‘แอนนา’ รับทราบข้อหาฉ้อโกง ปมกล่อมสุ่มทิพย์แจกทอง แจงแมสเซนเจอร์รถล้ม ทำทองคำ 4 ล้านหล่นหาย

แอนนา รับทราบข้อหา ฉ้อโกง ลูกค้า จัดโปรซื้อเยอะ สามารถซื้อทองได้ราคาถูก สุดท้าย ไม่มีทองให้ลูกค้า เสียหายกว่า 15 ล้าน เจ้าตัว แจง ยอมรับทำธุรกิจล้ม หลังแมสเซ็นเตอร์ส่งทอง รถล้มทำทองหายมูลค่า 4 ล้านบาท

เปิดใจเครียดมากจนเกือบคิดสั้น หลังสัมภาษณ์เสร็จมีอาการจะเป็นลม ด้านแฟนแอนนา คนแจ้งความ เผย แมสเซ็นเจอร์ประสบอุบัติเหตุ ไม่รู้สึกตัว ทองทั้งหมดก็หาไม่เจอ


แอนนา วรินทร วัตรสังข์ หรือแอนนา ทีวีพูล อินฟูลเอ็นเซอร์ชื่อดัง พร้อม พุดเดิ้ล ยุพดี เพื่อนสนิทดาราสาวผู้แตงโม ภัทรธิดา เข้าพบ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกในคดีจากการทำธุรกิจออนไลน์  เมื่อมาถึงแอนนาก็เข้าพบพนักงานสอบสวนทันที

ภายหลังให้ปากคำร่วม 1 ชั่วโมง พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวว่า วันนี้ตำรวจออกหมายเรียกแอนนา วรินทร มารับทราบข้อกล่าวหาได้ ฉ้อโกง,ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์

ซึ่งจากการสอบปากคำทราบว่าเป็นคดีความเกี่ยวกับอาหารเสริมความงามและธุรกิจที่แอนนาทำอยู่ โดยเฉพาะ บก.สอท.1 มีทั้งหมด 9 คดี มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 8 ล้านบาท แต่ยังมีคดีความอีกหลายท้องที่ทั่วประเทศ รวมมูลค่าความเสียหาย 15 ล้านบาท

ส่วนประเด็นเรื่องทองที่ปรากฎนั้น เจ้าตัวชี้แจงว่าทองดังกล่าวเป็นของสมมนาคุณลูกค้าที่ซื้อของเยอะ จะได้สิทธิ์ ซื้อทองรูปพรรณ ในราคาพิเศษ โดยแอนนา มีหลักฐานการซื้อทองวันละหลายล้านบาท และเคยแจ้งความไว้ที่ สน.คันนายาว เมื่อปี 2565 เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องทอง

 พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวอีกว่า ปกติการแจกของในลักษณะนี้จะไม่สามารถทำได้หากไม่ได้ขออนุญาตกับกระทรวงมหาดไทย โดยกรณีแอนนา ได้ขออนุญาตไว้ในปี 2566 แต่ต้องตรวจสอบย้อนหลังไปในปี 2565 ด้วยว่าได้ขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ พร้อมตรวจสอบคดีความในท้องที่อื่นเพิ่มเติม ซึ่งวันนี้แอนนาเองก็มีความเครียด แต่ได้เดินทางมาเข้าพบกับตำรวจเอง

ต่อมาแอนนา วรินทร ออกมาเปิดเผย ข้อมูลว่า ไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งเรื่องเกิดจากการบริหารธุรกิจที่ผิดพลาด เพราะไม่ทำบัญชีรายรับรายจ่ายให้ดี อีกทั้งตนชอบแจก ใจใหญ่ในการทำธุรกิจ โดยกรณีนี้เริ่มจากการส่งของล่าช้า ตนก็ไม่มีเจตนาไม่ส่งของช้า ส่วนเรื่องกล่องสุ่มทิพย์ ยืนยันว่าตนทำจริง แต่เป็นสกินแคร์และอาหารเสริมที่ระบุรายละเอียดชัดเจน

แอนนา วรินทร ชี้แจงถึงประเด็นเรื่องทองรูปพรรณ ไม่ได้ทำกล่องสุ่มทอง แต่เป็น โปรโมชั่นให้ลูกค้า ที่ซื้อของเยอะ ก็จะได้สิทธิ์ ซื้อทองในราคาถูกกว่าปกติ เหมือนแจกคืนกำไรสำหรับลูกค้าประจำเท่านั้น

แต่ปรากฎว่า ธุรกิจต้องมาสะดุด เมื่อวันที่ 24 ก.ย.2565 แมสเซ็นเจอร์ที่คอยรับส่งของกับตนเป็นประจำ เข้ามารับทองมูลค่า 4 ล้านบาทในเวลาประมาณตีสอง เพื่อไปส่งลูกค้า ที่ ไปรษณีย์ สาขาแจ้งวัฒนะที่ เปิด 24 ชม. โดยแมสเซ็นเจอร์คนนี้ เป็นคนที่ใช้บริการประจำ และรู้ว่าภายในมีทองรูปพรรณ แต่แมสเซ็นเจอร์ ประสบอุบัติเหตุรถล้มระหว่างทางและของหายทั้งหมด ซึ่งแมสเซ็นเจอร์ เคยไปส่งทองแบบนี้หลายครั้ง โดยตนมีพยานหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดบางช่วง ที่บ้านขณะแพ็กทองเพื่อส่งให้ตำรวจไปแล้ว

