‘พระมหาสมปอง’ เผยกำหนดสึกปี 2566 ยัน ‘พระมหาไพรวัลย์’ เตรียมลาสิกขาต้นเดือนธันวานี้

พระมหาสมปอง ยืนยัน พระมหาไพรวัลย์เตรียมลาสิกขาจริง 4-5 ธันวาคมนี้ ด้านพระมหาสมปอง ระบุมีกำหนดการลาสิกขาเช่นกัน 3 พ.ย.2566

จากกรณีที่ พส.แห่งยุค พระมหาไพรวัลย์เปลี่ยนชื่อเพจเป็น ไพรวัลย์ วรรณบุตร จนทำให้เกิดกระแสว่าจะลาสิกขานั้น ล่าสุด พระมหาสมปอง ยืนยันแล้วว่า พระมหาไพรวัลย์เตรียมลาสิกขาจริง 4-5 ธันวาคมนี้ ด้านพระมหาไพรวัลย์งดตอบสื่อ เตรียมเดินทางไปงานที่เชียงใหม่คู่กับพระมหาสมปองด้านพระมหาสมปอง ระบุมีกำหนดการลาสิกขาเช่นกัน 3 พ.ย.2566

โดยบรรยากาศที่วัดสร้อยทอง ตลอดช่วงเช้าวันนี้ มีสื่อมวลชนจำนวนมาก มาติดตามความเคลื่อนไหว พระมหาไพรวัลย์ หลังมีกระแสข่าวว่าการเปลี่ยรชื่อเพจ อาจจะลาสิกขาบท ซึ่งตลอดช่วงเช้า พระมหาไพรวัลย์ยังเก็บตัวอยู่ในกุฏิ และยังไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ใดๆ กระทั่งเวลาประมาณ 10.00 น. ได้มีรถ 5 ประตูสีแดง ขับมารับพระมหาไพรวัลย์ด้านหลังกุฏิ แล้วขับออกไปทันที โดยสื่อมวลชนไม่ทันได้บันทึกภาพใดๆ

จากนั้น พระมหาสมปอง ตาลปุตโต ก็ได้มาพูดคุยกับสื่อมวลชนแทน พร้อมกับวีดีโอคอลหา พระมหาไพรวัลย์ ต่อหน้าสื่อมวลชน โดยระบุกับพระมหาไพรวัลย์ว่า อยู่ที่ไหนมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยพระมหาสมปอง กล่าวติดตลกว่า เคยติวแล้วว่าเป็นศัตรูกับใครก็ได้ อย่าเป็นศัตรูกับสื่อมวลชน

จากนั้นพระมหาไพรวัลย์ ได้แจ้งผ่านพระมหาสมปองว่า ให้ตอบคำถามแทนได้ทุกเรื่อง และตนเองจะให้สัมภาษณ์ทีเดียว หลังลาสิกขา ก่อนที่พระมหาไพรวัลย์จะขอให้พระมหาสมปองถ่ายภาพสื่อมวลชนที่มารอสัมภาษณ์ด้วย แล้วจึงวางสายไป

จากนั้นพระมหาสมปอง จึงได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า พระมหาไพรวัลย์ ได้แจ้งกับตนว่า รู้สึกเบื่อแล้ว รำคาญ ดูแล้วไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว (เรื่องตำแหน่งเจ้าอาสาส) ซึ่งที่ผ่านมา มีการขอให้งดการไลฟ์สดคู่กัน ซึ่งพระมหาไพรวัลย์เคยบอกว่า ห้ามอะไรก็ห้ามได้ แต่อย่าห้ามไลฟ์ และที่ถูกสั่งห้ามไลฟ์ เพราะเหมือนโดนหลอกให้นิ่ง ไม่ให้พูด เพราะดูไม่น่ารัก และพระมหาสมปอง บอกว่า จะมีการออกงานคู่กันครั้งสุดท้ายที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 3 ธันวาคม และคาดว่า ประมาณวันที่ 4 หรือ 5 ธันวาคม พระมหาไพรวัลย์ จะลาสิกขา และคาดว่าจะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในฐานะฆราวาสในวันที่ 6 ธันวาคม

