สังคม

ลูกสาวงง! พ่อนอนไอซียู แต่เงินหายจากบัญชี วอนจนท.ตามตัวคนร้าย

โดย sitanan_k

9 ก.พ. 2565

347 views

นางวิไลวรรณ อายุ 35 ปี บุตรสาว พร้อมด้วยนางสาวจ๋า อายุ 40 ปื หลาน เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.ยุทธพล บุญเกิด รอง สว.สอบสวน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังจากที่พ่อได้เข้ารักษาตัวที่ รพ.แห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอบางละมุงแล้ว บัตรเอทีเอ็มในกระเป๋าหายไป ทั้งยังมีการถอนเงินออกจากบัญชีไป 4,500 บาท ทั้งๆที่พ่อนอนรักษาตัวอยู่ห้องไอซียู ไม่สามารถลุกออกจากเตียงได้ รวมถึงธนบัตรเก่าสะสมของพ่อยังหายไปอีกด้วย







จากการสอบถาม บุตรสาวและหลานสาว ทราบว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมาบิดาได้เข้ามารักษาตัวที่รพ.แห่งนี้ ด้วยอาการป่วยด้วยโรคประจำตัว พ่อยังมีสติดีทุกอย่าง โดยพ่อจะมีกระเป๋าสตางค์โทรศัพท์ 1 เครื่องติดตัวไว้ ในกระเป๋าสตางค์ ก็จะมีเอกสาร เงินสดจำนวนหนึ่ง ธนบัตรเก่าสะสมอยู่อีกหลายใบ ซึ่งบัตรเอทีเอ็มพ่อจะจดรหัสใส่กระดาษไว้ในซองบัตร หลังจากเข้าทำการรักษาตัวได้ 3 วัน พ่อมีอาการทรุดหนัก ทางรพ.ได้แจ้งมายังญาติ จะต้องนำพ่อเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ทางรพ.งดญาติเยี่ยมทุกกรณี หากทางญาติจะสอบถามอาการ หรืออยากเห็นพ่อ ก็จะให้โทรวิดีโอคอล ผ่านโทรศัพท์ของพ่อ ซึ่งทางพยาบาลเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินของพ่อไว้ทั้งหมด







ต่อมาในช่วงเที่ยงของวันที่ 8 ก.พ. ทางรพ.ได้แจ้งกับทางญาติว่า พ่อได้เสียชีวิตแล้ว ติดต่อให้ทางญาติมารับทรัพย์สินของผู้ตายกลับ และทำเรื่องนำศพไปบำเพ็ญกุศล แต่เมื่อรับกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์กลับมาแล้ว พบว่าบัตรเอทีเอ็ม ธนบัตรเก่าหลายใบ เงินสด ได้สูญหายไปอีกทั้งยังมีข้อความแจ้งเตือน การถอนเงินจำนวน 4,500 บาท ออกจากบัญชี เมื่อวันที่ 2 ม.ค. เวลา 18:15 น. ซึ่งเป็นวันที่พ่อนอนไม่ได้สติอยู่ในห้องไอซียู และห้ามญาติเยี่ยม นอกจากนี้แอปพลิเคชั่นธนาคารยังถูกลบทิ้งอีกด้วย




เบื้องต้นบุตรสาวได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ เพี่อขอความเป็นธรรมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากแจ้งความแล้ว ได้เดินทางไปยังรพ.ที่พ่อเข้ารักษาตัว โดยขึ้นไปที่ชั้น 5 เพื่อสอบถามพยาบาลกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ได้รับการชี้แจงว่า ไม่ทราบจริงๆว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ซึ่งพ่อตอนที่เข้ามาทำการรักษาตัวที่รพ. ก็มีการย้ายมาจากตึกหน้า ก่อนที่จะมารักษาตัวอยู่ที่ชั้น 5 ของตึกนี้ และพยาบาลเจ้าหน้าที่ก็มีการสลับเปลี่ยนเวรกันตลอด พร้อมทั้งขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้ ทางพยาบาลที่ประจำตึก ก็อยากรู้ว่าเป็นฝีมือใคร




ในส่วนของบุตรสาว ได้ชี้แจงกับทางพยาบาลโดยมั่นใจว่า ไม่มีญาติคนไหนที่จะมากระทำการเช่นนี้ได้ เนื่องจากตั้งแต่คุณพ่อเข้ามารักษาตัวอยู่ในรพ.นี้ 14 วัน ทางรพ.ไม่อนุญาติให้ญาติเข้าเยี่ยม กระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์ของพ่อ ทางพยาบาลก็เป็นผู้ดูแลเก็บรักษาไว้ แล้วมาเกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร หากเป็นการกระทำของพยาบาลหรือเจ้าหน้าที่คนใดคนนึงในรพ.ดังกล่าวจริง ก็เป็นเรื่องที่เสื่อมเสียมาก หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับคนไข้รายอื่นได้อีก




ส่วนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้รับแจ้งความไว้ พร้อมทั้งจะได้ทำเอกสารถึงธนาคารต้นสังกัด ขอดูกล้องวงจรปิด จากวันและเวลาดังกล่าวที่มีการถอนเงินออกไปจากบัญชีผู้ตาย เพื่อจะได้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News