สังคม

'บิ๊กโจ๊ก' ลงพื้นที่ "เขาน้อย" สอบคดีบุกรุกโบราณสถาน คาดมี จนท.รัฐเอี่ยว

โดย pattraporn_a

27 มี.ค. 2565

107 views

"บิ๊กโจ๊ก" ลงพื้นที่ "เขาน้อย" สอบคดีบุกรุกโบราณสถานสงขลา คาด จนท.รัฐเอี่ยว เตรียมดำเนินคดีเพิ่ม ด้าน กรมศิลปากร ประเมินความเสียหาย ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท


วันนี้ (27 มี.ค.65) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา นายพงศ์ธันว์ สำเภาเงิน ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 11 ลงพื้นที่บริเวณเขาน้อย หลังป้อมหมายเลข 9 ติดตามความคืบหน้าคดีบุกรุกโบราณสถานจังหวัดสงขลา


พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดเพิ่มเติม เพราะการบุกรุกพื้นที่โบราณสถานเป็นไปเพื่อนำหน้าดินไปขาย หากไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้องก็ไม่สามารถดำเนินการได้ ส่วนผู้ต้องหานำหน้าดินไปขายให้บุคคลหรือบริษัทใดนั้น อยู่ระหว่างการสอบสวน


โดยปกติแล้วการปรับพื้นที่จะต้องขออนุญาตจากกรมป่าไม้ กรมที่ดิน กรมศิลปากร หรือผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะเจ้าของพื้นที่ แต่ที่ผ่านมาผู้ต้องหาไม่เคยขออนุญาต ซึ่งจากนี้พนักงานสอบสวนจะเรียกหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพิ่มเติมด้วย


คดีการบุกรุกโบราณสถานครั้งนี้เป็นกลุ่มเดียวกันกับการบุกรุกโบราณสถาน จังหวัดสงขลาเมื่อปี 2557 พนักงานสอบสวนจึงจะรื้อคดีดังกล่าวขึ้นมาด้วย ส่วนประเด็นคำให้การของหนึ่งในผู้ต้องหา ที่ต้องการปรับพื้นที่บริเวณเขาน้อย เพื่อเลี้ยงสุนัข 200 ตัว ไม่ทราบว่ามีจริงไหม แต่ผู้ต้องหาแสดงเจตนาถือของหลวงเป็นของตนเองอย่างชัดเจน จะอ้างอะไรก็อ้างไป


ส่วนที่หนึ่งในผู้ต้องหาเป็นผู้มีอิทธิพลในท้องที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า มีข้อมูลทั้งหมดแล้ว ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน และเจ้าหน้าที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกภาคฝ่าย เบื้องต้นยังไม่พบการข่มขู่ชาวบ้านในพื้นที่ และคาดว่าชาวบ้านในพื้นที่จะทยอยเข้ามาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่


สิ่งสำคัญมากกว่าการจับกุมผู้กระทำผิดคือ การบูรณะโบราณสถานให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม เพราะการบุกรุกพื้นที่ดังกล่าวใกล้เคียงกัยเจดีย์เขาน้อย อายุ 1,400 ปี หากไม่ได้รับการบูรณะก็อาจจะพังลงมา


พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยอมรับว่า คดีนี้ยังไม่คืบหน้ามาก เป็นสาเหตุที่ต้องลงมาเร่งรัดคดี เพื่อให้ดำเนินคดีครบทุกฐานความผิด ผู้กระทำผิดชดใช้ค่าเสียหาย และปรับสภาพหน้าดินบริเวณโบราณสถานให้ปกติ ขอยืนยันกับชาวสงขลา โบราณสถานจะต้องกลับมาเป็นแหล่งยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวสงขลาเช่นเดิม ส่วนพื้นที่อื่นหากพบการบุกรุกโบราณสถาน จะดำเนินคดีเช่นกัน เพื่อไม่ให้เป็นการเลือกปฏิบัติ


"คดีนี้จะทำให้เร็วและเป็นธรรม จะเอาความจริงออกมาให้ชาวสงขลาได้เห็น พร้อมประสานผู้ว่าราชการจังหวัดในการฟื้นฟูพื้นที่ ฝากไปถึงประชาชนที่มีข้อมูลการบุกรุกโบราณสถาน และผู้มีอิทธิพลในท้องที่ สามารถแจ้งมาที่ผมโดยตรง"


ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 11 กล่าวว่า จากการประเมินทางกายภาพ พบว่า ณ ปัจจุบันมีการไถเนื้อดินออกไป ทั้งนี้ได้ประเมินมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจ และทางวัฒนธรรมบริเวณเขาน้อย และเขาแดงเบื้องต้นอยู่ที่ 30 ล้านบาท โดยหลังจากนี้จะหารือร่วมกับนักธรณีวิทยาเพื่อหาความเป็นไปได้ในการถมดินเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ก่อนคดีสิ้นสุด

คุณอาจสนใจ

Related News