ยังจับไม่ได้ "หัวหน้า รปภ." ล่วงละเมิดลูกบ้านในคอนโดฯ เปิดประวัติเจอคดีโชกโชน

ความคืบหน้าเหตุคนร้าย ซึ่งเป็นหัวหน้า รปภ. จับลูกบ้านใส่กุญเเจมือ บังคับขืนใจเเละก่อเหตุล่วงละเมิดภายในห้องพักชั้น 7 ของคอนโดมิเนียมย่านบางเเค ล่าสุด ตำรวจขออนุมัติศาลออกหมายจับเเล้ว 

เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงกลางดึก คืนวันที่ 3 ต่อเช้าวันที่ 4 มกราคม วงจรปิดบนชั้น 7 ภายในคอนโดมิเนียม บันทึกพฤติกรรมคนร้าย ขณะพาช่างมาเปิดประตูให้ลูกบ้าน หลังลืมกุญเเจไว้ในห้อง 

ราวเที่ยงคืนเศษ ผู้เสียหายยกมือไหว้ขอบคุณ เก็บของเดินกลับเข้าห้อง โดยหารู้ไม่ว่า ชายชุดดำ ซึ่งมีตำเเหน่งเป็นถึงหัวหน้ารปภ. จะวกกลับมา ทำทีเคาะประตูสอบถามความเรียบร้อย เธอเเง้มออกมาดูเเละพูดคุยกันไม่กี่คำ ก่อนที่หัวหน้ารปภ. รายนี้ จะใช้กำลังที่มากกว่าดันประตูเเละเข้าไปให้ห้อง

การสืบสวนของตำรวจในเบื้องต้น ระบุว่า คนร้ายจู่โจมเข้าถึงตัวผู้เสียหายทันที ก่อนจะใช้กุญเเจมือที่พกมาด้วย ล็อคที่ข้อมือบังคับขืนใจเเละก่อเหตุล่วงละเมิด

ผ่านไป 22 นาที ราวเที่ยง 55 นาที ชายคนนี้เดินออกจากประตู ใช้ลิฟท์เเละหนีลงไปชั้นล่าง

ผู้เสียหายโทรหาญาติ ประสานตำรวจสน.เพชรเกษม เข้าช่วยเหลือ เเต่เมื่อมาถึงคอนโด รปภ.ไม่อนุญาตให้ทั้งญาติเเละตำรวจเข้า จนเวลาล่วงเลยนานกว่าหนึ่งชั่วโมง ประสานนิติคอนโดขอตรวจสอบภาพวงจรปิด จึงได้เห็นพร้อมกันว่า ผู้ที่ก่อเหตุ เป็นผู้รักษาความปลอดภัยสูงสุดที่มีคีย์การ์ดสามารถเข้า-ออก คอนโดได้ครบทั้ง 28 ชั้น

ตำรวจค้นทั่วบริเวณไม่เจอตัว จึงต้องกลับมาตรวจดูวงจรปิดซ้ำ เเละพบว่า หัวหน้ารปภ.รายนี้ เพิ่งจะปีนกำเเพงหนีออกไปในเวลาตี 2

ล่าสุดตำรวจขออนุมัติศาลออกหมายจับ ทราบชื่อคือ นายมนตรี ใหญ่กระโทก อายุประมาณ 40 ต้น ๆ ถูกตั้งข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น และบุกรุกเคหะสถานในยามวิกาล ตรวจประวัติย้อนหลัง พบเคยก่อคดีมาเเล้วโชกโชน

ปี 2544 เคยถูกดำเนินคดีต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ปี 2556 ก่อคดีกระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ในพื้นที่จ.สระเเก้ว ติดคุกอยู่ 4 ปี พ้นโทษออกมาในปี 2560 เเละมาสมัครเป็นรปภ.ในปี 2562 ส่วนอุปกรณ์ของนายมนตรี ที่ตำรวจค้นเจอในป้อม มีทั้งมีดเเละกุญเเจมือ

ข่าว 3 มิติ พบข้อมูลจากคนใกล้ชิด ยืนยันว่านายมนตรี ใหญ่กระโทก เปิดห้องพักในซอยเพชรเกษม 47 ไม่ไกลจากคอนโด ตำรวจกำลังปูพรมเเกะรอยตามไล่ล่า ทั้งในกรุงเทพเเละต่างจังหวัด

มีรายงานว่า ตำรวจเตรียมเรียกนิติบุคคลคอนโดเข้าชี้เเจง หลังถูกร้องมีพฤติการณ ไม่ให้ความร่วมมือกับตำรวจในการเข้าไปจับกุมคนร้าย โดยอ้างว่าไม่มีหมายค้นและอยู่ในยามวิกาล เช่นเดียวกับ ต้นสังกัดของหัวหน้ารปภ. ที่อาจโดนสอบสวน กรณีรับบุคคลที่เคยต้องโทษคดีข่มขืนกระทำชำเราเข้าทำงาน

ทั้งที่ใน พ.ร.บ.ธุรกิจรักษาความปลอดภัย ระบุชัดเจนว่า ห้ามรับบุคคลใด ที่ต้องโทษคดีความผิดทางเพศ เข้าทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย หากบริษัทรักษาปลอดภัย ไม่ตรวจสอบประวัติย้อนหลังกับผู้ที่มาสมัครเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ก็จะเข้าข่ายมีความผิดด้วยเช่นกัน

ที่น่าสนใจก็คือ ผู้ต้องหารายนี้ มีใบอนุญาต ทภ.7 ที่รับรองจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล จึงมีคำถามว่า ก่อนออกใบอนุญาต ผู้ที่เดี่ยวข้องได้มีการตรวจสอบประวัติหรือไม่ เเละใครหรือหน่วยงานใดบ้าง ที่ต้องมีส่วนรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น