สังคม

‘บิ๊กโจ๊ก’ ยังเงียบ หลังถูกให้พ้นราชการ ‘นายกฯ’ แจง คำสั่งเด้งเป็นอำนาจรักษาการ ผบ.ตร.

โดย JitrarutP

19 เม.ย. 2567

84 views

“บิ๊กต่าย” รักษาการ ผบ.ตร.เซ็นคำสั่ง “บิ๊กโจ๊ก” และตำรวจ รวม 5 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน ขณะที่วันนี้ไร้เงา “บิ๊กโจ๊ก” เข้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด้าน “นายกฯ” แจง คำสั่งเด้งเป็นอำนาจรักษาการ ผบ.ตร.”

เมื่อวานนี้ พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ หรือ บิ๊กต่าย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า ได้ลงนามในคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อพิจารณาทางวินัยกับพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เนื่องมาจากถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยร้ายแรง พร้อมกับ ตำรวจอีก 4 นายแล้ว ในคดีฟอกเงิน เว็บพนัน บีเอนเค มาสเตอร์ และได้เซ็นคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 5 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน โดยมีผลตั้งแต่เมื่อวานนี้ (18 เมษายน)

โดยตำรวจทั้ง 5 คน ประกอบด้วย

1.พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

2.พันตำรวจเอก กิตติชัย สังขถาวร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา

3.พันตำรวจโท คริษฐ์ ปริยะเกตุ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธร พระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ

4.สิบตำรวจเอก ณัฐวุฒิ หวัดแวว ผู้บังคับหมู่ (ทำหน้าที่จราจร) งานปฏิบัติการจราจรตามโครงการพระราชดำริ 1 กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจจราจร

5.สิบตำรวจเอก ณัฐนันท์ ชูจักร ผู้บังคับหมู่ งานสายตรวจ 1 กองกำกับการ 1 กองบังคับการ ตำรวจจราจร

บิ๊กต่าย กล่าวว่าการลงนามในคำสั่งดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบ เพราะ หลังจากได้รับรายงานจากคณะพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองวินัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่พิจารณาพบว่า บิ๊กโจ๊กและพวก ได้กระทำผิดจริงร้ายแรงจริง และมีหมายจับในคดีอาญา

โดยหลังจากนี้ บิ๊กโจ๊ก ยังมีสิทธิ์ในการอุทธรณ์ และชี้แจงข้อเท็จจริง รวมถึงร้องทุกข์หรืออุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมของตำรวจได้ หรือหากจะฟ้องร้องไปยังศาลปกครองก็ถือเป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้

รักษาการ ผบ.ตร. ยังบอกอีกว่า ทางพนักงานสอบสวนได้ใช้เวลาพิจารณาข้อเท็จจริงทั้งหมดจนชัดเจนแล้ว และไม่มีความหวั่นเกรงใดๆ หลังจากนี้ ส่วนนายกรัฐมนตรีได้กำชับเพียงว่าให้ดำเนินการตามกฎหมายระเบียบและคำสั่งอย่างเคร่งครัดและรอบคอบ

ขณะที่เช้าวันนี้ที่สำนักงานของบิ๊กโจ๊ก ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังไร้เงาของบิ๊กโจ๊ก มีเพียงตำรวจประจำสำนักงานเข้ามาทำงานตามปกติ

ซึ่งผู้สื่อข่าวสอบถามได้ความว่ายังไม่ได้รับแจ้งจากบิ๊กโจ๊กว่าจะเข้าที่สำนักงานเมื่อไหร่ สำหรับขั้นตอน หลังมีคำสั่งให้ออกจากราชการ ทางบิ๊กโจ๊กและตำรวจอีก 4 นายไม่จำเป็นต้องเข้ามารายงานตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะต้องส่งหนังสือหรือเอกสารแจ้งให้ออกจากราชการไปยังภูมิลำเนาของตำรวจทั้ง 5 นายให้รับทราบ เมื่อทุกคนได้รับหนังสือแล้วจะต้องเข้ามาชี้แจงเพื่อแก้ข้อกล่าวหาต่อคณะกรรมการฯ แต่หากได้รับแจ้งแล้วไม่มา หรืออ้างว่าไม่ได้รับหนังสือ ทางคณะกรรมการจะถือว่าไม่ให้ความร่วมมือ และจะมีมติสรุปผลตามข้อมูลที่มีต่อไป

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อไปหาบิ๊กโจ๊ก แต่บิ๊กโจ๊กไม่รับสาย

ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี คำสั่งให้ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กลับไปที่ต้นสังกัด หลังให้มาช่วยราชการ ที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ก่อนที่พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะมีคำสั่งให้พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน ก็บอกว่า ช่วง 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีการตรวจสอบเรื่องนี้ พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ ได้มาพูดคุยกับตน เพื่อขอให้ส่งตัวพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กลับต้นสังกัด เพื่อจะได้ไปดำเนินการ

ส่วนเหตุผลที่ให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพราะเกรงว่าจะไปแทรกแซงเรื่องคดีและยังมีอิทธิพลอยู่ใช่หรือไม่ ท่านนายกฯ ระบุว่าเป็นไปตามที่รักษาการผบ.ตร.บอก ว่า เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมและการตรวจสอบภายในของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีการดำเนินการกันมา

นักข่าวถามถึงความคืบหน้ากรณีของพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่อาจจะถูกนำมาเปรียบเทียบกันกับกรณีของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์

นายกฯ เชื่อว่าแต่ละกรณีก็มีความแตกต่างกันไป ก็บอกมั่นใจในกระบวนการยุติธรรม ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 คน นายกรัฐมนตรี บอกว่า กรณีคำสั่งให้ "บิ๊กโจ๊ก" ออกจากราชการ เป็นคนละส่วนกับ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง 3 คน ที่ตั้งขึ้น

ช่วงหนึ่งนักข่าวสอบถามถึงความคืบหน้า ท่านนายกฯ บอกว่า ไม่อยากไปกดดัน อย่างที่ตนเคยบอกไว้ กระบวนการยุติธรรมไม่มีใครไปก้าวก่ายหรือเร่งรัดอะไร เข้าใจในความสามารถและความเป็นมืออาชีพของคณะกรรมการ ทั้ง 3 คน เพราะเป็นเรื่องที่สังคมจับตาอยู่

ซึ่งในการลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต มีพลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ รวมถึงนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย 1 ในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีของพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ และพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ร่วมเดินทางไปกับนายกรัฐมนตรีด้วย โดยนายกได้พูดคุยกับทั้ง 2 คน ก่อนที่จะเข้าไปในห้องพักรับรอง



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/x8MsfeeIzSw

คุณอาจสนใจ

Related News