เปิดใจรปภ.ฮีโร่จับโจรชิงเงิน

รปภ.ฮีโร่ ใจเด็ดประกาศต้องจับโจรให้ได้ แม้ตัวเองอาจต้องตาย ขณะหลายหน่วยแห่เยี่ยมให้กำลังใจถึงขอบเตียง โชเซียลยกย่องอวยพรให้หายเร็วๆ

นายขุนทอง ศรีชัยยะ อายุ 51 ปี รปภ.ฮีโร่ ช่วยจับกุมคนร้ายบุกชิงเงินธนาคารออมสิน สาขาทียูโดม ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เปิดใจหลังเข้ารักษาอาการบาดเจ็บจนพ้นขีดอันตรายว่า ถึงแม้ว่าตนเองต้องเสียชีวิตในเหตุการณ์รุนแรงครั้งนี้ก็พร้อมจะยอมตายขอเพียงจับกุมคนร้ายได้ พร้อมระบุตอนแรก ตนเองคิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นพนักงานไรเดอร์(ส่งของ)ที่เข้ามาซื้อของร้านข้างๆที่ติดกับธนาคารฯ แต่ปรากฎว่าคนร้ายได้เอามีดมาปาดคอ ทำให้ตนเองตกใจสุดขีด ก่อนจะเข้าไปขวางไว้ เกิดการต่อสู้กันและถูกคนร้ายใช้มีดปาดจนรู้สึกร้อนที่บริเวณลำคอ จึงได้ป้องกันตัวเองด้วยการใช้เก้าอี้โต้ตอบแต่ทันใดนั้น เห็นว่าคนร้ายสวมหมวกกันน็อคและวิ่งเข้าไปในธนาคารเพื่อเอาเงิน จึงรอเวลาจนกระทั่งคนร้ายจะออกมาจึงได้ใช้เก้าอี้เพื่อยับยั้งไม่ให้คนร้ายวิ่งหนีพร้อมกับตระโกนขอความช่วยเหลือจากพลเมืองที่อยู่ในละแวกดังกล่าว จนกระทั่งสามารถควบคุมตัวคนร้ายได้ แต่อย่างไรก็ตาม การปฎิบัติหน้าที่ครั้งนี้ยืนยันว่าจะต้องทำวิถีทางเพื่อจับกุมคนร้ายให้ได้แม้ตนเองต้องตายก็ตาม อีกทั้งตัวเองคิดว่าไม่รอดจากการที่ถูกคนร้ายใช้มีดปาดคอแล้ว

ด้านนางอำพร สีโคกกรวด อายุ 49 ปี ภรรยา กล่าวว่ารูัสึกภูมิใจกับวีรกรรมของสามีในการปฎิบัติหน้าที่ของตนเอง เพราะที่ผ่านมาสามีเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนฝูงรวมทั้งประชาชนที่มาใช้บริการกับธนาคารออมสิน ด้วยการช่วยเหลือและให้คำแนะนำกับประชาชนที่มาติดต่อ หลังจากนี้เรื่องความปลอดภัยในหน้าที่ทำงานก็ให้สามีพิจารณาและประเมินสถานการณ์ด้วยตนเอง ซึ่งมันเป็นเรื่องในอนาคต แต่ก็ยอมรับว่ามีความเป็นห่วงอาชีพของสามี แต่เบื้องต้นสามีก็ยังยืนยันว่าจะทำอาชีพ รปภ.ต่อไป เนื่องจากเป็นอาชีพที่ทำแล้วมีความสุข

ทั้งนี้ บรรยากาศที่โรงพยาบาลวันนี้ได้มีหลายหน่วยงาน อาทิ กองบัญชาตำรวจภูธรภาค1, ตัวแทนจากธนาคารคนใกล้ชิดเข้ามาเยี่ยมและให้กำลังใจถึงหน้าตึก ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวดของทางโรงพยาบาล ขณะโซเชียลต่างชื่นชม รปภ.ฮีโร่ที่มีความเสียสละกล้าหาญในการทำหน้าที่อย่างไม่กลัวตายพร้อมกับอวยพรให้อาการปลอดภัยโดยเร็ว