จะจบเช่นไร? ลุ้นคดีเสือดำ ศาลฎีกาเตรียมอ่านคำพิพากษา 'เปรมชัย' และพวกวันนี้!

เป็นคดีใหญ่ ที่สังคมกำลังจับตามอง คดีล่าเสือดำ ทุ่งใหญ่นเรศวร อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เหตุการณ์นี้ เกิดตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 ผ่านมา 3 ปี วันนี้ ( 8 ธ.ค.64) ศาลฎีกาจะอ่านคำพิพากษา ในเวลา 9.00 น.

ซึ่งคดีนี้มี นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลี่ยนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) นายยงค์ โดดเครือ คนขับรถของนายเปรมชัย / นางนที เรียมแสน แม่ครัว และนายธานี ทุมมาศ นายพราน ตกเป็นผู้ต้องหา จำเลยที่1-4

หลังจากนายเปรมชัยและพวกถูกจับกุมวันที่ 30 เม.ย.61 อัยการจังหวัดทองผาภูมิ สั่งฟ้องนายเปรมชัยกับพวกเป็นจำเลยต่อศาลทองผาภูมิ ในข้อหา

1.ร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปเมืองหมู่บ้านหือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

2.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต

3.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต

4.ร่วมกันมีไว้นครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่า

5.ร่วมกันซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้ด้วยประการใดๆซึ่งซากของสัตว์ป่า อันได้มาโดยกระทำผิดกฎหมาย

6.ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต

จากนั้น คดีเข้าสู่การพิจารณาของศาล มีการสืบพยานฝ่ายโจทก์ จำนวน 32 ปากรวม 10 นัด และสืบพยานจำเลยจำนวน 17 ปาก รวม 6 นัด หลังสืบพยานทั้ง 2 ฝ่ายจนครบ ศาลจังหวัดทองผาภูมิได้อ่านคำพิพากษา เมื่อวันที่19 มี.ค.2562

ศาลชั้นต้น สั่งจำคุกนายเปรมชัย 16 เดือน ไม่รอลงอาญา / สั่งจำคุก นายยงค์ 13 เดือน ไม่รอลงอาญา / สั่งจำคุก นางนที 4 เดือนและปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี และจำคุกนายธานี 2 ปี 17 เดือน ไม่รอลงอาญา ต่อมา จำเลยต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์สั่ง เพิ่มโทษนายเปรมชัย เป็นจำคุก 2 ปี 14 เดือน ไม่รอลงอาญา / ส่วนนายยงค์ ศาลเพิ่มโทษเป็น 2 ปี 17 เดือน / นางนที ศาลเพิ่มโทษเป็น จำคุก 1 ปี 8 เดือน ปรับ 40,000 บาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี

ส่วนนายธานี ซึ่งรับสารภาพอ้างว่าเป็นคนยิงเสือดำ ศาลเพิ่มโทษเป็นจำคุก 2 ปี 21 เดือน และให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช 2 ล้านบาท ตามศาลชั้นต้น

โดยนายเปรมชัย , นายยงค์ และนายธานี ได้ยื่นประกันตัวเพื่อต่อสู้คดีในชั้นฎีกา โดยศาลสั่งเพิ่มวงเงินประกันตัว จากคนละ 600,000 บาท เป็นคนละ 1 ล้านบาท และกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาต พร้อมทั้งติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Monitoring) หรือ EM กำไลข้อเท้า ติดตัวนายเปรมชัย และพวก ที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ทั้ง 3 คน

ต่อมา นายเปรมชัย ได้ส่งทนายยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอถอดกำไล EM โดยอ้างเหตุผลว่า นายเปรมชัย มีปัญหาด้านสุขภาพโดยเฉพาะโรคเบาหวานทำให้กำไลที่อยู่ข้อเท้านั้นบีบรัดข้อเท้าอักเสบเป็นแผล แต่ศาลไม่อนุญาต เพราะเกิดแผลที่ข้อเท้าด้านซ้าย ส่วนกำไลอีเอ็มใส่อยู่ที่ข้อเท้าด้านขวา

ทั้งนี้ หลายฝ่ายกังวลว่า วันนี้ (8 ธ.ค.) นายเปรมชัยจะมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกาหรือไม่นั้น ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากทางทีมโฆษกศาลยุติธรรม ระบุว่า นายเปรมชัย กับพวก ยังคงใส่กำไลอีเอ็มติดที่ข้อเท้าเหมือนเดิม ไม่มีการถอดหรือเคชื่อนบ้ายไปต่างประเทศ และศาลยังไม่มีคำสั่งให้ถอดกำไลอีเอ็ม

อย่างไรก็ตาม วันนี้ (8 ธ.ค.) คงต้องติดตามว่า จำเลย ทั้งหมด จะเดินทาง มาฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิหรือไม่ เพราะถือเป็นนัดชี้ชะตา และคงเป็นที่จับตาของสังคมว่า ท้ายที่สุดแล้วคดีนี้จะจบลงเช่นไร

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/nFcqJ73__XY