สังคม
เจ้าหน้าที่ตร. บุกทลายเครือข่ายเงินกู้ออนไลน์“moneydaycredit.com” พบเงินสะพัดกว่า 454 ล.
โดย onjira_n
16 มิ.ย. 2565
1.7K views
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษรวมทั้งสิ้น 61 นาย
ร่วมกันจับกุม
1. นายอนิวัฒน์(สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 1133/2565 ลงวันที่ 13 มิ.ย. 2565
2. นายอลงกรณ์(สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 1134/2565 ลงวันที่ 13 มิ.ย. 2565 3. นายธนพล(สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 1135/2565 ลงวันที่ 13 มิ.ย. 2565
4. นายนัฐวุฐ(สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 1136/2565 ลงวันที่ 13 มิ.ย. 2565 5. นายพงศกร(สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 1137/2565 ลงวันที่ 13 มิ.ย. 2565
6. นายจิรพันธ์(สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 1137/2565 ลงวันที่ 13 มิ.ย. 2565 7. นายอดิเทพ(สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 1139/2565 ลงวันที่ 13 มิ.ย. 2565
8. นายสมโชค(สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 1140/2565 ลงวันที่ 13 มิ.ย. 2565
ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียก
ดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด”
พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2564 มีผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. กรณีที่ได้ทำการกู้ยืมเงินจากเว็บไซต์ www.moneydaycredit.com และชำระค่าดอกเบี้ยที่เกินกว่ากฎหมายกำหนด
จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มคนร้ายได้ เปิดเว็บไซต์ www.moneydaycredit.com เพื่อชักชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปกู้เงิน โดยเน้นเป้าหมายไปที่กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ถูกกฎหมายได้ โดยขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อของเว็บไซต์ดังกล่าวไม่จำเป็นต้องใช้หลักฐานยืนยันตัวตน และไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน
ในกรณีที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจฯ กลุ่มคนร้ายจะไปสำรวจกิจการเพื่อประกอบการพิจารณา เมื่ออนุมัติสินเชื่อแล้วกลุ่มคนร้ายจะโอนเงินไปให้ผู้กู้ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้งไปยังบัญชีธนาคารของลูกหนี้ โดยกลุ่มคนร้ายจะหักยอดเงินกู้เป็นดอกเบี้ยงวดแรกไว้ก่อน หากลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ ก็จะใช้วิธีการข่มขู่เพื่อให้ชำระหนี้
โดยเครือข่ายดังกล่าวมีพฤติการณ์เรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่สูงมาก ผู้กู้จะต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ
1.5 ต่อวัน หรือร้อยละ 45 ต่อเดือน คิดเป็นร้อยละ 547.5 ต่อปี ถือเป็นการคิดดอกเบี้ยที่ผิดกฎหมาย
เอารัดเอาเปรียบ ซ้ำเติมประชาชน และผู้ประกอบธุรกิจฯ ในช่วงวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด 19
จนกระทั่งในวันที่ 15 มิ.ย. 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ร่วมกับกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ ได้สนธิกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านพัก และ สำนักงานของกลุ่มคนร้ายซึ่งอยู่ในพื้นที่รวม 5 จังหวัด ได้แก่ จ.จันทบุรี จ.ปทุมธานี จ.ขอนแก่น จ.นครราชสีมา และ กรุงเทพมหานคร
จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายได้ 8 ราย นอกจากนี้ยังได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยที่น่าเชื่อว่าได้ร่วมกระทำความผิดมาทำการซักถามปากคำ และรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ร่วมขบวนการได้อีก จำนวน 21 ราย รวมผู้ต้องหา 29 ราย นำส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เตือนภัย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ขอฝากถึงพี่น้องประชาชน อย่าได้ตกเป็นเหยื่อนายทุน
หนี้นอกระบบ เพราะนอกจากจะต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยที่สูงมากแล้ว ยังอาจโดนข่มขู่คุกคาม ซึ่งอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดยในปัจจุบันนี้สถาบันการเงินที่ถูกต้องตามกฎหมายได้เพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินเชื่อ
ที่หลากหลาย และสะดวกมากยิ่งขึ้น หากมีเบาะแสเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้นอกระบบที่เอารัดเอาเปรียบประชาชน สามารถแจ้งเบาะแสมาได้โดยตรงที่ ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับ
หนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปน.ตร.) สายด่วน 1599 เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป
แท็กที่เกี่ยวข้อง แอปปล่อยเงินกู้ออนไลน์ ,รวบแก๊งเงินกู้ออนไลน์ ,ปล่อยเงินกู้ออนไลน์