สังคม
สุดเศร้า! หนุ่มวอนเอาผิดกระบะซิ่งแหกโค้ง ชนลูก-เมียดับคู่ คนขับเงียบหายไม่รับผิดชอบ
โดย chutikan_o
3 ส.ค. 2565
63 views
สุดเศร้า! หนุ่มวัย 29 ปี ต้องสูญเสียแก้วตาดวงใจพร้อมกันถึง 2 คน เพราะอุบัติเหตุถูกรถกระบะขนคนงานซิ่งแหกโค้งมาชนรถเก๋งที่ขับพาลูกเมียไปตลาด ทำให้ลูกเมียเสียชีวิตคาซากรถ ส่วนคู่กรณีไม่รับผิดชอบ หวังพึ่งตำรวจกลับไร้ความหวัง ต้องร้องสื่อขอความเป็นธรรม
เพจ Social Hunter 2021 แชร์เรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่ง ที่ต้องสูญเสียภรรยาสุดที่รัก และลูกสาววัย 3 ขวบ ที่กำลังน่ารักไปพร้อม ๆ กันจากอุบัติเหตุ ชายผู้สูญเสียได้โพสต์ภาพกำหนดการงานศพ และภาพขณะจูบลาคนที่รักทั้ง 2 คน เป็นครั้งสุดท้าย พร้อมข้อความสุดสะเทือนใจว่า "จูบครั้งสุดท้ายของพ่อ ทุกอย่างมันเย็นชาไปหมด หัวใจพ่อมันจะอยู่ยังไง"
ทีมข่าวสอบถามไปที่เจ้าของโพสต์ นายวีรนันท์ สีมาน อายุ 29 ปี ผู้ที่ต้องสูญเสียเมียและลูกไปพร้อม ๆ กัน เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา วันนั้นตนพาลูกเมียไปหาแม่ที่อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก
ตอนเย็นประมาณ 5 โมงครึ่ง ได้ขับรถเก๋งฮอนด้าแจ๊ส สีดำ พาลูกเมียไปตลาดทั้งใจซื้ออาหารมาทำให้แม่กิน แต่ออกจากบ้านมาเพียงนิดเดียว ก็เจอรถกระบะสีดำ ติดคอกขนคนงานวิ่งสวนมา แล้วแหกโค้งเกือบตกริมทางฝั่งของตน แล้วเขาก็หักหลบ รถจึงมาชนฝั่งที่เมียตนนั่งอุ้มลูกอยู่
รถกระบะอัดเข้าตรงที่เมียนั่งเต็ม ๆ ทำให้ลูกกับเมียเสียชีวิตติดคารถ ส่วนตนเองก็ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ยังชนรถมอเตอร์ไซค์ที่ขี่มาพร้อมกับรถของตน จนได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วย
โดยกล้องวงจรปิดใกล้จุดเกิดเหตุ จะเห็นภาพขณะรถแจ๊สสีดำของตนวิ่งผ่านไปพร้อมกับมอเตอร์ไซค์ 1 คัน หลังพ้นมุมกล้องไปแป๊บเดียว ก็ได้ยินเสียงรถชนกันดังสนั่นหวั่นไหว / จากนั้นชาวบ้านแถวนั้นก็พากันไปดูที่เกิดเหตุ
หลังเกิดเหตุชาวบ้านก็แจ้งตำรวจ สภ.บางระกำ มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยตำรวจได้เรียกชายเสื้อเหลืองที่เป็นคนขับรถกระบะมาสอบถามข้อมูล ชายคนดังกล่าวกลับพูดจาไม่รู้เรื่อง ให้การไม่ตรงกับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แถมยังเดินเซ ๆ คล้ายมึนเมา ทำให้ชาวบ้านที่มาดูที่เกิดเหตุเกิดความไม่พอใจ ตะโกนต่อว่าชายเสื้อเหลือง ที่ตนไม่เข้าใจ คือ ทำไมตำรวจไม่ตรวจแอลกอฮอล์คนขับ
เหตุการณ์เกิดขึ้นมาแล้วหลายวัน แต่ตอนนี้คดีไม่มีความคืบหน้า ตำรวจยังไม่เรียกคนขับรถกระบะมาสอบปากคำ แถมคนขับกระบะก็เงียบหาย ไม่มาแสดงความรับผิดชอบใด ๆ โทรศัพท์ไปหาก็ปิดเครื่องหนี้ / ตนอยากขอความเห็นใจ ที่อยู่ดี ๆ ต้องมาเสียแก้วตาดวงใจไปพร้อมกัน 2 คน น้องข้าวหอมกำลังน่ารัก แต่ตอนนี้ตนไม่เหลืออะไรแล้ว แม้แต่ความเป็นธรรมในตอนนี้
