เลือกตั้งและการเมือง

"จะนะรักษ์ถิ่น" รายงานตัวตามนัด เหตุชุมนุมหน้าทำเนียบฯ ขอ ตร.สอบพยานเพิ่ม เลื่อนส่งสำนวนเป็น 2 มี.ค.

โดย pattraporn_a

26 ม.ค. 2565

48 views

เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น 37 คน เดินทางไปรายงานตัวตามหมายเรียก ที่ สน.ดุสิต จากเหตุการณ์ชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมหรือพีมูฟ มาร่วมแสดงจุดยืนและให้กำลังใจ


เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นพร้อมทีมทนายความ เข้ารายงานตัวที่บริเวณหน้า สน.ดุสิต และได้จัดปราศรัยย่อยพร้อมย่างกุ้ง โดยทีมทนายความ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนนัดมารับทราบข้อกล่าวหา แต่เมื่อมาถึงพนักงานสอบสวนแจ้งว่า พร้อมส่งสำนวนคดีให้อัยการแล้ว ซึ่งได้โต้แย้งขอให้สอบปากคำพยานเพิ่มอีก 3 ปาก พนักงานสอบสวนจึงเลื่อนส่งสำนวนคดีให้อัยการไปเป็นวันที่ 2 มีนาคมนี้


โดยนายสมบูรณ์ คำแหง ที่ปรึกษาเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น กล่าวว่า ชาวบ้านมาเรียกร้อง ทวงคำสัญญาแต่กลับต้องถูกดำเนินคดี ความหวังเล็ก ๆ ที่คาดว่าตำรวจอาจไม่สั่งฟ้อง หรือลดข้อกล่าวหา แต่ก็ไม่มี สะท้อนให้เห็น ตั้งแต่มีความพยายามไม่ให้ชาวบ้านมารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้


สำหรับข้อกล่าวหาที่พนักงานสอบสวนแจ้งแก่เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นมีทั้งหมด 6 ข้อหา คือ


- ความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 37


- ความผิดฐานร่วมกันติดตั้ง แขวน วางหรือกองสิ่งใดในเขตทางหลวงในลักษณะที่เป็นการกีดขวางหรืออาจเป็นอันตรายแก่ยานพาหนะ


- ความผิดฐานร่วมกันกระทําการปิดกั้นทางหลวงหรือวางวัตถุที่แหลมหรือมีคม หรือกระทําด้วยประการใด ๆ บนทางหลวง ในลักษณะอาจเกิดอันตรายหรือเสียหาย แก่ยานพาหนะ หรือบุคคล


- ความผิดฐานร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะ จนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจร


- ความผิดร่วมกันวาง ตั้ง ยื่น แขวนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร


- ร่วมกันติดตั้ง ตาก วาง หรือแขวนสิ่งใด ๆ ในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอํานาจที่กฎหมายให้อํานาจไว้โดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร



ทั้งนี้ ก่อนเข้ารายงานตัว ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือP-Move ได้มาร่วมให้กำลังใจ และอ่านแถลงการณ์ ใจความสำคัญระบุว่า ขอยืนเคียงข้างเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ร่วมให้กำลังใจในนามเพื่อนร่วมชะตากรรมและในนามประชาชน ขอแสดงจุดยืนสนับสนุนการเคลื่อนไหวในทุกรูปแบบที่เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นดำเนินการหลังจากนี้


ทั้งยังขอส่งสารไปยังรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ยุติการดำเนินคดีกับเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นทั้งหมดทันที และหยุดบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยอ้างสถานการณ์โควิด แล้วนำมาจัดการกับผู้ชุมนุม ซึ่งมีสิทธิในการชุมนุมสาธารณะและสิทธิในการจัดการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ เป็นสิทธิที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมและอนุสัญญาระหว่างประเทศ ฉะนั้นการปกป้องทรัพยากรจึงไม่ผิด การปกป้องบ้านเกิดเป็นสิทธิของประชาชน


ด้าน นางสาวไครียะห์ ระหมันยะ ตัวแทนเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ประกาศจะไปให้กำลังใจกลุ่ม P-Move ที่แยกนางเลิ้ง หลังเสร็จสิ้นการรายงานตัวในเย็นวันนี้ด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News