เจ้าของร้านลูกชิ้นเล่าทั้งน้ำตา ตัดสินใจปิดร้านหลังถูกมือมืดปาระเบิดใส่ หวั่นลูกน้อยเป็นอันตราย

นางสาวเปรมประภัสส์ ปุลิโส หรือคุณนัด โดยคุณนัด เล่าให้ฟังว่าช่วงเวลาเกิดเหตุคือช่วงเวลาประมาณห้าทุ่มของคืนวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาซึ่งขณะนั้นตนเองและลูกลูกได้กลับไปที่คอนโดที่อยู่ไม่ไกลจากร้านเพื่อพักผ่อนตามปกติ ก่อนที่จะได้รับการติดต่อจากเจ้าของบ้านที่ตนเองเช่าบริเวณชั้นหนึ่งเพื่อเปิดเป็นร้านขายลูกชิ้นว่าที่ร้านมีเหมือนแก๊สระเบิดให้เข้ามาตรวจสอบ

ตนเองจึงเข้ามาตรวจสอบแต่พบว่าไม่ใช่ แก๊สระเบิดแต่เป็นสาเหตุมาจากการถูกปาด้วยระเบิดเข้าบริเวณที่กระจกหน้าร้าน ประกอบกับเมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็พบว่าเป็นการระเบิดจากภายนอกเข้ามาในตัวร้าน ตามที่ตนเองตั้งข้อสันนิษฐานไว้ตอนแรกและที่บริเวณโต๊ะด้านหน้าร้านยังพบชิ้นส่วนของเทปพันสายไฟและพลาสติก ซึ่งตำรวจที่มาตรวจสอบในวันเกิดเหตุมีการระบุกับตนเองว่าวัสดุที่พบตกอยู่ในจุด เกิดเหตุ คล้ายกับชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่อง

ตนเองยืนยันว่าส่วนตัวไม่เคยมีปัญหาทะเลาะผิดใจหรือ บาดหมางกับใครมาก่อนและตนเองก็พักอาศัยอยู่ในละแวกนี้มานานนับ 10 ปีแต่เพิ่งตัดสินใจลงมาเปิดร้านขายลูกชิ้นที่จุดเกิดเหตุตั้งแต่ช่วงสิงหาคม เพื่อแบ่งเบาภาระของสามี ก่อนจะมาเกิดเหตุขึ้นดังกล่าว แต่ในวันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจที่มาตรวจสอบที่ร้านของตนมีการบอกกับตนเองว่าช่วงก่อนที่จะมาเกิดเหตุที่ร้านตนเองมีรับแจ้งเหตุเพราะวิวาทกันภายในซอยประชาอุทิศ 12 ซึ่งไม่แน่ใจว่าการทะเลาะดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับการระเบิดที่ร้านตนเองหรือไม่

ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ยอมรับว่าตนเองรู้สึกหวาดกลัวและเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยเวลาที่ต้องพาลูกทั้งสองมาที่ร้านขณะที่มาขายของเพราะจุดที่ระเบิดตกที่ประตูและทะลุกระจกเข้ามาเป็นจุดที่ลูกสาวมักจะใช้เป็นจุดนอนเล่นและเฝ้ารอตนเองขณะทำงาน โดยตนเองจะเริ่มมาที่ร้านตั้งแต่ 8 โมงจนถึงสามทุ่มทุกวันและมีบางวันก็อยู่ดึกถึงห้าทุ่มเที่ยงคืนเพื่อเตรียมของในการค้าขายจึงเกรงว่าหากวัน ใดที่ต้องอยู่ดึกกับลูกอีกอาจจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นและอาจจะเกิดความสูญเสียที่มากกว่านี้จึงตัดสินใจคืนสัญญาเช่าร้านนี้และจะหันไปขายออนไลน์อย่างเดียว

ในส่วนของคดีเมื่อตนเองมีการเข้าแจ้งความกับ พนักงานสอบสวนสน. ห้วยขวาง ทางตำรวจได้มีการส่งฝ่ายสืบสวนมาตรวจสอบและพูดคุยกับตนเองซึ่งฝ่ายสืบสวนสน. ห้วยขวางยืนยันว่าจะดำเนินการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาเส้นทางของผู้ที่มาก่อเหตุรวมถึงจะหากล้องที่จะบันทึกเหตุการณ์ช่วงที่เกิดการปาระเบิด เพื่อนำมาใช้ติดตามตัวคนร้าย

เบื้องต้นตำรวจได้ระบุว่าให้ตนเองทำใจว่าอาจจะไม่สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้เนื่องจากยังไม่พบวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ขณะมีการปาระเบิด ทำให้ยากต่อการสืบสวน แต่ตนเองก็อยากขอให้ทางตำรวจเร่งติดตามจับกุมตัวคนที่มา ก่อเหตุเพื่อมาดำเนินคดีเพราะไม่อยากให้ไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก ขณะที่ทีมข่าวได้ลงพื้นที่เข้าไปในซอยประชาอุทิศ 12เพื่อสอบถามชาวบ้านภายในซอยถึงเหตุการณ์ดังกล่าวโดยชาวบ้านภายในซอยต่างบอกตรงกันว่าไม่รู้ว่ามีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทกันในคืนดังกล่าวและไม่มีใครเห็นเหตุการณ์จึงยังไม่สามารถระบุได้ว่าในช่วงคืนก่อนเกิดเหตุมีการเพราะวิวาทกันภายในซอยจริงหรือไม่

ขณะที่ด้าน พันตำรวจเอกยิ่งยศ สุวรรณโณ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบจากชุดสืบสวนที่ลงพื้นที่รับผิดชอบคดีนี้ยังไม่สามารถให้ข้อมูลในรายละเอียดได้ว่าจะเป็นระเบิดที่ถูกใช้ในการชุมนุมจริงหรือไม่รวมถึงสาเหตุของการมาก่อเหตุที่ร้านว่ามาจากสาเหตุใดเนื่องจากฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างการหาหลักฐานประกอบสำนวนคดี