สาวลาววัย 19 ร้อง เจอแท็กซี่ผีพูดคุกคามทางเพศ-ยึดมือถือ หมอชิตถึงบางกรวยเรียก 950 บาท

สาวลาววัย 19 ร้อง ถูกแท็กซี่ผีหมอชิตยึดมือถือ พูดคุกคามทางเพศตลอดทาง ขับรถวนจากหมอชิตถึงบางกรวย ใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง ซ้ำเรียกเงิน 950 บาท

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 4 ธ.ค. 2566 Miss PHOUANGMALAY KEOVILAY อายุ 19 ปี นักท่องเที่ยว สัญชาติลาว นำหลักฐานกล้องวงจรปิดเดินทางเข้าร้องเรียนกับนายโชติอนันต์ เลิศฤทธิ์ภูวดล หรือ เสี่ยเป้ บางกรวย กต.ตร.สภ.บางกรวย หลังจากเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2566 เวลาประมาณ 22.30 น.ที่ผ่านมา ได้เดินทางมาจากประเทศลาวเพื่อมาหาพี่ชายที่พักอาศัยอยู่ใน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ขณะที่เดินทางมาถึง สถานีขนส่งหมอชิต 2 กรุงเทพฯ ได้ถูกวินเถื่อนที่หมอชิต อ้างตัวเป็นแท็กซี่รับขึ้นรถยนต์โดยสารส่วนบุคคล เรียกเก็บค่าโดยสารราคาแพงกว่าปกติหลายเท่า และระหว่างทางมีการยึดมือถือ พร้อมพูดจาคุกคามทางเพศอยู่ตลอดเวลา รวมถึงมีพฤติกรรมแปลกๆ จอดฉี่ตามป่าข้างทางถึง 4 ครั้ง โดยระยะทางเพียง 13 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางกว่า 2 ชั่วโมง หลังจากจอดส่งผู้เสียหายเสร็จแล้ว ได้รีบขับรถหนีพี่ชายผู้เสียหายที่ขี่จักรยานยนต์ตามมาดูน้องสาว มีการส่องไฟฉายเพื่อดูทะเบียนแต่ไม่ทันเพราะป้ายทะเบียนรถจางมองไม่เห็น แจ้งความไว้ที่ สภ.บางกรวย

Miss PHOUANGMALAY กล่าวว่า เธอเดินทางมาจากประเทศลาว เพื่อจะมาเที่ยวหาพี่ชายที่พักอยู่ในอำเภอบางกรวย จ.นนทบุรี ขณะที่เดินทางมาถึงสถานีขนส่งหมอชิต 2 ได้ถือกระเป๋าเดินทางเพื่อที่จะขึ้นวินจักรยานยนต์ไปลงถนนใหญ่ แล้วค่อยเรียกรถแท็กซี่ ขณะที่เดินอยู่ได้มีชายวัยประมาณ 30 ปี สวมเสื้อวินจักรยานยนต์เดินมาถือกระเป๋าให้ พร้อมถามว่า “จะไปไหนน้อง” จึงตอบว่า ไปบ้านพี่ชายแถววัดสักใหญ่ อ.บางกรวย ทางชายคนดังกล่าวก็ตอบว่า เดี๋ยวพี่ไปส่งพี่มีรถแท็กซี่เหมือนกัน เธอก็ตอบตกลงและเดินไปขึ้นรถกับชายดังกล่าว แต่ปรากฏว่าไม่ใช่รถแท็กซี่ แต่เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อนิสสัน พอขึ้นรถชายคนนั้นก็ถอดเสื้อวินจักรยานยนต์ออก เธอก็เริ่มรู้สึกแปลกใจ จากนั้นทางคนขับก็บอกให้พี่ชายส่งโลเคชั่นมาในมือถือ หลังจากพี่ชายส่งมา คนขับก็หยิบมือถือไปดูแล้วไม่คืน จากนั้นขับไปส่งโดยใช้ทางอ้อมไปขึ้นทางด่วน ให้เธอจ่ายค่าทางด่วนราคา 90 บาท รวมถึงแวะเติมน้ำมันให้จ่ายอีก 200 บาท ระหว่างทางก็ถามเธอว่ามีแฟนหรือยัง พูดจาคุกคามทางเพศอยู่ตลอดเวลา โอ้อวดว่าตัวเองสักลายทั้งตัว อยากรู้ประวัติพี่ให้เข้ายูทูบไปดู ที่เคยติดคุกคดีค้ายาเสพติด ซึ่งเธอจำชื่อไม่ได้ ระหว่างทางคนขับก็พยายามจะเข้าหาตัวตลอด ซึ่งในขณะที่นั่งรถอยู่คนขับก็มีพฤติกรรมขับๆ จอดๆ แวะข้างป่าเพื่อลงไปฉี่ 4 รอบ เธอรู้สึกกลัวมาก พยายามจะเอามือถือที่คนขับยึดเอาไว้อ้างว่าดูเส้นทาง แต่คนขับไม่ยอมให้คืน รวมถึงพี่ชายโทรมาก็ตัดสาย ซึ่งตามปกติแล้วระยะทางจุดที่ขึ้นรถกับปลายทางห่างกันเพียง 13 กิโลเมตร 20-30 นาทีก็ถึงแล้ว แต่คนขับขับอ้อมขึ้นทางด่วนใช้เวลา 1-2 ชั่วโมงกว่าจะถึง ขณะที่ถึงจุดหมายบริเวณหน้าอู่ซ่อมรถเบนซ์ แล้วทางคนขับก็เรียกเก็บเงิน 950 บาท ซึ่งเธอตกใจมาก เพราะตอนที่เรียกขึ้นรถบอกแค่ 200-300 บาทเท่านั้น จึงขอโทรศัพท์กับคนขับคืนเพื่อโทรหาพี่ชาย ทางคนขับก็บ่ายเบี่ยงไม่อยากให้คุยเดี๋ยวเรื่องจะใหญ่โต หลังจากได้มือถือคืนมาได้โทรหาพี่ชาย คนขับก็มีท่าทีกลัวๆ หลังจากพี่ชายมาเธอถึงลงจากรถได้ ทางพี่ชายก็ได้พูดคุยกับคนขับ คนขับก็พูดอ้างไปเรื่อย จนกระทั่งเธอต้องเดินไปแลกเงินที่ร้านสะดวกซื้อ และจ่ายให้ในราคา 800 บาท หลังจากคนขับได้เงินแล้วก็รีบขับรถหนี พี่ชายกับเพื่อนยังไม่ทันตั้งตัวที่จะถ่ายภาพรถยนต์และหน้าไว้เป็นหลักฐาน จึงรีบขี่จักรยานยนต์เร่งตามไปโดยนำไฟฉายพยายามส่องทะเบียนแต่ก็ไม่เห็น เพราะป้ายทะเบียนถูกดัดแปลงสีจางจนมองไม่เห็น