ผู้สื่อข่าว ถามว่าทองมูลค่า 4 ล้าน ทำไมไว้ใจให้แมสเซ็นเจอร์ไปส่ง และส่งเวลากลางคืน และไม่ได้แจ้งความเอาผิด แมสเซ็นเจอร์คนนี้ด้วย ดูแปลกๆหรือไม่

แอนนา บอกว่า ถ้าคนรู้จักแอนนา จะรู้แอนนาเป็นคนแบบนี้ ที่ “ไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีกับแมสเซ็นเจอร์เพราะตนไม่ทราบว่าจะต้องทำอย่างไร และแม่บอกให้อโหสิกรรม แต่ตอนนี้กรรมมาตกที่แอนนา เพราะตอนนี้ยังหาทองไม่พบจริงๆ” ใครหาเจอก็เอามาคืนนะคะ ช่วงนี้แอนนาก็ยกมือไหว้

ยอมรับว่าพลาดเองที่ไม่แจ้งลูกค้าเพราะเกรงจะส่งผลต่อการทำธุรกิจ ทั้งนี้ตนจะเร่งขายสินค้าเพื่อนำเงินไปซื้อทองมาคืนลูกค้าที่ดำเนินคดีไว้ และจากปัญหานี้ ทำให้ตนหมดเงินหมดทองและทรัพย์สินที่สะสมมา ตอนนี้ เหลือเงินติดตัวในบัญชี 25 บาท ชีวิตมันหมดแล้ว

 “ยอมรับตัวเองเคยคิดสั้น พร้อมเปิดภาพบาดแผลที่เคยทำร้ายตัวเองให้สื่อมวลชนดู บอกว่า หนูพยายามเข้มแข็งในทุกวัน คิดว่าทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้”

แต่สุดท้ายแล้วเราต้องอยู่ ไม่งั้นลูกค้าจะได้ของยังไง ตอนนี้ก็ยังไม่สบายใจ หนูไม่ได้กลัวคุก เพราะคุกก็คือคุก แต่คืนของให้ลูกค้าคือจุดประสงค์หลัก พร้อมเปิดภาพบาดแผลที่เคยทำร้ายตัวเองให้สื่อมวลชนดู

จากนี้ก็จะพยายามทำงานหาเงินโอนคืนลูกค้า ทั้งหมด และจะทำให้ดีที่สุด หลังสัมภาษณ์ คุณแอนนา มีอาการหน้ามึด คล้ายจะเป็นลม นักข่าวต้องหายาดม หาน้ำให้ดื่ม


ขณะเดียวกันทีมข่าวสอบถาม เจ้าของคดีที่ สน.คันนายาว ระบุว่า คดีนี้ มีการแจ้งความเรื่องแมสเซ็นเจอร์ ประสบอุบัติเหตุ และทองหาย แต่ไม่ได้ดำเนินคดีกับแมสเซ็นเจอร์ ซึ่งการติดตามหาทองนั้น จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุก็ไม่มีใครพบเห็น

----------------------------------------------

ขณะที่ น้อง-ธัญญารัตน์ ถาม่อย ผู้สื่อข่าว PPTV ซึ่งติดต่อแมสเซนเจอร์คนดังกล่าวได้  ระบุว่า  “แมสเซ็นเจอร์” ที่แอนนาอ้างว่าจ้างไปส่งทอง 4 ล้าน ส่งหลักฐานมาให้เรา ยืนยันว่าเกิดอุบัติเหตุจริง  แต่ตั้งข้อสงสัยว่าทำไมวันเกิดเหตุตัวเองถึงไม่ได้สติเลย ?


• “กาย” อายุ 27 ปี เล่าว่าปกติตัวเองทำงานขี่จักรยานยนต์ส่งของเป็นอาชีพอยู่แล้ว จนได้มารับส่งพัสดุให้แอนนาราว 1 ปี

• ส่วนใหญ่จะติดต่อผ่าน “แม็ก” แฟนของแอนนา ช่วงหลังมีการให้ไปรับทองคำจากร้านทอง เป็นลักษณะทองแท่งที่ใส่ในกล่องสุ่มด้วย

วันเกิดเหตุ 24 กันยายน 65

• กายเล่าว่าราว 3 ทุ่ม “แม็ก”  โทรมาบอกให้ซื้อแชมเปญเข้าไปที่บ้าน ไปถึงไม่เจอแอนนาเจอแต่แม็กและแอดมินเพจ

