สาวกู้เงินออนไลน์ หนี้กว่า 2.6 ล้าน จ่ายดอกเบี้ยไม่ไหว ถูกนายทุนข่มขู่-คุกคาม หลังเปิดโปง

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม มอบหมายให้ พ.ต.อ.นิเทศ สุดชารี ผกก.สภ.ปลาปาก พร้อมด้วย พ.ต.ท.ยอดเยี่ยม มงคลมะไฟ สารวัตรสอบสวน เร่งสอบสวนขยายผลเกี่ยวกับคดีกลโกงปล่อยกู้ออนไลน์ กรณีมีสาวลูกหนี้ อายุ 26 ปี ออกมาร้องทุกข์ หลงเชื่อ-ตกเป็นเหยื่อกู้เงินผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ หวังนำเงินมาลงทุน จนกระทั่งมีการรับข้อเสนอจากนายทุนเงินกู้ออนไลน์ ที่ทักแชทมาชักชวน จนยอมกู้เงินจากนายทุนออนไลน์ มาหมุนเวียน สร้างเครดิต จนเกิดปัญหาจ่ายไม่ไหว เนื่องจากถูกหักต้น เป็นดอกเบี้ยล่วงหน้า ประมาณ 40 -50 เปอร์เซ็นต์ ของวงเงินกู้ รวมถึงคิดดอกเบี้ยโหดและค่าปรับล่าช้า ต้องหาทางออกโดยการขอกู้จากนายทุนออนไลน์ รวม 18 แอพพลิเคชั่น มาหมุนเวียน จนเป็นหนี้วงเงิน ทบต้นทบดอก รวมค่าปรับล่าช้า รวมกว่า 2.6 ล้านบาท และต้องชำระเงินต้น ทบดอกเบี้ยและค่าประปรับ ประมาณวันละนับแสนบาท แต่จ่ายไม่ไหว จึงถูกข่มขู่ คุกคามสารพัด ถึงขั้นทักแชทมาขู่ฆ่า หลังมีการออกมาออกมาแจ้งความขอความช่วยเหลือกับทางตำรวจ สภ.ปลาปาก รวมถึงหน่วยงานเกี่ยวข้อง และแฉข้อมูลผ่านสื่อ เพื่อหาทางช่วยเหลือ พร้อมยินยอมชำระหนี้ตามความเป็นจริง และดอกเบี้ยตามกฎหมายกำหนด แต่ทางนายทุนเงินกู้ออนไลน์ ไม่ยินยอม ต้องการที่จะเรียกเก็บดอกเบี้ย รวมถึงค่าปรับสุดโหด

ล่าสุดทาง พนักงานสอบสวน สภ.ปลาปาก ได้เร่งสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน เตรียมเอาผิดนายทุนเงินกู้ออนไลน์ ฐานความผิดปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมาย ข่มขู่คุกคามลูกหนี้ ผิด พ.ร.บ.ทวงหนี้ พร้อมประสานศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก หาเบาะแสสืบสวนเอาผิดนายทุนดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเชื่อว่า ขบวนการดังกล่าวมีนายทุน อยู่ประเทศเพื่อนบ้านทำเป็นขบวนการ เนื่องจากมีข้อมูลเชื่อมโยงจากการติดต่อทางแชทลูกหนี้ และหมายเลขโทรศัพท์ที่โทรจากต่างประเทศ และยังใช้ไลน์อวตาร ทักแชทพูดคุยกับลูกหนี้ ส่วนหลักฐานสำคัญ คือ ชื่อเจ้าของบัญชี ที่โอนเงินเข้าบัญชีลูกหนี้ แต่ต้องตรวจสอบอาจจะเป็นบัญชีม้า อยู่ระหว่างการตรวจสอบหาเบาะแส ทางตำรวจยืนยัน จะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย

ด้าน พ.ต.อ.นิเทศ สุดชารี ผกก.สภ.ปลาปาก เปิดเผยว่า สำหรับคดีดังกล่าว อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล สอบสวนผู้เสียหาย ลูกหนี้เพิ่มเติม ถือว่าเป็นความผิดกลโกงมิจฉาชีพทางสื่อออนไลน์ ที่กำลังเป็นภัยสังคม จะต้องช่วยกันปราบปรามป้องกัน ไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อ หรือหลงเชื่อยืมเงินจากนายทุนเงินกู้ออนไลน์ เบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อมูล รวมถึงสอบสวนผู้เสียหายลูกหนี้ พบว่าเข้าข่ายความผิด กลโกงของมิจฉาชีพทางออนไลน์ โดยลูกหนี้รับเงินไม่เต็มตามจำนวนวงเงินกู้ เพราะถูกหักเป็นดอกเบี้ยล่วงหน้า รวมถึงจะต้องมีการตรวจสอบ เกี่ยวกับการอนุญาตปล่อยเงินกู้ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ในส่วนของการคุกคาม ข่มขู่ ถือว่าเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ทวงหนี้

อย่างไรก็ตามจะต้องมีการสอบสวนโดยละเอียด หากพบว่านายทุนเงินกู้เข้าข่ายความผิด จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ทุกข้อหา ส่วนลูกหนี้ฝากทำความเข้าใจว่า เมื่อมีการตกลงยอมกู้เงิน ถือว่าเป็นลูกหนี้ ที่จะต้องชำระหนี้ รวมถึงดอกเบี้ย ที่เป็นธรรมตามกฎหมาย หากเกินกว่ากฎหมายกำหนดถือว่าผิดกฎหมาย

ทั้งนี้จะต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายในการดำเนินคดี ส่วนนายทุนปล่อยกู้หากกระทำการนอกเหนือกฎหมายกำหนดถือว่ามีความผิด นอกจากนี้ฝากเตือนพี่น้องประชาชนหย่าหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อกลโกงของมิจฉาชีพออนไลน์ ในรูปแบบต่างๆ สำหรับการดูแลช่วยเหลือผู้เสียหาย ลูกหนี้ ทั้งเกี่ยวกับการดำเนินคดีตามกฎหมาย ยังได้มอบหมายให้ ชุดสืบสวน และตำรวจสายตรวจ ลงพื้นที่ สอดส่องดูแลใกล้ชิด เพื่อป้องกันเหตุอันตราย กับผู้เสียหายหลังถูกข่มขู่คุกคาม