กลุ่มผู้สูงวัยขอนแก่น ร้องถูกหลอกขุดดิน สปก. จนตกเป็นผู้ต้องหา

หญิงสูงวัยขอนแก่น ร้องข่าว 3 มิติ ตรวจสอบ หลังถูกหญิงอ้างเป็นคนใกล้ชิดอดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภาค 4 หลอกจะขุดลอกหน้าดิน สปก.เพื่อขุดบ่อให้ แต่กลับขุดดินลึกเพื่อขายถมที่ริมถนนมิตรภาพ ทำให้เจ้าของที่ถูกดำเนินคดี ทั้งที่ไปให้การในฐานะพยาน ขณะที่ตำรวจชี้แจง ต้องแจ้งความผู้ครอบครอง ตามที่สปก.ร้องทุกข์ แต่พร้อมจะสอบเพิ่มหากมีคำสั่งจากอัยการ

หญิง 4 คน อายุระหว่าง 57-59-63 และ 76 เป็นชาวอำเภอบ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น ร่วมกันร้องเรียนข่าว 3 มิติ ให้ติดตามตรวจสอบ หลังจากถูกดำเนินคดี ข้อหาลักทรัพย์ บนที่ดินสปก.ที่ตัวเองครอบครองอยู่ ต้นเหตุมาจากการขุดบ่อดินบนที่ดิน สปก. เกินกว่า 5เปอร์เซนของพื้นที่ครอบครอง และยังนำดินออกนอกพื้นที่

นางผัน สัมฤทธิ์ ในวัย 76 ปี พาทีมข่าวไปดูที่ดินสปก.เนื้อที่ 6 ไร่ 3 งาน ทำกินมากว่า 28 ปี โดยบอกว่าเดือนมีนาคมปีที่แล้ว มีหญิงคนหนึ่งมาตระเวนตามทุ่งนา ถามเจ้าของที่ดินเพื่อจะขุดปรับหน้าดินหรือทำบ่อน้ำให้ ซึ่งเจ้าของที่แจ้งแล้วว่าเป็นที่ดินสปก. แต่หญิงคนดังกล่าวอ้างว่าทำได้ ทำให้ชาวบ้านเชื่อสนิทใจ ประกอบกับอยากได้บ่อน้ำไว้ทำการเกษตรจึงยอมให้ขุด

ปัญหาที่เกิดคือคนกลุ่มดังกล่าวขุดดินไปลึกมากเกินกว่าที่ตกลงกันว่าจุดขุดลึก1 มือรถแบ็คโฮ ทำให้ชาวบ้านแจ้งยกเลิก และตัดสินใจควักเงินลูกหลานรวม 5หมื่น มาถมดินคืน แต่ต่อมาก็มีผู้รองเรียนไปยังสำนักงาน สปก.ว่ามีการขุดดินสปก.ไปขาย ทำให้ถูกดำเนินคดี

นอกจากบ่อของนางผันแล้ว ที่ดินสปก.ของนางวิลัย แปยาว และนางทองขัน สินทร สองคนพี่นอง ก็ถูกหญิงคนเดียวกันอ้างว่าจะขุดเปิดหน้าดินให้ และอ้างว่าเคลียร์กับ สปก.แล้ว ทำให้ชาวบ้านที่ต้องการบ่อน้ำยินยอม จนที่สุดก็ตกเป็นผู้ต้องหา เพราะคนขุดนำดินไปขายถมที่ดินเพื่อสร้างกิจการขนส่ง ริมถนนมิตรภาพ

ไม่ต่างจากบ่อของนางสยาม มีคำทอง อายุ 63 ปี ซึ่งมีคนไปตามถึงบ้าน อ้างว่าจะขุดบ่อเล็กๆ ลึกประมาณ 1 มือรถแบ็คโฮให้ แต่กลายเป็นบ่อใหญ่และเป็นต้นเหตุให้ถูกดำเนินคดี

ข่าว 3 มิติ พบว่าหญิงคนที่อ้างว่าเป็นคนใกล้ชิดกับอดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ที่เกษียณไปแล้ว ได้ไปขุดที่นาของนายดุสิต ศรีดี อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งขณะนั้นนายดุสิตมอบให้นางสำเภา อุดม เป็นคนทำกิน

นายดุสิต ซึ่งไปพบคนขุดดินได้ถ่ายภาพรถแบ็คโฮ และคนขับ ส่วนหญิงคนนั้น พบว่าเป็นคนเดียวกับที่ไปขุดดินสปก. เดิมทีนัดตกลงจะชดใช้ แต่สุดท้ายกลับหลบหนี ซ้ำนางสำเภา ที่ไปให้การเป็นพยานกลับถูกแจ้งข้อหาเป็นผู้ต้องหาแทน ทำให้นายดุสิต ต้องร้องขอความเป็นธรรมด้วย

ข่าว 3 มิติ สอบถามข้อเท็จจริงจากผู้กำกับการภูธรบ้านแฮด ยืนยันว่าสปก.เป็นเจ้าทุกข์ แจ้งความดำเนินคดีผู้ครอบครองทำกินที่ดิน ส่วนคนที่ถูกอ้างว่าเป็นคนขุดดิน ถูกสอบเป็นพยาน โดยล่าสุดสอบปากคำเพิ่ม 1สำนวนตามคำสั่งอัยการ และพร้อมจะสอบเพิ่มอีกหากพนักงานอัยการแจ้งมา

ข่าว 3มิติ มีข้อมูลว่าพนักงานอัยการส่งหนังสือให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำเพิ่มเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เพื่อให้ได้รายละเอียดของกลุ่มคนที่อยู่เบืองหลังการขุดดินทั้งหมด นอกเหนือจากผู้สูงอายุ ที่เข้าใจว่าตัวเองไปใหการเป็นพยาน แต่กลายเป็นผู้ต้องหา และรอสำนวนกลับจากตำรวจกระทั่งการสอบเพิ่มเพิ่งมีขึ้นเมื่อวานนี้ พร้อมกับเรียกชาวบ้านมาชี้ตัวภาพหญิงคนที่มาหลอกขุดที่ดิน ที่อ้างตัวว่าเป็นคนใกล้ชิดอดีตรองผู้บัญชาการภูธรภาค 4

ขณะเดียวกันแหล่งข่าวก็ที่เชื่อได้ ก็ระบุว่าวันนี้มีความพยามจากอดีตข้าราชการ เพื่อจะขอพบพนักงานอัยการเจ้าของสำนวนคดีแต่ละคน ซึ่งเกรงว่าจะเป็นการวิ่งเต้นเพื่อช่วยคนใกล้ชิดและทำให้ชาวบ้านต้องเปนผูต้องหาฝ่ายเดียว จึงเริ่มเรียกร้องให้ตั้งองค์คณะเพื่อถ่วงดุลย์ในฐานะเป็นคดีสำคัญ เพื่อประโยชน์แก่ความยุติธรรมแก่ชาวบ้านด้วย