• จากนั้นถูกชวนให้นั่งดื่มด้วยกันก่อนเพราะฝนตก เขาดื่มเบียร์ไป 4 กระป๋อง ดื่มเหล้านิดหน่อย (ก่อนหน้านี้ไม่เคยถูกชวนลักษณะนี้)

ไปส่งของตอนเมา

• ราวตี 2 เขายอมรับว่าตัวเองอยู่ในสภาพมึนเมาแต่ก็ได้ขี่จักรยานยนต์ออกจากบ้านแอนนา เพื่อไปส่งของเป็นกล่องพัสดุเล็กๆ หลายกล่องใส่รวมในถุงพลาสติกขนาดใหญ่ ไม่ได้ถามว่าคืออะไร

• กายขี่รถมุ่งหน้าไปที่ไปรษณีย์หลักสี่ แจ้งวัฒนะ ซึ่งเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง แต่ระหว่างทางรู้สึกไม่ได้สติ แล้วเกิดรถล้มแถวสะพานข้ามแยก กม.6 รู้ตัวอีกทีที่โรงพยาบาล

เฉลยว่าพัสดุในกล่องคือทองมูลค่า 4 ล้าน

• เที่ยงวันเดียวกัน “กาย” เล่าว่า “แม็ก” แฟนของแอนนาติดต่อมาบอกว่าให้ไปช่วยเก็บของโดยที่บ้าน โดยไม่ได้ถามเรื่องของที่เอาไปส่ง

• ตัวเองจึงส่งรูปสภาพฟันหัก แผลเต็มหน้ากลับไปให้ดูว่ารถล้ม และบอกให้อีกฝ่ายรีบไปดู “รถกับของซึ่งอยู่ในกระเป๋าติดหลังรถ” ที่ สน.คันนายาว

• ต่อมา “แม็ก” จึงบอกเขาว่าของที่ให้ไปส่งคือ “ทองคำมูลค่า 4 ล้านบาท” พยายามบอกให้สารภาพ และเอาของมาคืน เขาตกใจมากและได้ยืนยันกลับไปว่าไม่ได้เอาไป


นัดไปวัดพระแก้ว

•  กายบอกว่าเขาเข้าได้ให้ปากคำกับตำรวจ สน.คันนายาว ถึง 2 วัน เล่าไทม์ไลน์เหตุการณ์ทั้งหมด ยืนยันว่าไม่ได้เอาของไป

• ส่วนแม็กก็ยังคงพยายามพูดในลักษณะให้ยอมรับ โดยบอกว่า “ถ้ากล้าสาบาน ไปวัดพระแก้วกัน” ซึ่งเขาก็ตอบตกลง

ขาดการติดต่อ

• “กาย” เปิดหลักฐานที่พยายามติดต่อทางฝ่ายแอนนา ผ่านไลน์แม็กเรื่อยๆ ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายน 65 ต้นเดือนตุลาคม 65

• ต้นเดือนพฤศจิกายน 65 เขาทิ้งเบอร์ของภรรยาไว้ เพราะโทรศัพท์พัง แต่ก็ยังไม่สามารถติดต่ออีกฝ่ายได้เลย

• ข้อความท้ายๆที่ส่งไป วันที่ 7 พฤศจิกายน คือ “รับสายหน่อยพี่ ผมมา สน. กับ (ชื่อลูกสาว) มันรอจนงอแงแล้ว”

กล้องวงจรปิดที่หายไป กับ จยย. ปริศนา

• กายบอกว่าระหว่างนั้นตัวเองไป สน.คันนายาวบ่อยมาก เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ แต่ที่สำคัญคือกังวลเรื่องทองที่ไม่รู้ว่ามีจริงมั้ย และหายไปได้ยังไงกันแน่

•  นอกจากนั้นคือการหาหลักฐาน ซึ่งปรากฎว่าตำรวจไปพบว่าระหว่างทางก่อนรถกายจะล้ม “มี รถ จยย. คันหนึ่งขับตามมาเป็นระยะ”

• ส่วน “กล้องวงจรปิด” ที่บ้านของแอนนา ตำรวจได้ไปขอมาตรวจสอบแล้ว แต่ได้คำตอบว่า “กล้องเสีย” จนมารู้ข่าวอีกทีคือวันนี้ที่แอนนาไปให้ปากคำกับตำรวจและพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา

.ทำไมวันเกิดเหตุถึงไม่ได้สติเลย

• “กาย” ยังข้อสังเกตว่าในวันเกิดเหตุ “ทำไมตัวเองรู้สึกไม่ได้สติเลย” ทั้งที่ไม่ได้ดื่มเยอะมากและหลังจากนั้นก็แทบจำเหตุการณ์อะไรไม่ได้  

• “กาย” ตั้งคำถามว่าถ้าให้ส่งทอง 4 ล้านจริง ทำไมถึงให้ส่งในเวลานั้น ขณะที่ตัวเองอยู่ในสภาพมึนเมา หรือจริงๆแล้วตัวเองแค่ตกเป็นเครื่องมือ?

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/eENsrZBjzik