เกษตรกรชัยนาท หันมาทำฟาร์มกระต่ายเนื้อ ออเดอร์ต่างประเทศเพียบ

เกษตรกรที่จังหวัดชัยนาท หันมาทำฟาร์มกระต่ายเนื้อ เพื่อส่งขายต่างประเทศ ซึ่งช่วงนี้กำลังเป็นต้องการของตลาด


สัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ที่เกษตรกรที่ตำบลไร่พัฒนา อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท หันมาเลี้ยงอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ก็คือกระต่ายเนื้อ เนื่องจากว่าเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ


นายประเสริฐ กองคูณ เจ้าของก้องภพฟาร์ม ที่เลี้ยงกระต่ายเนื้อเพื่อการบริโภค บอกว่า เริ่มเลี้ยงกระต่ายเนื้อเป็นเจ้าแรกของจังหวัดชัยนาท เพราะมีลู่ทางการตลาดค่อนข้างดี โดยเลี้ยงมานานประมาณ 1 ปีแล้ว มีตลาดตอบรับต่อเนื่อง เพราะว่ามีผู้นิยมบริโภคเนื้อกระต่ายเพิ่มมากขึ้น แต่ขอให้แยกแยะกระต่ายเนื้อ ไม่ใช่กระต่ายที่เลี้ยงเพื่อความสวยงาม แต่เป็นกระต่ายเพื่อการบริโภคเนื้อ แม่พันธุ์กระต่าย นำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย มีหลายสายพันธุ์ อย่างเช่น นิวซีแลนด์ไวท์ นิวซีแลนด์แลค ซินซิล่า ไจแอนท์ สายพันธุ์เหล่านี้ เป็นกระต่ายที่เติบโตได้ดี เลี้ยง่าย ตัวใหญ่ เนื้อสันค่อนข้างเยอะ ลำตัวยาว กระดูกเล็ก ได้เนื้อมาก เลี้ยงประมาณ 4 เดือน หรือน้ำหนักตัวระหว่าง 3-6 กิโลกรัม ก็สามารถจับขายได้


การเลี้ยงก็ไม่ยาก เพราะว่ากระต่ายเป็นสัตว์กินหญ้าที่มีอยู่ทั่วไป อย่างหญ้าแพงโกล่า หญ้าเนเปียร์ และหญ้าหวานอิสราเอล เหมือนแพะ หรือแกะ เลี้ยงง่าย ไม่ยุ่งยาก ปัจจุบันมีตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ อย่างเช่น ลาว และกัมพูชา มีออเดอร์สั่งซื้อเข้ามาไม่ขาดสาย จนผลิตไม่ทัน สำหรับราคาขายส่งออกกระต่ายมีชีวิต ตกกิโลกรัมละ 130-150 บาท ซึ่งถือว่าเป็นรายได้อย่างดีสำหรับเกษตรกร


คุณประเสริฐ บอกด้วยว่า ขณะนี้ทางฟาร์มกำลังเร่งสร้างเครือข่าย สำหรับเกษตกรที่สนใจเลี้ยงกระต่ายเนื้อ ในพื้นที่ชัยนาท และจังหวัดใกล้เคียง อย่างอ่างทอง สิงห์บุรี ลพบุรี นครสวรรค์ และอุทัยธานี ซึ่งเกษตกรที่สนใจ สามารถเลี้ยงเป็นอาชีพหลัก หรืออาชีพเสริมก็ได้ โดยทางฟาร์มจะรับซื้อคืนในราคาประกัน กิโลกรัมละ 100 บาท