สุนัขขย้ำหน้าเด็กวัย 7 ขวบหายตัวลึกลับ เบื้องต้นยังไม่มีใครรับเป็นเจ้าของ

จากกรณี พ่อเด็กหญิงร้องสื่อจากเหตุการณ์ที่มีสุนัขพันธุ์ไทยสีดำกระโดดขย้ำลูกสาววัย 7 ขวบได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าอาการสาหัส คาดว่าหมาตัวที่กัดเป็นหมาของเพื่อนบ้านซึ่งมีบ้านอยู่ตรงข้ามกัน แต่เพื่อนบ้านกลับยืนยันเสียงแข็งว่าไม่ใช่หมาของตน เบื้องต้นยังไม่มีใครรับเป็นเจ้าของหมา ส่วนหมาในหมู่บ้านหายลึกลับ


วันที่ 14 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้ลงสำรวจพื้นที่ที่เกิดเหตุสุนัขกัดเด็ก 7 ขวบ เบื้องต้นในพื้นที่ยังพบรอยคราบเลือดบริเวณที่เกิดเหตุ ส่วนทางด้านพ่อแม่ของเด็ก และบ้านที่คาดว่าเป็นคู่กรณีนั้นปิดบ้านเงียบ เพราะว่าพ่อแม่ของเด็กไปเฝ้าดูอาการเด็กที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ส่วนคู่กรณีนั้นไม่ทราบว่าไปไหน และที่สังเกตคือบริเวณซอยที่เกิดเหตุนั้นไม่พบสุนัขแม้แต่ตัวเดียวสอบถามจากชาวบ้านในละแวกก็ไม่ทราบว่าสุนัขหายไปไหน


จากการสอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ทางเจ้าของหมามีความผิดลหุโทษ เราจะเน้นการป้องกันและระงับข้อพิพาทระหว่างบุคคลจนเป็นเรื่องใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดการใช้สิทธิของตนที่ก่อความรำคาญแก่ผู้อื่น และเพื่อไม่ให้ความผิดอาญาขยายหนักเกินเหตุจนไม่สามารถอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข


ส่วนความหมายความผิดลหุโทษ คือ ความผิดที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 102ตัวอย่างความผิดลหุโทษ เช่น 1.มาตรา 372 ผู้ใดทะเลาะกันอย่างอื้ออึงในทางสาธารณะหรือสาธารณสถาน หรือกระทำโดยประการอื่นใดให้เสียความสงบเรียบร้อยในทางสาธารณะหรือสาธารณสถาน ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท 2.มาตรา 378 ผู้ใดเสพสุราหรือของเมาอย่างอื่น จนเป็นเหตุให้ตนเมา ประพฤติวุ่นวายหรือครองสติไม่ได้ขณะอยู่ในถนนสาธารณะ หรือสาธารณสถาน ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท