สังคม

ทลายเครือข่ายเงินกู้ออนไลน์ดอกโหด ทวงหนี้คุกคาม พบเงินหมุนเวียนกว่า 450 ล้าน

โดย panwilai_c

16 มิ.ย. 2565

217 views

เมื่อไม่สามารถกู้เงินจากแหล่งสถาบันการเงินของรัฐได้ ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยหลายรายหันไปหาแหล่งเงินกู้ออนไลน์ ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยสูงเกินกฎหมายกำหนด ล่าสุดตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายเครื้อข่ายเงินกู้ออนไลน์ มีเงินหมุนเวียนกว่า 450 ล้านบาท



เป้าหมายเป็นบ้านของแก๊งเงินกู้ในจ.ปทุมธานี แต่เมื่อตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. เรียกให้เปิดประตู ภายในบ้านกลับเงียบ ไม่มีเสียงตอบรับ เจ้าหน้าที่ได้ตะโกนเรียกอยู่นาน กระทั่งได้ยินเสียงสุนัขเห่าอยู่หลังบ้านเสียงดัง



เมื่อตามไปดูพบนายอดิเทพ หนึ่งในผู้ต้องหา กระโดดหนีออกทางหลังบ้าน โดยนายอดิเทพมีประวัติการใช้ปืนและยาเสพติด ตำรวจจึงต้องใช้หน่วยปฎิบัติการพิเสษในการปฎิบัติหน้าที่จับกุม หลังควบคุมตัวมาได้ นายอดิเทพอ้างว่าไม่มีกุญแจเปิดประตูบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องปืนรั้วเข้าไป



หลังเข้าไปหน้าบ้าน จึงเรียกคนในบ้านออกมา พบว่า มีคนภายในบ้านถึง 11 คน เช่าบ้านเดือนละ 2 หมื่นบาท เพื่อปล่อยเงินกู้มา 3เดือนแล้ว ในบ้านยังพบรถยนต์ อีก 3 คัน ที่แก๊งเงินกู้อ้างว่าซื้อต่อมา โดยรถยังเป็นชื่อเจ้าของเดิม



การเข้าจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากลูกหนี้เข้าไปกู้เงินจากเพจกู้เงินออนไลน์ 2 ล้านบาท แต่หลังจากผ่อนไม่ไหวเพราะต้องเสียดอกเบี้ยกว่าหมื่นบาทต่อวัน ได้ถูกคุกคามทวงหนี้ จึงได้ร้องเรียนต่อศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พวง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ และตำรวจสอบสวนกลางโดย ตำรวจ ปอศ.



ได้สืบสวนจนพบว่ากลุ่มนายทุนได้เปิดเว็บไซค์ และส่งลิงค์ไปชักชวน กลุ่มSME รายย่อยที่ขาดสภาพคล่องไม่สามารถกู้เงินจากธนาคารได้ แต่เนื่องจากดอกเบี้ยสูงร้อยละ 1.5 ถึง 2เปอร์เซนต์ต่อวัน หากกู้ 1 ล้านบาท ต้องเสียดอกเบี้ย 2 หมื่นบาทต่อวัน ตำรวจได้ควบคุมตัวมาสอบสวน แต่ละคนบอกว่าทำหน้าที่ส่งลิงค์ชวนคนกู้เงิน แต่ไม่ได้ไปทำร้ายลูกหนี้



พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า ขณะนี้มีเพจเงินกู้เป็นจำนวนมาก และกลุ่มที่มีเงินมาปล่อยกู้จะเชื่อมโยงกับนำเงินผิดกฎหมายมาฟอกเงิน



การทลายเครือข่ายเงินกู้ออนไลน์ พบเงินใรระบบกว่า 454 ล้านบาท ผู้ต้องหา 29 คน โดยยังแบ่งเป็นสายงาน รวมแล้ว 5 จังหวัด ขณะนี้มีการชักชวนให้กู้เงินออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งมีทั้งให้กู้จริงที่ดอกเบี้ยสูง และที่ต้องระวังคือการให้นำรถไปจำนำ และนำรถไปขายต่อ ซึ่งตำรวจสอบสวนกลางจึงขอเตือนประชาชน



หากตกเป็นเหยื่อให้แจ้งเบาะแสได้ที่ศูนย์ป้องกันปราบปรามกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ หรือสายด่วน 1599

คุณอาจสนใจ

Related News