคิมหันต์ ก็โศกเศร้าไม่แพ้กัน นางสุดา อายุ 65 ปี ยายของน้องคิมหันต์ กล่าวว่า ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นความสูญเสียอย่างหนัก ตนเลี้ยงน้องคิมมาตั้งแต่เกิด เพราะแม่ของน้องป่วยเป็นโรคโลหิตจางต้องรักษาตัวตลอด ส่วนพ่อก็แยกทางกันไป


หลานเป็นนักกีฬาฟุตซอลระดับภาค ตกเย็นต้องซ้อมกีฬาทุกวัน มีความฝันอยากเป็นครูพละ และอยากเป็นตำรวจ เคยไปเรียนโรงเรียนดาวนายร้อยที่สงขลา เรียนได้ 2 ปี ก่อนย้ายกลับมาบ้าน เพราะแม่ไม่สบายและเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา อยากให้ภาครัฐแก้ปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง เพราะทุกวันนี้หนักหน่วงมาก มีคนคลั่งทุกวัน ส่วนคนที่ฆ่าหลานอยากให้รับประหารสถานเดียว

คุณอาจสนใจ

Related News