สังคม

เด็กชาย 9 ขวบ ถูกร็อตไวเลอร์ 3 ตัวรุมขย้ำอาการสาหัส คู่กรณีไม่ยอมเยียวยาตามที่ตกลง

โดย pattraporn_a

14 มี.ค. 2565

54 views

เด็กชายวัย 9 ขวบ ถูกร็อตไวเลอร์ 3 ตัวรุมขย้ำอาการสาหัส ผ่าตัดศัลยกรรมกว่า 10 ครั้ง ยังไม่หาย ผ่านมาเดือนกว่าคดีไม่คืบ และคู่กรณีไม่ยอมเยียวยาตามที่ตกลง


วันนี้ (14 มีนาคม 2565) นายธวัชชัย อนุเวทย์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 6 บ้านหญ้าคา ต.ขุนทอง อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชน กรณีลูกชาย ชื่อ ด.ช.ธนดล อนุเวทย์ อายุ 9 ปี นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนบ้านหญ้าคาประชาเนรมิตร อ.บัวใหญ่ ถูกสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ 3 ตัวรุมกัดได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่คู่กรณีไม่ยอมช่วยเหลือเยียวยาตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งเหตุการณ์ผ่านมากว่า 1 เดือนแล้ว แต่คดียังไม่คืบหน้า


นายธวัชชัย อนุเวทย์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเช้าของวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา สุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ จำนวน 3 ตัวของฟาร์มไก่แห่งหนึ่งในพื้นที่ ได้วิ่งเข้ามารุมขย้ำ ด.ช.ธนดล ลูกชายของตนเอง ขณะกำลังเดินไปใส่เบ็ดตกปลากับเพื่อนที่บ่อน้ำหลังบ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากฟาร์มไก่ประมาณ 300 เมตร ส่วนเพื่อนของลูกชายวิ่งหนีไปได้ แล้วรีบไปบอกชาวบ้านให้เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งก็ใช้เวลานานกว่า 20 นาทีจึงสามารถช่วยได้ เพราะสุนัขทั้ง 3 ตัวยืนคร่อมร่างของลูกชายตนเอาไว้


ซึ่งลูกชายของตนมีบาดแผลเหวอะหวะทั้งตัว ทั้งที่บริเวณศีรษะ ใบหู ลำคอ แขนขา และตามลำตัว เลือดท่วมร่าง ต้องรีบนำส่งรักษา รพ.บัวใหญ่ อาการสาหัส ปอดฉีก และเสียเลือดมาก และมีแผลฉกรรจ์หลายจุด แพทย์จึงต้องส่งตัวไปผ่าตัดและรักษาต่อที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ซึ่งตนได้ไปแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้ที่ สภ.บัวใหญ่ ตั้งแต่วันเกิดเหตุ


โดยหลังเกิดเหตุลูกชายของตนต้องทนทุกข์ทรมาน นอนอยู่ห้อง ICU นานถึง 10 วัน และเข้ารับการผ่าตัดทำศัลกรรมบาดแผลมาแล้ว 12 ครั้ง แต่อาการยังไม่หาย วันที่ 11 เมษายน 2565 แพทย์นัดให้มาผ่าตัดทำศัลยกรรมบาดแผลที่แขนอีกรอบ ซึ่งตนเคยเรียกร้องค่าเยียวยาจากเจ้าของสุนัขคู่กรณีที่ปล่อยปละละเลยไม่ดูแลสุนัข และปล่อยให้สุนัขออกมาวิ่งไล่กัดไปเป็นเงินจำนวน 3 ล้านบาท แต่ก็ตกลงกันได้ที่ 1,300,000 บาท แต่ล่าสุดคู่กรณีได้กลับคำ ไม่ยอมเยียวยาตามจำนวนที่ตกลงกันไว้ และบอกเพียงว่าจะยินยอมจ่ายเงินแค่ 2 แสนบาท และจะยอมติดคุก ถ้าอยากได้เงินมากกว่านี้ก็ให้ไปฟ้องร้องเอา ทำให้ตน และครอบครัวรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม


ซึ่งตน และครอบครัวมองว่า จำนวนเงินที่เรียกร้องไปเทียบไม่ได้เลยกับชีวิต และความเจ็บปวดของลูกชาย ทุกครั้งที่ลูกร้องไห้เจ็บปวดแทบขาดใจ หัวอกของคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็แทบทนไม่ได้ ไม่รู้จะช่วยแบ่งเบาความเจ็บปวดได้อย่างไร และเมื่อรักษาหายแล้ว ตนเชื่อว่าสภาพร่างกาย และจิตใจของลูกจะไม่เหมือนเดิมอย่างแน่นอน เพราะร่องรอยบาดแผลที่ทิ้งไว้มันเตือนให้นึกถึงเหตุการณ์ทุกครั้ง เหมือนเป็นเวรกรรมของครอบครัวที่ต้องมาเจอกับเรื่องร้ายๆ เหล่านี้




คุณอาจสนใจ