ไม่ Flow อย่างที่คิด! โวยวิ่งช่อง M-Flow โดนค่าปรับโหด 10 เท่า - กรมทางหลวงรู้ปัญหา เร่งแก้ไข

หลังจากที่เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้เปิดระบบ M-Flow ทางด่วนจ่ายอัตโนมัติ นำร่องใน 4 ด่าน ได้แก่ ธัญบุรี 1, ธัญบุรี 2, ทับช้าง 1 และทับช้าง 2 ภายใต้โมเดล วิ่งก่อน จ่ายทีหลัง เพื่อลดรถติดหน้าด่านเก็บเงิน ของกรมทางหลวง ทว่ากลับไม่ Flow อย่างที่คิด จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการสั่งปรับประชาชนหนักถึง 10 เท่า

โดยมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้ออกมาบ่นยาวพร้อมเตือนผู้ที่ใช้มอเตอร์เวย์รายอื่น โดยเธอได้เล่าว่าเธอนั้นได้ขับเส้นมอเตอร์เวย์สายใหม่จะผ่านด่านทับช้าง ก่อนที่จะใช้บริการช่อง M-FLOW เนื่องจากวิ่งขวามาตลอด และเป็นเส้นทึบทำให้เปลี่ยนเลนไม่ทัน เมื่อถึงช่องดังกล่าวก็มีเจ้าหน้าที่ยืนแจกใบปลิว เลยคิดว่าวิ่งไปก่อนจ่ายทีหลังได้

แต่ปัญหาก็เกิดเมื่อเธอได้แสกนคิวอาร์โค้ดในใบปลิวเพื่อจะชำระเงินก็พบว่า เธอวิ่งด่านทับช้าง 2 ด่าน ปกติจ่ายเงินด่านละแค่ 30 บาท 2 ด่าน ก็ 60 บาท รวมขาไปขากลับเป็นเงิน 120 บาท แต่ในแอพพลิเคชั่น M-FLOW กลับขึ้นว่าให้ชำระเงินทั้งหมด 724.80 บาท ค่าผ่านทาง 120 บาท ค่าปรับ 10 เท่า 600 บาท

ก่อนจะวิพากษ์วิจารณ์ว่าค่าปรับส่วนเกินนั้นจำนวนมากเกินไปหรือไม่ แค่ยังไม่รู้จักระบบใหม่ต้องถูกปรับเยอะขนาดนี้เลยหรือ ซึ่งเมื่อเธอได้ชำระเงินไปแล้วนั้น ก็ได้เข้าไปหาข้อมูล ก่อนจะพบว่าหากจ่ายเกิน 2 วัน จะโดนปรับถึง 10 เท่า ซึ่งเธอก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่จ่ายตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะตนไม่รู้จริง ๆ ว่าต้องชำระเงินในกี่วัน หากมีการประชาสัมพันธ์ที่มากกว่านี้ตนคงไม่โดนปรับเยอะขนาดนี้

ก่อนจะตั้งคำถามว่าแบบนี้เป็นการหลอกกินเงินประชาชนหรือไม่? เพราะคนที่ไม่รู้เรื่องที่เข้าไปใช้บริการ ก็ต้องมาเสียเงินค่าปรับถึง 10 เท่า ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย บอกว่าวิ่งก่อนจ่ายทีหลัง แต่กลับมาเก็บค่าปรับ ทั้งสายด่วนที่ใช้ติดต่อก็ไม่สามารถติดต่อได้ ในใบปลิวก็ไม่มีระบุว่าต้องชำระอย่างเร็วสุดกี่วัน