ทั้งนี้ พระมหาไพรวัลย์ ค่อนข้างมั่นใจว่า เจ้าคุณอุทัย รักษาการเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง องค์ปัจจุบัน จะไม่ได้ขึ้นตำแหน่งเจ้าอาวาส ซึ่งมหาไพรวัลย์มองว่า เป็นความไม่ยุติธรรม จึงขอถวายตำแหน่งในฐานะเป็นพระลูกวัดสร้อยทอง ให้กับเจ้าคุณอุทัย เพราะไม่มีอะไรจะมอบให้มากกว่านี้ และเชื่อว่ามีทั้ง 2 กลุ่ม ที่ทั้งอยากให้สึก และไม่อยากให้สึก ซึ่งที่ไม่อยากให้สึกส่วนใหญ่จะเป็นลูกเพจ พร้อมยืนยันว่า การตัดสินใจสึกครั้งนี้ พระมหาไพรวัลย์ ตัดสินใจทุกอย่างด้วยตนเอง ไม่มีรับงานไม่มีรับเงินใดๆ และที่เจอล่าสุด ก็ร่าเริงแจ่มใส ปกติดีไม่เครียด

ส่วนแนวทางหลังจากสึกออกไปแล้ว น่าจะทำให้การพูด และการบรรยายทำได้เต็มที่ และพูดได้แรงมากกว่านี้ด้วย และอาจจะมีนักวิชาการด้านพุทธศาสนาที่ไม่แบ๊ว อาจจะจึ้ง ต๊าซ โดนใจ เข้มขึ้นมากขึ้นอีกคนหนึ่ง รวมถึงอาจจะมีร้านกาแฟด้วย แต่ยืนยันว่า พระมหาไพรวัลย์ไม่ไปเล่นการเมือง แม้ส่วนตัว อยากเห็นน้องอยู่ในสภา และสื่อสารข้อมูลที่เป็นจริง ฟาดในสภาก็ตาม

พระมหาสมปอง ยังกล่าวอีกว่า กรณีที่ท่านเจ้าคุณอุทัยไม่ได้ขึ้นตำแหน่งเจ้าอาวาสนั้น แต่ท่านเคยกล่าวว่า ก็ยังมีตำแหน่งอื่นๆ ซึ่งต่อให้ไม่ว่าท่านจะอยู่ในตำแหน่งไหน วงการสงฆ์ต้องอยู่ และพระพุทธศาสนาต้องไม่เสียหาย และส่วนตัว แล้วแต่ใครจะขึ้น เพราะตนเองไม่ได้ทำประโยชน์ให้กับวัดมาก เพิ่งจะมาทำในช่วงหลังที่แบทเทิลคู่กับพระมหาไพรวัลย์

พร้อมยอมรับว่า ส่วนตัวพระมหาสมปองเอง มีกำหนดการที่จะลาสิกขา ในวันที่ 3 พ.ย.2566 ซึ่งตรงกับวันเกิดอายุครบ 44 ปี ซึ่งสาเหตุที่จะลาสิกขา มองว่า เป็นเรื่องธรรมดา เพราะมีนิสิตมหาจุฬาฯ หลายคนที่ลาสิกขาไปทำเรื่องอื่นๆ ซึ่งคนเรามีหลายสถานภาพ และยืนยันว่า กำหนดการสึกของตนเองไม่ได้มีแรงกดดันใดๆ และหากจะสึกก็สึกเพราะตนเองไม่ได้สึกเพราะคน

ขณะที่ทีมข่าวได้เจอกับ 1 ในลูกศิษย์ของพระมหาไพรวัลย์ คือ คุณกมลชัย ประจัน บอกว่า วันนี้ พอทราบข่าว ก็ตั้งใจเดินทางมากราบพระมหาไพวัลย์ ตอนแรกที่เห็นโพสต์รู้สึกตกใจ และยังสงสัยว่าท่านลาสิกขาจริงหรือไม่

ที่ผ่านมา ติดตามมานานกว่า 4 ปี ตั้งแต่คนที่ไม่เคยเข้าวัด แต่มีวันหนึ่งที่เห็นท่านเทศน์ในพระอุโบสถที่วัดแล้วสนุก เข้าใจง่าย จึงเริ่มมาติดตาม และส่วนใหญ่ท่านจะสอนหลักธรรม ที่สนุกเข้าใจง่าย และสอนไม่ให้งมงาย และแม้ท่านจะสึกออกไปแล้ว ก็จะยังรอติดตามเหมือนเดิม และเคารพการตัดสินใจของพระมหาไพรวัลย์ ส่วนตัวยอมรับว่าเคยทราบมาซักระยะหนึ่ง จากในเพจ Facebook ที่ท่านเปรยว่าจะมีการลาสิกขา

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ช่วงเย็นวันนี้ (18.00 น.) พระมหาไพรวัลย์ จะเดินทางไปทำกิจกรรมที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกับพระมหาสมปอง เพื่อทำกิจกรรมคู่กันเป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ ก่อนเดินทางกลับมาและลาสิกขา