สาวทอนซิลอักเสบไปคลินิก เจอหมอหื่น สั่งถอดกางเกงฉีดยา เอาอวัยวะเพศมาถูก้น

สาวแฉพฤติกรรมหมอหื่น ทอนซิลอักเสบไปคลินิก หมอสั่งให้ถอดกางเกงฉีดยา ก่อนจะเอาอวัยวะเพศมาถูก้นในห้องตรวจ พยายามลวนลามจับเนื้อต้องตัว เหยื่อแอบถ่ายคลิปเป็นหลักฐาน เผยผู้เสียหายมีอีกหลายคน เจอเหตุการณ์คล้ายกัน เชื่อทำจนเป็นนิสัย


ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวแฉพฤติกรรมหมอหื่น หลังถูกหมอรายดังกล่าว ซึ่งประจำคลินิกแห่งหนึ่ง ลวนลามตอนที่อยู่กันตามลำพังในห้องตรวจ โดยระบุว่า มีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ติดต่อมาหาผู้โพสต์ ว่าโดนพฤติกรรมแบบเดียวกัน


ผู้โพสต์ระบุว่า ตนเองเพิ่งโดนหมอที่คลินิกหนึ่งลวนลามมา ตนไปรักษาทอนซิลอักเสบ โดยตนเองขอฉีดยา ทั้งห้องมีแค่ตนกับหมอ 2 คน เขาให้เราถอดกางเกง ให้เรานอนตะแคงหันก้นออกให้หมอ และบอกให้เราขยับตัวไปตรงขอบเตียงเยอะมาก ขณะฉีดก็มีการเอาตัวมาพิงเรา และเอาอวัยวะเพศมาถูไปมาตรงก้น


พร้อมระบุว่า ตนเองเป็นทอนซิลอักเสบ เป็นบ่อย ๆ มาตลอดหลายปีจนชิน ซึ่งปกติจะไปรักษาที่โรงพยาบาลประจำ เมื่อ 3 พ.ค.65 เลิกงานเย็น ที่โรงพยาบาลประจำของตน หมอกลับไปหมดแล้ว ต้องทำการนัดเป็นวันอื่นแทน แต่ตนเจ็บคอมาก ๆ จนไม่ไหว กลืนน้ำลาย กินข้าวแทบไม่ได้ เลยอยากฉีดยา เนื่องจากเราเคยฉีดแล้ว มันจะหายเจ็บคอภายในวันเดียว รอบนี้เลยอยากรับการฉีดยา เพราะอยู่ในช่วงวันทำงานเลยอยากให้อาการเจ็บคอหายไว ๆ เลยไปที่คลินิกนึงแถวบ้าน


ซึ่งตนเคยไปอยู่ 2-3 ครั้ง เพื่อไปทำใบรับรองแพทย์ที่นี่ แต่ไม่เคยรับการรักษาใด ๆ พอไปถึงหมอก็ออกมาถามอาการเราหน้าคลินิก เพราะอาการเราคล้ายโควิด เลยต้องตรวจเพื่อความชัวร์ ก่อนให้เข้าข้างใน หมอก็ตรวจ ATK ให้ หมอบอกว่าถ้าขีดเดียวก็เข้ามาฉีดได้ สรุปตนไม่เป็น เลยได้เข้าไปข้างใน


ทั้งคลินิกมีแค่พนักงานผู้หญิงตรงเคาท์เตอร์ด้านหน้าและหมอผู้ชายคนนี้ หมอบอกให้ตนเข้าไปนอนรอบนเตียง ตนก็เข้าไปขึ้นเตียง พอหมอเตรียมยาเสร็จก็เข้ามา หมอบอกให้เราถอดกางเกง เราเลยงง ๆ และถามว่าทำไมต้องถอด ต้องฉีดตรงก้นหรอคะ หมอบอกว่าใช่ ตนก็งอแง ๆ ไป ว่าน่ากลัว ปกติไม่ได้ฉีดก้นนะ แล้วตนก็ถอดกางเกงลงมาต่ำกว่าก้น เพราะไม่รู้จริง ๆ ว่าเข็มจะต้องปักตรงบริเวณไหน หมอบอกให้ถอดเราก็ถอด


หมอถามว่าปกติไม่ได้ฉีดตรงนี้หรอ ตนก็บอกไปว่าปกติฉีดตรงข้อพับแขน ไม่เคยฉีดตรงนี้เลย หมอก็บอกว่า แสดงว่าปกติอาการหนักนะ เพราะฉีดเข้าเส้นเลือดมันแรงกว่า แล้วก็ถามอาการเราไปเรื่อย ๆ เหมือนซักอาการตามปกติ หมอบอกให้นอนตะแคง หันก้นมาฝั่งหมอ ตนก็นอนตะแคงหันหน้าเข้ากำแพง หมอบอกให้เขยิบมาใกล้ ๆ อีก เพราะเรานอนอยู่กลางเตียง เราก็เขยิบออกมาคิดว่าหมอจะได้สะดวกขึ้น


จากนั้นหมอบอกให้เขยิบมาอีก ๆ จนก้นของตนอยู่ตรงขอบเตียง แทบจะยื่นออกมานอกขอบเตียงไปหน่อย ๆ ด้วยซ้ำ แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้เอะใจอะไรเลย หมอก็เลิกเสื้อของตนขึ้นแล้วเริ่มฉีด ตนเองถ่ายวิดีโอตอนแรก ๆ ไว้ได้เพราะแค่จะส่งให้เพื่อนดูเฉย ๆ แต่พอเห็นว่า หมอต้องเดินยานาน ตนก็เกรงใจ แล้ววางโทรศัพท์ เลิกถ่าย


"ตอนที่ถ่ายเราไม่เอะใจอะไรเลยสักนิดเดียว ถึงแม้ว่าหมอจะมาจับ ๆ นวด ๆ กด ๆ ตรงเอวเราแบบที่เห็นในคลิป เราก็คิดว่า คงเป็นการคลึงตัวยาหรืออะไรรึเปล่า คือเราไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ คิดว่าคือการรักษาของหมอตามปกติ จนพอเราวางโทรศัพท์ลง หมอก็เริ่มมายืนพิงก้นเรา ตอนนั้นเรายังไม่คิดอะไร คิดว่าหมอคงเมื่อยแล้วมายืนพิงเตียง แล้วบังเอิญมาโดนตัวเรา"


จนกระทั่งหมอเริ่มขยับเอวซ้ายขวาไปมาเหมือนมาถู ๆ ตรงก้นเรา แล้วดันตัวมาพิงเรา เราเริ่มแปลก ๆ แล้ว แต่ก็ยังไม่แน่ใจ จนรู้สึกได้ว่าหมอเอาอวัยวะเพศมาถูเราไปมา จนมันแข็งขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนั้นในหัวเรางงไปหมด ว่าใช่รึเปล่า เราโดนลวนลามหรอ มันเกิดอะไรขึ้นในหัวมันเรียบเรียงไม่ถูก โวยดีไหม แต่เข็มก็ยังปักคาสะโพกเราอยู่ คือเรานอนตัวแข็งไปเลย ยังคงอึ้ง ๆ กับเหตุการณ์ตอนนั้น


เหยื่อสาวรายนี้ยังระบุอีกว่า ระหว่างที่หมอยืนฉีดเขาก็ถามชวนคุยตลอด เลยงง ๆ แต่ก็ต้องคอยตอบคำถามหมอเรื่อย ๆ ตลอดการเดินยา จนหมอฉีดยาเสร็จ ดึงเข็มออก อยู่ ๆ หมอก็เอามือมาจับ ๆ บีบ ๆ เท้าของตน ทั้ง ๆ ที่เรานอนตะแคงหันหลังให้หมออยู่ และยังไม่ใส่กางเกง หมอก็มาบีบ ๆ นวด ๆ ตรงเท้าที่บวมอยู่นานมาก ถามอาการเราซ้ำไปซ้ำมา ตรงนี้เจ็บไหม ตรงนี้ล่ะ แล้วชวนคุยว่าปกติแพ้มดหรอ ถามไม่หยุด


หมอบีบ ๆ นวด ๆ อยู่อย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่ตนก็บอกอาการไปละเอียดหมดแล้ว จนหมอปล่อยเท้าตน แล้วก็ไปนั่งเขียนใบสั่งยาที่โต๊ะ ตนลุกมาใส่กางเกง นั่งเบลอว่าจะวีนดีไหม สุดท้ายก็ไม่ได้ทำอะไร ตนรอจ่ายยาชำระเงินจนเสร็จ อึ้งไปหมด พิมพ์บอกเพื่อนกับเรื่องราวที่เจอไปด้วย เราออกมาเล่าให้พ่อแม่ฟัง แล้วเอาคลิปให้ดู แต่เราก็รู้สึกว่าทำอะไรมันไม่ได้อยู่ดี


ที่บ้านเราก็บอกว่ารู้สึกหลักฐานไม่มากพอ ถ้าหมอจะแถ เราก็ทำอะไรไม่ได้ ข้างในคลินิกไม่มีกล้องวงจรปิดเลย เรามองดูรอบ ๆ แล้ว ตนเจ็บใจและร้องไห้หนักมาก ๆ กับเหตุการณ์นี้ คือในชีวิตเจอโรคจิตมารอบนี้รอบที่ 3 แล้ว และยิ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้มันทำให้เรายิ่งงง ๆ ว่าใช่รึเปล่า หรือเราคิดไปเอง หรือหมอจะแค่รักษาไปตามปกติ คือมันไม่เหมือนกับโรคจิตโต้ง ๆ แบบที่เคยเจอมา


ส่วนใครที่คิดว่าทำไมไม่โวยไปตั้งแต่ตอนนั้นเลย คือเราเป็นคนแบบนี้จริง ๆ นี่ก็คือสิ่งที่เรายังเจ็บใจตัวเองอยู่ตลอดจนทุกวันนี้ ขนาดปีที่แล้วเราเจอโรคจิตนั่งช่วยตัวเองตรงหน้าเรา เราก็ไม่กล้าร้องโวยวายด่ามัน หรือแม้แต่จะหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปมัน เราแทบจะกลัวมันด้วยซ้ำ เราจะตัวแข็งทื่อตลอดเวลาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ในหัวมันงงไปหมด รู้สึกขยะแขยง และจะอ้วก


ขนาดดำเนินคดีแจ้งความไปแล้ว แต่ก็ทำอะไรมันไม่ได้ เพราะไม่มีหลักฐานอะไรเลย มีแค่คำจากปากของเรา มันก็เหมือนว่าเราไปหมิ่นประมาทเขา ถ้าเขาปฏิเสธ เราก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี แล้วก็จะมาเสียใจทีหลังตลอดว่าทำไมเราถึงไม่กล้าทำแบบนั้นไม่กล้าโวยแบบนี้ แต่เราก็ไม่อยากจะโทษตัวเอง คือเราผิดหรอ มันก็ไม่ใช่ คนก็แค่จะมารับการรักษา หมอบอกให้เราทำอะไรเราก็พร้อมทำ บางคนคงคิดว่าเราโง่หรอ ถอดกางเกงอะไรขนาดนั้น เออ ก็ปกติกูโดนฉีดข้อพับ ก็หมอบอกให้เราถอดกางเกง


เราก็แค่คิดว่านี่คือการรักษาของเขา เข็มจะปักตรงไหนกูยังไม่รู้เลย ก็ถอดไปเพื่อให้หมอทำงานสะดวก คือถ้าหมอมันบริสุทธิ์ใจจริง ๆ เจอคนไข้เด๋อ ๆ จะถอดกางลงมาแบบกูขนาดนี้ เขาก็ควรบอกแล้วไหม ยังไงหมอก็รู้ว่าต้องลงเข็มตรงไหน ก็แค่บอกเรามา ว่าหนูไม่ต้องถอดขนาดนั้น แค่รูดซิบ แง้มกางเกงนะอะไรก็ว่าไป มันควรจะเป็นแบบนั้น เพราะตรงที่เราโดนฉีด คืออยู่เหนือขอบกางเกงในด้วยซ้ำ


เธอเล่าอีกว่า ตอนแรกที่จะเล่า กะจะระบุโลเคชั่นหรือละแวก แต่จะไม่เจาะจงร้านหรือตัวหมออยู่แล้ว แต่ตอนนี้เราคงไม่จำเป็นต้องบอกแล้ว เพราะหลังจากที่เราได้ลงสตอรี่ มีคนที่เราไม่เคยรู้จักหรือพูดคุยกันมาก่อน ทักมาถามเราว่าใช่คลินิกนี้ไหม และพูดสถานที่ออกมาได้ถูกเป๊ะ ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยได้เกริ่นถึงตัวหมอ โลเคชั่น หรือคลินิกแห่งนี้เลย


ตนลงแค่นั้นตามที่ทุกคนเห็นในสตอรี่ เขาได้ทักมาบอกว่าเขาก็เจอเหตุการณ์คล้าย ๆ เราแบบนี้เหมือนกัน และมากกว่า 1 ครั้ง เพราะในตอนแรกตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนเราเหมือนกัน เราได้พูดคุยกันซึ่งคอนเฟิร์มว่าหมอคนเดียวกันแน่ ๆ และเหตุการณ์ที่โดนก็แนว ๆ เดียวกัน เลยเชื่อว่าหมอคนนี้เคยทำมาหลายครั้งแล้วแน่ ๆ เพราะเหตุการณ์ตอนนั้นเขาได้บอกเราว่า เขาเจอเมื่อตอนปี 62-63


ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าจะมีใครอีกหลายคนที่ต้องตกเป็นเหยื่ออีก ขนาดตนอายุ 25 แล้ว ตนยังงง ๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลองคิดว่าถ้าเป็นเด็กที่ยังไม่รู้ประสีประสา ไม่รู้ว่าตัวเองโดนกระทำอะไรอยู่ เด็ก ๆ ก็คงคิดว่าหมอแค่ตรวจอาการทั่วไป คือไม่อยากจะคิดว่า แม่งจะเ-ี้ยขนาดไหน ถ้าใครเจอเหตุการณ์คล้าย ๆ กันลองบอกข้อมูลเราได้ เพราะถ้าเป็นที่เดียวกันเราเชื่อว่าหมอคนนี้คงทำจนเป็นนิสัยไปแล้ว ยิ่งถ้าได้ข้อมูลที่เยอะขึ้นกว่านี้เราเชื่อว่ามันจะต้องทำอะไรได้บ้าง

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/LVnmmCmEcJ4