เลือกตั้งและการเมือง

“ชัชชาติ” ลุยต่อ สำรวจปัญหารถติดแยกลำสาสี

โดย paranee_s

25 พ.ค. 2565

437 views

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยว่าที่ ส.ก. เขตบางกะปิ คันนายาว และสะพานสูง ลงพื้นที่ดูปัญหาการก่อสร้างรถไฟฟ้า และการจราจรที่ติดขัด บริเวณแยกลำสาลี เขตบางกะปิ ซึ่งมีการก่อสร้างพร้อมกัน 3 โครงการ คือ รถไฟสายสีส้ม รามคำแหง-สุขาภิบาล, รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ศรีนครินทร์ -ลาดพร้าว และสะพานข้ามแยกลาดพร้าวไปสุขาภิบาล ซึ่งการก่อสร้างพร้อมกันทั้ง 3 โครงการ ประกอบกับการก่อสร้างที่ล่าช้าทำให้การจราจรติดขัด


โดยในส่วน กทม.รับผิดชอบ สะพานข้ามแยกจากลาดพร้าวไปสุขาภิบาล จึงต้องเร่งรัดการก่อสร้างที่ล่าช้าไปมาก ซึ่งสามารถดำเนินการได้เพียง 5% เท่านั้น ขณะเดียวกันต้องเร่งขอคืนพื้นที่จราจร จากผู้รับเหมาในการก่อสร้างรถไฟฟ้า เพราะบางจุด สามารถคืนพื้นที่ได้ แต่ผู้รับเหมายังใช้เป็นพื้นที่เพื่อเก็บอุปกรณ์และอื่น ๆ ซึ่งผู้รับเหมาในพื้นที่รับปากจะคืนพื้นที่จราจรภายในวันที่ 25 มิ.ย.นี้ หรือประมาณหนึ่งเดือนนับจากนี้ พร้อมให้ทีมงานบันทึกเสียงของผู้รับเหมาเอาไว้ เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าจะดำเนินการตามนั้นจริง


นายชัชชาติ ระบุว่า ปัญหาการจราจรเป็นปัญหาสำคัญที่จะต้องเร่งรัดดูแลเป็นลำดับต้น ๆ และเตรียมที่จะพูดคุยกับทั้ง กรมการขนส่งทางบก , กสทช. กรณีนำสายสื่อสารลงดิน , รฟม.กรณีการก่อสร้างรถไฟฟ้า และ องค์การต่อต้านคอร์รัปชัน กรณีการทุจริตต่าง ๆ โดยจะเข้าไปพูดคุยทันที ที่ได้รับการรับรองผลการเลือกตั้ง


ส่วนกรณีที่นายกฯ ระบุว่า หากนโยบาย 214 ข้อทำได้จริง อำนาจก็ยิ่งกว่านายกเสียอีก นายชัชชาติ ระบุว่า ขอบคุณกำลังใจจากนายกรัฐมนตรี ขอบคุณที่สนใจ น้อมรับทุกคำติชมทุกคำวิจารณ์ ยิ่งทำให้ตนมีแรงกระตุ้นในการทำงานให้ดีที่สุด


ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า หากทำไม่ได้ตามนโยบายคะแนนการเลือกตั้ง ครั้งหน้าอาจจะลดลงเหลือเพียง 200,000 เท่านั้น นายชัชชาติ ระบุว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะพูด ตนน้อมรับทุกความคิดเห็น และยิ่งต้องทำงานให้หนักขึ้น ให้เร็วขึ้น พร้อมมองว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่มีการติเตียนในเชิงสร้างสรรค์ ทุกคนเป็นคนกรุงเทพเหมือนกันสามารถแสดงความคิดเห็นได้


นายชัชชาติ ย้ำว่า การที่กำหนดนโยบายไว้ชัดเจนทั้ง 214 ข้อ เป็นข้อดีที่ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ง่าย เพราะหากพูดแล้วไม่มีอะไรเป็นตัวชี้วัด 4 ปีกรุงเทพฯก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ที่น่าดีใจมาก คือมีบางสำนักงานเขต นำนโยบายบางส่วนไปใช้แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นมิติใหม่ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และเห็นว่าทุกคนเริ่มตื่นตัว ซึ่งบางนโยบายสามารถเริ่มทำได้เลยโดยไม่ต้องรอ เช่น การหาพื้นที่ปลูกต้นไม้ และการแก้ปัญหาหาบเร่แผงลอย เป็นต้น


นายชัชชาติ ระบุด้วยว่า พร้อมน้อมรับการบ้าน ข้าราชการและประชาชน เพราะเป็นการสื่อสารสองทาง นโยบายเปลี่ยนแปลงได้ตามความต้องการของประชาชน เพราะไม่ใช่ศิลาจารึก ซึ่งขอบคุณข้าราชการที่เข้าไปศึกษานโยบาย ยืนยันจะพยายามทำให้ได้มากที่สุด


ส่วนกรณีปัญหาเรื่องป้ายที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เตรียมจะดำเนินการฟ้องร้อง หากยังไม่ดำเนินการกับผู้ที่นำป้ายไปหาเสียงไปใช้ นายชัชชาติ ระบุว่า เป็นสิทธิที่ดำเนินคดีหรือไม่ แต่มั่นใจว่าฝ่ายกฎหมายได้ดูเรื่องข้อกฎหมายโดยละเอียดแล้ว


ทั้งนี้ ระหว่างที่นายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์อยู่ที่แยกลำสาลี มีพนักงานขับรถเมล์ขสมก.สายหนึ่งได้ชะลอพร้อมปรบมือและโบกมือให้กับนายชัชชาติด้วย แต่ระหว่างนั้นนายชัชชาติให้สัมภาษณ์อยู่จึงไม่เห็น


ขณะเดียวกันมีพนักงานของ กทม. ที่ทำงานอยู่บริเวณนั้นได้เข้ามาขอถ่ายรูปให้กำลังใจ ร้องขอให้เพิ่มเงินเดือนและสวัสดิการให้กับพนักงาน รวมถึงสะท้อนปัญหาเรื่องการบรรจุ เนื่องจากทำงานเป็นลูกจ้างมานานนับ10 ปี แต่กลับยังไม่ถูกบรรจุ โดยนายชัชชาติรับปากจะไปดูรายละเอียดในเรื่องนี้


นอกจากนี้ ยังมีแม่ค้าในตลาดบางกะปิมาร้องเรียนให้ช่วยเหลือ กรณีมาเฟียเก็บค่าจอดรถภายในตลาด ส่งผลให้ลูกค้าเดินทางมาจับจ่ายซื้อของน้อยลง หลังยื่นเรื่องให้ผู้ว่าคนก่อน แต่ไม่ได้รับการแก้ไข และเรื่องเงียบหายไป


ทั้งนี้หลังเสร็จภารกิจ นายชัชชาติได้นั่งเรือคลองแสนแสบเดินทางกลับ


คุณอาจสนใจ