นายนิธิวิทย์ เลิศฤทธิ์ภูวดล อายุ 30 ปี หัวหน้างานพี่ชายผู้เสียหาย ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า วันเกิดเหตุพี่ชายของผู้เสียหายเป็นลูกน้อง มาเรียกบอกว่าน้องสาวนั่งรถแท็กซี่มาแล้วคนขับไม่ยอมให้ลงจากรถ เลยดักรอและยืนดูอยู่ที่หน้าอู่ สักพักน้องสาวของลูกน้องลงมาจากรถ หลังจากนั้นคนขับรถแท็กซี่ขับออกไปอย่างเร็ว เลยรีบขับรถจักรยานยนต์ไล่ตามรถแท็กซี่จนมาถึงปากทางจะขึ้นทางด่วน คนขับรถแท็กซี่ขับรถเบียดรถของตน เลยรีบขับหลบ คนขับรถแท็กซี่รีบขับหนีขึ้นทางด่วน ตนกับเพื่อนเลยวกรถกลับ จำได้ว่ารถยี่ห้อ Nissan Almera สีขาว แผ่นป้ายมองไม่เห็นเนื่องจากเป็นสีขาวทั้งแผ่นไม่มีตัวหนังสือสีดำ

เสี่ยเป้ บางกรวย กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากพี่ชายของผู้เสียหายจึงได้พาน้องเข้าไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ตอนนี้ได้กล้องวงจรปิดตามเส้นทางมาแล้ว มองว่าน้องเขาเป็นต่างชาติ ควรจะดูแลให้ดี ฝากเตือนภัยนั่งรถจากหมอชิตมาควรดูวินที่มีเบอร์มีเลขรับ ถ้าเป็นรถแท็กซี่ควรมีมิเตอร์ มีชื่อมีทะเบียนและถ่ายรูปเก็บไว้ เคสนี้เป็นเคสตัวอย่าง โชคดีน้องแค่โดนคุกคาม ยังไม่ถูกทำร้าย หลังทราบเรื่องว่าคนขับรถแท็กซี่ไม่ยอมให้ลงจากรถ จึงได้ให้ทีมงานขี่รถมอเตอร์ไซค์ขับตามรถแท็กซี่ไปจนถึงทางที่ออกทางรถไฟ ทีมงานจอดเรียกให้หยุดเพื่อมาพูดคุยกันแต่คนขับแท็กซี่ขับรถหนีขึ้นทางด่วนและขับเบียดจะชนรถมอเตอร์ไซค์คันที่ขับตาม ถ้าคุณไม่ผิดจริง ควรลงมาคุยไม่ควรขับหนี ทำแบบนี้เหมือนจะมีพฤติกรรมผิดปกติ เบื้องต้นในวันพรุ่งนี้จะพาผู้เสียหายนำหลักฐานกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมไปให้กับพนักงานสอบสวน สภ.บางกรวย เพื่อให้ตำรวจชุดสืบสวนเร่งติดตามผู้ก่อเหตุรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป