ก้าวไกล ตั้ง “โรม” นั่งโฆษกพรรค พร้อมดึง “ไอติม-พริษฐ์ นั่งผู้จัดการรณรงค์นโยบาย เตรียมรับการเลือกตั้ง

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยหลังการประชุมใหญ่สามัญพรรคก้าวไกล ประจำปี 2565 ซึ่งวาระสำคัญคือการพิจารณาปรับเปลี่ยนโครงสร้างพรรคที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการสื่อสาร โดยมีตำแหน่งที่น่าสนใจ อาทิ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทำหน้าที่โฆษกพรรค ขณะที่ นายกรุณพล หรือ เพชร เทียนสุวรรณ และ ส.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา เป็นรองโฆษกพรรค รวมถึง ส่วนของกองอำนวยการการเลือกตั้งมีการแต่งตั้ง นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ “ไอติม” เป็นผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายของพรรค


นอกจากนี้ ยังมีรองเลขาธิการพรรค ประจำภารกิจ 4 ด้าน คือ นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ เป็นรองเลขาด้านความร่วมมือระหว่างพรรคการเมือง, นายธีรเศรษฐ พัฒน์วราพงษ์เป็นรองเลขาด้านความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรและการต่างประเทศ, นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ เป็นรองเลขาด้านกิจการภายในและการเลือกตั้ง และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นรองเลขาด้านพัฒนาระบบ ข้อมูล และดิจิตอล


นายพิธา กล่าวว่า วันนี้เป็นการปรับทัพการสื่อสารของพรรค เพื่อเตรียมสำหรับการเลือกตั้ง โดยยุทธศาสตร์ จะเน้นที่การให้ข้อเท็จจริง ตรงไปตรงมา กระชับ และตอบสนองต่อสถานการณ์ทางการเมืองได้รวดเร็วมากขึ้น ส่วนเหตุผลที่แต่งตั้ง นายรังสิมันต์ โรม เป็นโฆษกพรรคนั้น เห็นว่าเป็นคนที่มีดีเอ็นเอของอดีตพรรคอนาคตใหม่และก้าวไกล ซึ่งได้ทำงานพิสูจน์ตัวเองมาโดยตลอดในช่วง 2-3 ปีผ่านมา ดังนั้นตนมีความเชื่อมั่น และที่สำคัญพร้อมทำงานได้ทันที ซึ่ง DNA ของทั้ง 2 พรรคนี้คือความซื่อตรงต่อประชาชน มีความกล้าหาญที่จะต่อสู้กับความอยุติธรรมในรูปแบบต่าง ๆ ที่มีในการเมืองไทย


ขณะที่นายรังสิมัน เปิดใจหลังได้รับการแต่งตั้งเป็นโฆษกพรรคก้าวไกลคนใหม่ ว่า ขอบคุณหัวหน้าพรรคและสมาชิกที่ให้ความไว้วางใจให้ทำหน้าที่นี้ ตนจะสื่อสารแทนสมาชิกพรรค โดยเฉพาะขณะนี้ถือว่าอยู่ในช่วงเวลาที่มีความท้าทาย ในสถานการณ์ที่มีความง่อนแง่นของรัฐบาลว่า ใครจะเป็นนายกฯ คนต่อไป พรรคก้าวไกลที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองยึดมั่นในเรื่องประชาธิปไตยต้องแสดงบทบาทอย่างเข้มแข็ง เป็นหลักให้กับสังคมไทย ตั้งแต่ช่วงนี้จนถึงเลือกตั้ง และหลังเลือกตั้ง


ด้าน นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ในที่ประชุมใหญ่สามัญวันนี้ ยังได้มีการจัดเห็นชอบแก้ไขข้อบังคับพรรค เกี่ยวกับความผิดร้ายแรงของสมาชิก เพื่อป้องกันการคุกคามทางเพศ ซึ่งมีสาระสำคัญ 3 เรื่อง คือ

1.ขยายขอบเขตการเอาผิดสมาชิก จากเดิมกำหนดเฉพาะที่เกิดขึ้นกับบุคลากรภายในพรรค ให้เปลี่ยนเป็นการทำที่เกิดขึ้นต่อบุคคลภายนอกด้วย

2.เพิ่มองค์ประกอบที่มาดูแลเรื่องนี้สอบสวนวินัยและจริยธรรม โดยเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องการคุกคามทางเพศ จำนวน 2 คน มาอยู่ในคณะกรรมการตรวจสอบ

3.แก้ไขกรอบเวลาการร้องเรียนเกินจาก 30 วันได้ โดยโทษสูงสุดคือการขับออกจากสมาชิกพรรค