ผู้สื่อข่าวจังหวัดพิษณุโลก ไปตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น พบว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นบนถนนพิษณุโลก-กำแพงเพชร บริเวณโค้งบ้านแหลมเจดีย์ หมู่ 8 อำเภอบางระกำ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 คน บาดเจ็บทั้งหมด 11 คน เป็นคนงานที่มากับรถกระบะ ล่าสุดทราบว่า มีคนงานที่บาดเจ็บเสียชีวิต 2 คน
จากนั้นผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดทองหลาง อำเภอเมืองพิษณุโลก สถานที่จัดงานศพของ 2 แม่ลูก พบกับนางมานิตย์ ส้มจีน อายุ 58 ปี แม่ของ น.ส.จารุพร ผู้เสียชีวิต ที่ยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เปิดเผยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า วันเกิดเหตุลูกเขยพาลูกสาวกับหลานสาว ไปเยี่ยมปู่กับย่าที่อำเภอบางระกำ และขับออกมาซื้อกับข้าวเพื่อไปกินกับครอบครัว แล้วไปเกิดอุบัติเหตุ
ตอนนี้ลูกเขยสภาพจิตใจย่ำแย่ เพราะมีเสียงต่อว่าทางสื่อโซเชียล ว่าทำไมถึงเอาฝั่งลูกเมียเข้าชนแทนตัวเอง ซึ่งเหตุการณ์ขณะนั้นเกิดขึ้นรวดเร็วมาก และเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น สำหรับงานฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้ จะฌาปนกิจหลานสาวก่อน จากนั้นช่วงบ่ายก็จะฌาปนกิจลูกสาวต่อไป อยากจะขอความเป็นธรรมให้กับคนตายด้วย เพราะลูกสาวเป็นเสาหลักของครอบครัว ทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เพราะขณะนี้ทางฝั่งคู่กรณีเองก็ยังไม่ติดต่อมาหรือรับผิดชอบอะไรเลย
ส่วนความคืบหน้าทางคดีวันนี้ ร้อยตำรวจเอก พงษ์ศิริ อำไพพิศ ร้อยเวรเจ้าของคดี ได้เชิญตัว นายอุดร ด้วงพิทักษ์ อายุ 40 ปี ชาวอำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีดำ มาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมชี้ร่องรอยการเฉี่ยวชนโดยประสานตำรวจวิทยาการ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 เข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย
เบื้องต้นนายอุดร บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดเหตุขึ้นตนเองขับรถมาตามปกติ ความเร็วประมาณ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทางฝั่งตนบาดเจ็บสาหัส 8 คน เสียชีวิต 2 คน ส่วนตนเองบาดเจ็บเล็กน้อย ยอมรับว่าดื่มแอลกอฮอล์หลังเลิกงานมานิดหน่อย ตำรวจตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์แล้วได้ 45 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่เกินที่กฎหมายกำหนด ก็อยากขอโทษกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต และรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก อยากจะไปร่วมงานศพแต่ฝั่งครอบครัวคู่กรณีคงโกรธตนอยู่