สังคม

สาวลาวรู้แม่ป่วยต้องตัดขารีบกลับบ้าน โดนแท็กซี่บขส.อุบลฯโขก 2.5 พัน

โดย nutda_t

7 พ.ค. 2565

396 views

กรณีหญิงสาวผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความระบุว่า “น้องสาวหนูจะกลับบ้านไปดูแลแม่ที่ผ่าตัดขาที่ สปป.ลาว เมื่อคืนนั่งรถ บขส. หมอชิตไปลงที่อุบลฯ ตอนเช้า พอถึง บขส. อุบลฯ มีผู้ชายกับผู้หญิงบอกว่ารถตู้ไม่มี เดี๋ยวเขาไปส่งตกลงราคาที่ 1,500 จาก บขส.ไปด่านช่องแมค หลังจากนั้นพอขับรถไปเรื่อย ๆ ใช้วาจาข่มขู่จะทำร้ายร่างกายและข่มขู่จะเอาเงินเพิ่มอีก 2,500 แล้วถ้าไม่ให้จะพาไปส่งตำรวจ ใครช่วยเหลือได้บ้างโดนข่มขู่ทำร้ายร่างกาย ไถตังค์โกงเงินค่ะ”


ล่าสุดวันที่ 7 พ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยัง นางภูเวียง อายุ 27 ปี ผู้เสียหายคนดังกล่าว เล่าให้ฟังว่า ตนเป็นชาว สปป.ลาว เข้ามทำงานและเดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพื่อกลับบ้านไปดูแลแม่ที่ป่วยเบาหวานต้องตัดขาอยู่ที่ สปป.ลาว จากนั้นก็มาถึงจังหวัดอุบลราชธานี เวลา 09.00 น. ในวันที่ 3 พ.ค.65 ขณะที่ลงจากรถมีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาถามว่าจะไปไหน ตนจึงตอบไปว่าจะไปด่านช่องเม็ก ผู้ชายก็เข้ามายกกระเป๋าแล้วบอกว่ารถตู้ไม่มีแล้วจะไปส่ง ในระหว่างทางมีการพูดคุยกันทำให้ทั้งคู่ทราบว่าหนังสือเดินทางของตนหมดอายุ จากนั้นเขาอ้างว่าเส้นทางที่จะไปมีด่านตำรวจจะต้องจ่ายค่าผ่านทางให้ตำรวจด่านละ 500 บาท แต่ถ้าตนไปเองอาจจะต้องเสียมากกว่านั้น แต่หากให้คนไทยไปจ่ายจะขอบวกด่านละ 100 บาท เป็น 600 บาทต่อด่าน และขอเรียกเก็บเงินไปก่อน 1,200 บาท


ทั้งนี้ ตนก็ไม่สบายใจที่จะจ่าย แต่ก็โดนชายหญิงที่พามาด่าอย่างรุนแรงและไม่ให้ลงจากรถ และตนก็ไม่ต้องการที่จะมีปัญหาจึงขอจ่ายเพียง 800 บาท จากที่เขาเรียกมาจำนวนทั้งสิ้น 2,500 บาท เป็นค่ารถที่มาส่ง ก่อนจะเดินทางไปที่ ด่านตม.เพื่อผ่านข้ามแดนไปตามปกติ หลังจากนั้นตนก็เล่าให้น้องสาวฟังก่อนจะนำมาโพสต์ลงโซเชียลฯ


ขณะที่ นางกนกเนตร เนตรน้อย ขนส่งจังหวัดอุบลราชธานี สั่งการให้หัวหน้ากลุ่มวิชาการขนส่ง และเจ้าหน้าที่ตรวจการ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ สถานีขนส่งผู้โดยสารเฉลิมพระเกียรติ จ.อุบลราชธานี และสอบถามผู้เกี่ยวข้อง ตรวจสอบข้อมูลทะเบียนรถคันดังกล่าว จนทราบตัวเจ้าของรถ พร้อมพนักงานขับรถคันดังกล่าวให้มาชี้แจงข้อเท็จจริงที่สำนักงานขนส่งจังหวัดอุบลราชธานี


โดยนางสาวสุธาดา (สงวนนามสกุล) คนขับรถวันเกิดเหตุ ให้การยอมรับผิดนำรถมาใช้รับจ้างรับส่งผู้โดยสารจริง แต่อ้างว่าไม่ได้กรรโชกทรัพย์แต่อย่างใด ตนพาผู้โดยสารชาวสปป.ลาว คนดังกล่าวไปถึงจุดหมายที่จุดผ่านแดนถาวรด่านช่องเม็ก และได้รับค่าโดยสารเพียง 800 บาทเท่านั้น


ด้านนางกนกเนตร กล่าวด้วยว่า การนำรถยนต์ส่วนบุคคลคันดังกล่าวมาใช้ในการรับจ้างขนส่งผู้โดยสาร มีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 21 ประกอบมาตรา 60 ห้ามมิให้ผู้ใดใช้รถไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียนไว้ สำนักงานขนส่งจังหวัดอุบลราชธานีได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับผู้ขับขี่ที่กระทำความผิด เป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท ส่วนทางด้านคดีความนั้น หากผู้เสียหายต้องการดำเนินคดีกรรโชกทรัพย์ ก็ให้เข้าพบพนักงานสอบสวน อีกครั้งต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News