แคลิฟอร์เนีย หวนใช้คำสั่งสวมแมสก์ในที่ร่ม หลังโอมิครอนระบาดหนัก

แคลิฟอร์เนียสั่งบังคับใช้การสวมหน้ากากในพื้นที่สาธารณะในร่ม โดยไม่สนใจว่าจะได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้วหรือไม่ โดยคำสั่งนี้มีผลในวันนี้ 15 ธันวาคม ไปถึงวันที่ 15 มกราคมปีหน้า

หลังจากที่การระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอนในสหรัฐฯ ลามไปหลายรัฐมากขึ้น โดยล่าสุดได้พบใน 11 รัฐแล้ว

ข้อกำหนดดังกล่าวระบุให้ ทั้งรัฐกำหนดให้ทุกพื้นที่สาธารณะในร่มเป็นเขตการสวมหน้ากากอนามัยโดยที่ไม่ต้องสนใจสถานภาพการได้รับวัคซีน

นอกจากนั้น ยังกำหนดให้ผู้เข้าร่วม งานอีเวนท์ หรือการจัดแสดงภายในร่มที่มีคนเข้าร่วมเกินกว่า 1,000 ราย ต้องแสดงส่งผลาการตรวจหาโควิด-19 ด้วย ถ้าหากคนเหล่านี้ ไม่มีหลักฐานการรับวัคซีนโควิด-19 โดยกำหนดให้ผู้เข้าร่วมต้องยื่นผลการตรวจหาเชื้อภายใน 1 วัน สำหรับการตรวจแบบ แรพพิด เทสต์  และ 2 วันสำหรับการตรวจหาแบบพีซีอาร์

นอกจากนี้ ชาวแคลิฟอร์เนียที่เพิ่งเดินทางกลับเข้ารัฐ หรือนักท่องเที่ยวที่เพิ่งเดินทางมาถึงให้ตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19ภายใน 3 -5 วันหลังจากการเดินทางด้วย

ทั้งนี้ รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้พบผู้ติดเชื้อโอมิครอนเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา และนับตั้งแต่เทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าเป็นต้นมานั้น แคลิฟอร์เนียพบคนติดเชื้อโควิดเพิ่มมากขึ้นถึง 47% ทีเดียว

นอกจาก แคลิฟอร์เนียแล้ว ทางด้านรัฐนิวยอร์ก ก็สั่งบังคับใช้การสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะด้วยเช่นกันตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา  โดยจะมีการบังคับใช้ไปถึงวันที่ 15 ม.ค นี้