โดย กรณีที่ไม่จ่ายตามกำหนดนั้น จะมีการปรับ 10 เท่า ซึ่งหากมีกรณีที่มีผู้ใช้ทาง จงใจฝ่าฝืนการชำระค่าผ่านทาง จะมีระบบติดตาม ซึ่งกรมทางหลวง กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ตำรวจทางหลวง จะร่วมกันบังคับใช้กฎหมาย โดยมีโทษปรับ 10 เท่า ของอัตราค่าบริการที่ติดค้าง และในอนาคตจะมีการปรับแก้กฎหมายเพื่อเพิ่มบทลงโทษให้สูงขึ้นเหมือนมาตรฐานสากล ทั้งนี้ เบื้องต้นกรมทางหลวงอนุโลมให้วิ่งผ่านไปก่อนได้ เพียงแต่ต้องชำระเงิน ภายใน 2 วัน ถ้าเกินกำหนดจะต้องถูกปรับ 10 เท่า หรือคิดเป็นขั้นต่ำ 330 บาท

หากไม่ชำระภายใน 12 วัน จะโดน ค่าปรับ 10 เท่า + ค่าปรับ 200 บาท และถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โทษปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท เช่น ค่าผ่านทางของรถยนต์ 4 ล้อ 30 บาท + ค่าปรับ 10 เท่า (300)+ ค่าปรับ 200 บาท  = 530 บาทและโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท รวมเป็น 5,530 บาท

ขณะที่เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา เพจกรมทางหลวง ได้โพสต์ข้อความชี้แจง กรณี รถติดขัดบริเวณหน้าด่านเก็บเงินค่าผ่านทาง ว่า

เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ตั้งแต่เวลา 22.00 น. ที่ผ่านมา กรมทางหลวงได้เริ่มใช้ระบบเก็บเงินค่าผ่านทางแบบไม่มีไม้กั้น หรือเรียกว่า ระบบ M-Flow บนมอเตอร์เวย์สาย 9 ที่ด่านฯ ธัญบุรี และด่านฯ ทับช้าง ทั้งขาเข้าและขาออก รวม 4 ด่านฯ อย่างเต็มรูปแบบ ทำให้ช่องเก็บเงินสดและช่องอัตโนมัติ M-Pass และ Easy Pass ลดลงไปจากเดิม 3-4 ช่อง เพื่อทำเป็นระบบแบบไม่มีไม้กั้น M-Flow ในช่องทางขวาสุดของ

แต่ละด่านฯ และอาจทำให้ผู้ใช้ทางสับสนในการใช้ช่องทางให้ถูกต้อง เกิดการเบียดแทรกเปลี่ยนเลนช่วงก่อนเข้าด่านเก็บเงิน ส่งผลให้การจราจรหน้าด่านฯ ติดขัดในช่วงเวลาเร่งด่วนมากขึ้นกว่าเดิมนั้น

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้กรมทางหลวงเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพี่อลดผลกระทบความเดือดร้อนของประชาชนผู้ใช้ทาง และให้ทำการประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจ และเชิญชวนให้มาลงทะเบียนสมัครเป็นสมาชิกเพื่อใช้งานในช่องทางระบบ M-Flow ให้มากขึ้น

ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า กรมทางหลวงรับทราบปัญหารถติดหน้าด่านฯ ที่เกิดขึ้น และไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ โดยได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เต็มพิกัด ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กรมการขนส่งทางบก และหน่วยกู้ภัย เร่งแก้ปัญหารถติด และอำนวยความสะดวกการจราจรบริเวณหน้าด่านเก็บเงินทั้ง 4 ด่านฯ และกรมทางหลวงต้องขออภัยต่อประชาชนผู้ใช้ทางในความไม่สะดวกครั้งนี้ด้วย โดยได้

สั่งการให้ดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้

1. ปรับจำนวนช่องเก็บเงินสด และช่องอัตโนมัติ M-Pass และ Easy Pass ให้เหมาะสมสอดคล้องกับปริมาณรถผู้ใช้งานของแต่ละด่าน

2. ติดป้ายประชาสัมพันธ์เพิ่มมากขึ้นช่วงก่อนถึงด่านเก็บเงิน เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้ทางใช้ช่องทางที่ถูกต้อง โดยผู้ที่ลงทะเบียนเป็นสมาชิก M-Flow ให้ใช้ช่องขวาสุด สามารถวิ่งผ่านบริเวณด่านฯ ได้เลย ส่วนผู้ที่ใช้ช่องอัตโนมัติ M-Pass หรือ Easy Pass ใช้ช่องกลาง และเงินสดให้ใช้ช่องซ้ายสุด เป็นต้น

3. ติดตั้งแบริเออร์และกรวยยางแบ่งช่องจราจรให้ชัดเจน เป็นระยะทางล่วงหน้า 1 กิโลเมตร เพื่อให้การใช้ช่องทางเป็นระเบียบ ไม่แทรก หรือเปลี่ยนช่องทางกระทันหันก่อนถึงบริเวณด่านเก็บเงิน

4. ระดมเจ้าหน้าที่ช่วยบริการอำนวยความสะดวกเก็บเงินในช่องทางเงินสด เพื่อสามารถผ่านด่านฯ ได้รวดเร็วขึ้น

5. ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนผู้ใช้ทางมอเตอร์เวย์ สมัครลงทะเบียนเป็นสมาชิกใช้งานระบบ M-Flow ให้มากขึ้น โดยเพิ่มการแจกแผ่นพับที่หน้าด่านเก็บเงินมอเตอร์เวย์ และช่องด่านเก็บเงินทางด่วนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย รวมทั้งขอความร่วมมือแจกแผ่นพับในร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven

ด้านนายธนศักดิ์ วงศ์ธนากิจเจริญ ผู้อำนวยการกองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง กรมทางหลวง เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมทางหลวงอยู่ระหว่างการหาแนวทางแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกรณีผู้ใช้ทางที่ไม่ได้เป็นสมาชิก M-Flow แล้วมีความจำเป็นต้องขับผ่านช่อง M-Flow เนื่องจากเกิดความสับสนช่องทางวิ่งหรือไม่ทันสังเกตป้ายเตือนต่างๆ ต้องรีบไปชําระเงินย้อนหลังภายใน 2 วัน

โดยสามารถตรวจสอบยอดค้างชำระและชำระเงินได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ เวบไซต์ mflowthai.com, Mobile Application: MFlowThai และ Line OA: @mflowthai เพื่อแสดงว่าไม่มีเจตนาหลีกเลี่ยงไม่ชำระค่าผ่านทาง หากไม่ชำระตามเวลาที่กำหนดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้ การติดตั้งเลนสำหรับ M-Flow ส่วนใหญ่เป็นการติดตั้งแทนระบบ M-Pass และ EasyPass เพื่ออำนวยความสะดวกและแก้ปัญหารถติดหน้าด่าน เพราะที่ผ่านมา การจ่ายค่าทางด่วนด้วยเงินสด ทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดที่หน้าด่าน สามารถระบายรถได้ช่องทางละ 400-600 คันต่อชั่วโมง

เมื่อปรับมาใช้ M-Pass / EasyPass ก็เพิ่มการระบายรถได้ช่องทางละ 800 คันต่อชั่วโมง ซึ่งก็ยังมีปัญหาเรื่องไม้กั้น และเมื่อเปลี่ยนมาใช้ระบบ M-Flow จะช่วยให้การระบายรถทำได้มากขึ้นถึง 5 เท่าตัวของการจ่ายด้วยเงินสด หรือคิดเป็นช่องทางละ 2,000 คันต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีมาแก้ไขปัญหาเช่นเดียวกับที่หลายประเทศทำอยู่ โดยยอมรับว่าในช่วงเปิดให้บริการช่วงแรกอาจทำให้ประชาชนเกิดความไม่สะดวกและไม่คุ้นเคยกับระบบดังกล่าว จึงเร่งติดตั้งป้ายแจ้งช่องทางให้เห็นได้ชัดเจนขึ้น

สำหรับสถานะปัจจุบันพบว่าระบบ M-Flow มีผู้ลงทะเบียนสมัครสมาชิกใช้งานแล้วกว่า 80,000 ราย โดยเป็นการเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละเกือบ 10,000 ราย นับตั้วแต่เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/k6bcJZwIhGA