“อัจฉริยะ” ยื่นแจ้งความแพทย์นิติเวช ผ่าร่างแตงโม

เมื่อเวลา 10.00 น. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมายื่นหนังสือถึงผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีอาญากับ พ.ต.อ.แพทย์หญิงณปภัช ณัฏฐสุมน แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ผู้ผ่าชันสูตรร่างของแตงโม


นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้มาแจ้งความ กลุ่มแพทย์นิติเวชกับพวก ในกรณีที่เขียนข้อความเท็จลงในรายงานการชันสูตร และส่งต่อไปยังคณะพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อแจ้งข้อกล่าวหากลุ่มผู้ต้องหาบนเรือ ตนยืนยันว่า บาดแผลที่ขาข้างขวาของแตงโม ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ แต่แพทย์นิติเวชลงความเห็นว่าเกิดจากใบพัดเรือ โดยบาดแผลแนวขวางตนไม่ได้ติดใจ แต่บาดแผลแนวยาว ไม่ว่าแพทย์ที่ไหนก็รับไม่ได้ที่ลงความเห็นว่าเกิดจากใบพัดเรือ


อีกทั้งคำให้การของแซนที่บอกว่าแตงโมตกที่ท้ายเรือด้านซ้าย ก็ไม่สามารถจะทำให้เกิดบาดแผลจากใบพัดเรือได้ โดยการจำลองเหตุการณ์ไม่ว่าจะใช้หมู หรือหุ่นผ้า ผลก็ไม่เป็นไปตามคำให้การของแซน


นายอัจฉริยะ ได้โชว์หลักฐานเป็นภาพแชทไลน์ที่ระบุว่า เป็นบุคคลภายนอกคนหนึ่ง พูดคุยกับตำรวจชุดทำคดีนี้ที่ใช้ชื่อไลน์ว่า “วรชาติ/ไอยรา4” ซึ่งไอยรา 4 ได้บอกว่าการจำลองเหตุการณ์ โดยเอาหมูโยนท้ายเรือ และข้างเรือ 10 ครั้ง โดนใบพัดแค่ครั้งเดียว


โดยนายอัจฉริยะ ระบุว่า ไอยรา 4 ไม่เห็นด้วยและอึดอัดกับความพยายามในการสร้างพยานหลักฐานเท็จให้เข้ากันได้กับใบพัดเรือ จึงต้องส่งข้อมูลไปบอกบุคคลภายนอก เพราะไอยรา 4 เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของพลตำรวจตรี ว.แหวน หากขัดคำสั่งอาจกระทบกับตำแหน่งหน้าที่


นายอัจฉริยะ ยังกล่าวถึงการทำงานของตำรวจว่า สิ่งที่ควรทำคือ ทำให้ประชาชนคลายสงสัย แต่กรณีที่อัยการสั่งให้สอบเพิ่ม 20 กว่าประเด็น เมื่อวานนี้ ตำรวจได้แถลงบอกว่าสอบเสร็จแล้ว ซึ่งตนตั้งข้อสังเกตว่าทำไมถึงรีบ และทำเสร็จเร็วขนาดนั้น ทั้งที่ติดวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ด้วย


อีกทั้งการที่เมื่อวานนี้อัยการเรียกแพทย์นิติเวชไปพบ ตนก็สงสัยว่าอัยการใช้อำนาจอะไร ผ่านพนักงานสอบสวนหรือไม่ เรียกมาในฐานะอะไร ซึ่งมองว่ากระบวนการยุติธรรมไม่ถูกต้อง อัยการควรออกหนังสือให้พนักงานสอบสวนเรียกแพทย์มาสอบสวนมากกว่า


และตอนนี้ ตนต้องการให้ตำรวจตอบคำถาม 3 ข้อ ให้ชัดเจนให้ได้ คือ บาดแผลที่ขาข้างขวาเกิดจากอะไร, แตงโมตกท้ายเรือจริงหรือไม่ เพราะไม่มีภาพที่เห็นชัดเจน และแตงโมจับขาแซนจริงหรือไม่ เพราะไม่ปรากฏดีเอ็นเอ ทั้งหมดนี้ตำรวจต้องทำให้สิ้นสงสัย


ส่วนประเด็นเรื่องยาเสียสาว นายอัจฉริยะ บอกว่า ตนไม่ติดใจ เพราะหลังเกิดเหตุ มี 1 คนบนเรือที่ต้องเข้าโรงพยาบาล อาจกินยานี้เพื่อคลายเครียดให้นอนหลับก็ได้ โดยเวลาที่ตนเองนอนไม่หลับ ก็ทานยานี้ทุก 6 ชั่วโมงเหมือนกัน แต่สิ่งที่ติดใจ คือ ทำไม พลตำรวจตรี ว.แหวน ไม่ให้ แซน ตรวจแอลกอฮอล์และสารเสพติด ซึ่งตามกฎหมายระบุไว้ว่า หากบุคคลไม่ยินยอม ให้เชื่อได้ว่ามีแอลกอฮอล์หรือสารเสพติดในร่างกาย


สำหรับประเด็นที่ตนนำหลักฐานออกมาเปิดเผย แล้วถูกตั้งคำถามว่าทำไมไม่นำไปยื่นให้ตำรวจ นายอัจฉริยะ ระบุว่า เป็นเพราะตำรวจภูธรภาค 1 ชุดนี้ เชื่อถือไม่ได้ หากมีคนกลางเข้ามา ตนก็พร้อมมอบหลักฐานให้


ส่วนที่บอกว่าขีดเส้นให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 24 ชั่วโมงหลังแถลงข่าวนั้น ตอนนี้ยังไม่ครบเวลา ตนจึงจะยังไม่แจ้งความ พร้อมยืนยันว่า การที่ตนนำหลักฐานออกมาเปิดเผย ไม่ได้เป็นการดิสเครดิตตำรวจ แต่ตำรวจต้องขอบคุณตนมากกว่าที่ช่วยหาหลักฐานได้ดีกว่า และยืนยันว่าไม่กลัวการฟ้องกลับ หากหลักฐานที่เปิดมีประโยชน์ต่อสังคม แต่ถ้าไม่จริงตนก็พร้อมรับผิดชอบอยู่แล้ว


ประเด็นที่คุณแม่แตงโมให้สัมภาษณ์ว่า เบื่อนายอัจฉริยะ เรื่องนี้นายอัจฉริยะ โต้กลับว่า ถ้าจะเบื่อก็แล้วแต่แม่ ตนไม่ให้ราคา มองว่าแม่เป็นแม่ที่แปลก เบื่อคนที่เข้ามาช่วยลูกตัวเอง ซึ่งตนก็รู้ว่าคุณแม่ทำอะไร สงสัยอะไรบ้าง และมีแชทไลน์ของแม่ด้วย แต่ตนยังให้เกียรติแม่ ไม่อยากเอาออกมาพูด เพราะถ้าคุณแม่มีกุนซือที่ดี ก็คงไม่เป็นแบบนี้