เรียกบัญชีม้า ตุ๋น 'ต๋อง ศิษย์ฉ่อย' รับทราบข้อหา ส่วนที่เหลืออีก 10 ราย นัด 29 พ.ค.นี้

พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง เปิดเผยว่าตำรวจได้เชิญผู้ต้องหาหญิง 1 ราย มารับทราบข้อหาตามความผิด พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2566 ห้ามมิให้ผู้ใดเปิดบัญชี บัตรอิเลคทรอนิกส์ กระเป๋าเงินอิเลคทรอนิกส์ โดยไม่ได้มีเจตนาใช้เพื่อตนและห้ามไม่ให้ผู้ใดยินยอม ให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้ซิมโทรศัพท์ของตน ในทั้งที่รู้หรือควรจะรู้ ซึ่งอาจจะนำไปใช้ในการทุจริตหรือทำผิดกฎหมาย ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีเป็นผู้เปิดบัญชีม้าแถวแรกให้

นายวัฒนา ภู่โอบอ้อม หรือ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย นักสนุกเกอร์อาชีพชาวไทย ที่ได้เข้าแจ้งความว่าถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกให้โอนเงิน โอนเงินเข้าบัญชีรวม 5บัญชีจำนวน 10 ครั้งเป็นเงินกว่า 3.2 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา



พ.ต.อ.เจษฎา กล่าวว่าขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้ต้องหาคนดังกล่าว ส่วนรายละเอียดจะมีการชี้แจงให้ทราบ พร้อมระบุคดีดังกล่าวมีผู้ที่เปิดบัญชีม้าแถวแรก2คน โดยตำรวจได้มีการออกหมายเรียกแล้ว แต่อีกรายไม่มีการติดต่อกลับจึงเตรียมจะออกหมายจับตามขั้นตอน ส่วนผู้ต้องหาเปิดบัญชีม้าแถวสองถึงสี่พบว่ามี 10 ราย พนักงานสอบสวนนัดมาสอบปากคำและแจ้งข้อหาในวันจันทร์ที่ 29 พ.ค.นี้



ตำรวจพบแก๊งคอลเซนเตอร์นำเงิน ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ผ่านบัญชีม้า7บัญชีมไปลงทุนซื้อคริปโตเคอเรนซี่ ด้านสาววัย19ปี เจ้าของบัญชีม้าแถวแรกอ้างถูกเพื่อนนำบัตรปชช.แอบเปิดบัญชี -​ ออกหมายเรียกเพิ่มอีก3ราย



พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง เปิดเผยความคืบหน้ากรณี นายวัฒนา ภู่โอบอ้อม หรือ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย นักกีฬาสนุกเกอร์ทีมชาติไทย ถูกแก็งคอลเซนเตอร์ หลอกลวงมูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท ว่าขณะนี้ น.ส.สุดารัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ชาวจังหวัดสุโขทัย อาชีพรับจ้างทั่วไป ผู้ต้องหาเจ้าของบัญชีม้าแถวที่ 1 ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก พนักงานสอบสวนได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมาย และจัดให้มีทนายความเข้าร่วมและให้คำปรึกษา สำหรับการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ ซึ่งรับว่าตนแป็นจ้าของบัญชีธนาคารที่รับโอนเงินจากการที่ผู้เสียหายถูกหลอกลวงให้โอนมา แต่บัญชีธนาคารของตน ได้ถูกเพื่อนชื่อ น.ส.รัชนีกร  หลอกลวงนำเอาภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อนำไปสมัครเล่นเกมส์ แต่มาทราบภายหลังว่า น.ส.รัชนีกรฯ นำภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคารดังกล่าว ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้หลอกลวงผู้เสียหายแต่อย่างใด



พ.ต.อ.เจษฎา กล่าวว่าวันนี้ (26 พ.ค.66) พนักงานสอบสวนจะได้ออกหมายเรียก น.ส.รัชนีกร (ขอสงวนนามสกุล)พร้อมกับผู้ต้องหาเจ้าของบัญชีม้าแถวที่ 5-7 รวม 3 ราย คือ น.ส.รัชนีกร ( สงวนนามสกุล), น.ส.วรรณยา (ขอสงวนนามสกุล) และ น.ส.นิตย์ (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งโดยก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้ทำการออกหมายเรียกผู้ต้องหาเจ้าของบัญชีม้าแถวที่ 2-4 จำนวน 10 ราย โดยได้นัดหมายให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันจันทร์ ที่ 29 พ.ค. 66 นี้



ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นบุคคลต่างด้าวที่เป็นเจ้าของบัญชีม้าแถวที่ 5-7 อีกจำนวน 7 ราย อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบบุคคลขอข้อมูลการเปิดบัญชีกับทางธนาคาร อีกทั้งจะได้ตรวจสอบข้อมูลเส้นทางการเงินกับบริษัท คริปโตเคอเรนซี่ อีกจำนวน 2 แห่ง ที่แก๊งคนร้ายนำเงินที่ได้ไปลงทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิตอล



ส่วนเงินจำนวน 3.2 ล้านบาทของ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ตำรวจตรวจสอบเส้นทางการเงินของบัญชีม้าแล้วพบว่าเงินของต๋อง ศิษย์ฉ่อย อยู่ในบัญชีม้าแถวที่ 7 ส่วนจะติดตามเอาคืนมาได้หรือไม่ยังไม่ยืนยัน แต่ได้ติดต่อให้เจ้าตัวทราบแล้วว่าตำรวจมีการดำเนินคดีสอบปากคำผูัเกี่ยวข้องบัญชีม้าแล้ว